แบงก์เร่งกันสำรองป้องหนี้เสีย 'ชาติศิริ' ยอมรับรอบนี้หนักกว่าปี 40

แบงก์เร่งกันสำรองป้องหนี้เสีย 'ชาติศิริ' ยอมรับรอบนี้หนักกว่าปี 40

“แบงก์กรุงเทพ” ประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้เสี่ยงติดลบ 10% ยอมรับวิกฤติรอบนี้หนักกว่าปี 40 ฉุดผลดำเนินงานแบงก์วูบ หนี้เสียส่อพุ่งยาวถึงปีหน้า เร่งกันสำรองเพิ่มต่อเนื่อง มั่นใจบริหารจัดการได้ พร้อมสั่งทุกสาขาช่วยพยุงลูกหนี้ใกล้ชิด

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า หากดูประมาณการณ์เศรษฐกิจหรือจีดีพีปีนี้ คาดว่ามีโอกาสติดลบระดับ 10 % ดังนั้นก็น่าจะกระทบต่อภาพรวมของธนาคารปีนี้ด้วย ทั้งนี้ยอมรับว่า วิกฤติครั้งนี้ ลำบากกว่าปี 2540 ที่กระทบต่อทุกเซอกเตอร์

สำหรับภาพรวมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล ยอมรับว่า มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง หากเทียบกับปลายปี 2562 ที่เอ็นพีแอลอยู่ที่ 7.5 หมื่นล้านบาท หรือ3.4% มาอยู่ที่ ระดับ 8.5 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 3.48-3.5% ของสินเชื่อรวม ในไตรมาสแรกที่ผ่านมา ขณะที่แนวโน้มเอ็นพีแอลในระยะข้างหน้า คาดจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปีนี้ และจะต่อเนื่องไปถึงปี 2564 ด้วย

“แนวโน้มเอ็นพีแอลปีนี้ ยังเห็นเพิ่มขึ้นทั้งปีนี้และปีหน้า ดังนั้นการตั้งสำรองก็ต้องให้สอดคล้องกัน และยอมรับว่าภาวะนี้ ยาก และไม่ง่ายต่อการบริหาร หากเทียบกับสถานการณ์ปกติ แต่ธนาคารก็เชื่อว่า จะสามารถบริหารจัดการสถานการณ์นี้ได้ จากมาตรการที่ทางการเตรีมพร้อมไว้ และปีที่ผ่านมา ธนาคารมมีการสร้าง ขีดความสามารถด้านต่างๆเพิ่มขึ้น ดังนั้นก็น่จะบริหารสถานการณ์นี้ได้”

ทั้งนี้ ภายใต้สถานการณ์เอ็นพีแอลที่เพิ่มขึ้น ในไตรมาส 2 ปี 2563 นี้ จะเห็นธนาคารยังมีการตั้งสำรองสำหรับหนี้ที่ยังไม่เป็นเอ็นพีแอลในStage 2 ตามมาตรฐานบัญชีใหม่ไว้แล้วระดับหนึ่งด้วย​

นายชาติศิริ ยังกล่าวอีกว่า จากผลกระทบที่เกิดขึ้น ธนาคารให้ทุกหน่วยงานของธนาคารมีการติดตาม ช่วยเหลือลูกหนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นสิ่งที่ธนาคารต้องดำเนินการต่อเนื่อง ไปถึงครึ่งปีแรกปี 2564

สำหรับการงดจ่ายปันผลระหว่างการ ตามนโยบายธปท. ธนาคารคงต้องงดการจ่ายปันผล ส่วนปันผลทั้งปีมีโอกาสกลับมาจ่ายหรือไม่ ยังไม่ทราบ ต้องติดตามนโยบายของธปท.ก่อน

ทั้งนี้ปัจจุบันธนาคารอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างปรับระบบ เพื่อให้สอดรับกับยุคดิจิทัล และให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค ซึ่งหลังจากนี้จะเห็นธนาคารพัฒนาระบบต่อเนื่อง โดยปีนี้คาดใช้งบลงทุนด้านเทคโนโลยีราว 4-6 พันล้านบาท

สำหรับ การบินไทย ยอมรับว่า เป็นลูกค้าของธนาคาร ดังนั้นขณะนี้ธนาคารก็มีการติดตามลูกหนี้ และติดตามแผนฟื้นฟูต่างๆอย่างต่อเนื่อง ซึ่งธนาคารได้มีการตั้งสำรองตามเกณฑ์ธปท.ไว้เรียบร้อยแล้ว

ด้านการลงทุนในต่างประเทศ หลังธนาคารมีการซื้อกิจการ ธนาคารพีที เพอร์มาตา ซึ่งเมื่อ20พ.ค. ได้ชำระเงินซื้อหุ้น เพอร์มาตาร์เรียบร้อยแล้ว กว่า 89% แล้ว และปัจจุบันอยู่ระหว่างการทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ สำหรับสัดส่วนหุ้นที่เหลือ ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ของ ตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย