อ่อนตัว

อ่อนตัว

Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ :

คาดดัชนีฯ อ่อนตัว แนวต้าน 1380 / 1385 จุด แนวรับ 1355 / 1350 จุด ปัจจัยลบ มาจากการวิตกต่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัว หลังจานวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มขึ้นในหลายประเทศ ทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ปัญหาข้อขัดแย้งระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และการปรับครม. รอบใหม่ของไทย ส่วนปัจจัยบวก มาจากแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นกำไรเติบโตดี และได้ประโยชน์จาก New Normal ช่วยหนุนตลาด

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้ ได้แก่

        1) ตลาดหุ้นโลกวานนี้อ่อนตัว วิตกต่อการ lockdown รอบใหม่ เพื่อคุมการระบาด

        2) ความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐฯ คาดว่าปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง (เพิ่มความเสี่ยงต่อ Phase One Deal)

        3) นายกฯ เผยพร้อมปรับครม. ได้ตลอดเวลา เพิ่มความเสี่ยงการเมืองสูงขึ้น

        4) สัปดาห์หน้า ลุ้นโมเมนตัมบวกรับข่าวดี จากรายงาน 2Q20E GDP จีน และผลประชุม ECB/BOJ

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: Singapore-เลือกตั้งใหม่, USA-รายงาน PPI เดือน มิ.ย. คาด +0.4% MoM (Vs เดือน พ.ค. +0.4%), Core PPI เดือน มิ.ย. คาด +0.1% MoM (Vs เดือน พ.ค. -0.1%)

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดบวก: ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1358-1370 จุด ก่อนแรลลี่ปลายตลาดมาปิดที่ 1,365.81 จุด +3.35 จุด +0.25% วอลุ่ม 7.27 หมื่นล้านบาท กลุ่มชิ้นส่วนฯ+ 2.2% วัสดุฯ +1.4% โรงพยาบาล +1.12% หุ้นปรับขึ้น >4% STGT PTL EA PRM JMT CBG CHAYO NEX TQM ORI INSET SPVI CPW CWT AMATAV SIMAT ORI และหุ้นร่วงแรง >4% PSL FN ZEN VCOM SPACK IHL ALL

- ตลาดหุ้นโลกส่วนใหญ่ปิดลบ ยกเว้น Nasdaq: DJ -1.39% S&P500 -0.56% Nasdaq +0.53% เป็นผลจากการร่วงลงแรงของหุ้น Wallgreen -7.7% หลังจากรายงานขาดทุนแย่กว่าคาด (เป็นหุ้นคำนวณใน DJIA ตัวแรกที่ประกาศงบ) และกังวลทางการอาจ lockdown ภาคธุรกิจรอบใหม่ ส่วนตลาดหุ้น Nasdaq ปรับขึ้นเล็กน้อย จากแรงซื้อหุ้นเทคโนโลยีกลุ่ม FAANG ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงต่อเป็นวันที่สาม DAX -0.04% CAC40 -1.2% วิตกเศรษฐกิจโลกชะลอตัว จากการระบาดรอบสองของ COVID-19

- น้ำมันดิบและทองปิดร่วง: WTI -USD1.28 ปิด USD39.62/บาร์เรล Brent -94 เซนต์ ปิด USD42.35/บาร์เรล วิตกอุปสงค์น้ำมันโลกชะลอตัว จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น ส่วนราคาทองคำลดลง -USD16.8 หรือ -0.92% ปิดที่ USD1803.8/ออนซ์ จากแรงขายทำกำไร หลังทำสถิติสูงสุดรอบ 9 ปี

ประเด็นสำคัญ

- COVID-19 Update ณ วันที่ 9 ก.ค.: อิงข้อมูล Worldometers รายงานสรุปผู้ติดเชื้อทั่วโลก 24 ชม. ที่ผ่านมา มี 12.37 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 5.56 แสนราย นำโดยสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 3.21 ล้านราย เพิ่มขึ้น 6.1 หมื่นราย (วันก่อนหน้า 6.13 หมื่นราย) บราซิล 1.75 ล้านราย (เพิ่มขึ้น 4.29 หมื่นราย) อินเดีย 7.94 แสนราย (+2.58 หมื่นราย) ส่วนญี่ปุ่นกลับมามีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มถึง 197 ราย (สูงกว่า 100 ราย เป็นวันที่ 7 รอบ 8 วันที่ผ่านมา)

+ ไทย: ศบค. รายงานวันพฤหัสบดี (9 ก.ค.) พบว่ามีผู้ติดเชื้อใหม่ 5 ราย อยู่ในสถานกักกัน (Vs วันพุธ มีจำนวน 2 ราย) สะสม 3,202ราย อยู่ในอันดับ 99 ของโลก และไม่มีผู้ติดเชื้อจากในประเทศต่อเนื่อง 45 วัน

- USA: วันพุธที่ผ่านมา รัฐแคลิฟอร์เนียพบผู้ติดเชื้อวันเดียวสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 1.1 หมื่นราย ทำให้จำนวนผู้ที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น 44% และผู้ต้องการเข้า ICU เพิ่ม 34% ในสองสัปดาห์ที่ผ่านมา

+ USA: Initial weekly Jobless Claims สัปดาห์ที่ผ่านมา รายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 1.314 ล้านราย ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 1.375-1.39 ล้านราย และลดลงเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 1.427 ล้านราย (บ่งชี้เศรษฐกิจฟื้นดีขึ้น)

+ Germany: ดุลการค้าเดือน พ.ค. อยู่ที่ 7.6 พันล้านยูโร สูงกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ +5.2 พันล้านยูโร

- ไทย: นายกฯ เผยการปรับครม. มีได้ตั้งแต่วานนี้เป็นต้นไป ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและปรับตามความจำเป็น หลังจากกลุ่มคุณอุตตมะ-สนธิรัตน์-สุวิทย์-กอบศักดิ์ แถลงข่าวลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ โดยชี้แจงเหตุผลว่า ภารกิจการเมืองบรรลุเป้าหมายแล้วและมีคณะผู้บริหารชุดใหม่ที่พร้อมนำทางต่อไป

แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: RS SC PTG

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: CBG CPALL GULF INTUCH IVL KBANK MTC PRM STGT PTL

Derivatives: รอประเมินสถานการณ์ เพื่อรอดูความชัดเจน (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)