กังวลสหรัฐ Lockdown

กังวลสหรัฐ Lockdown

ดัชนีวานนี้ปิดบวก 3.35 จุด และแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบบวกสลับลบตลอดช่วงการซื้อขาย ซึ่งอ่อนแอกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่บวกเฉลี่ยเกือบ 1%

โดยตลาดภายในประเทศได้รับ Sentiment เชิงลบจากกลุ่มท่องเที่ยวในประเด็น Travel Bubble ที่ล่าช้า ประกอบกับขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุน โดยดัชนี SET Index ปิดที่ 1,365.81 จุด (+3.35 จุด) Volume 7.3 หมื่นลบ. ต่างชาติ +1,241.41 ลบ. TFEX +6,009 สัญญา ตราสารหนี้ +2,848 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 361.19 จุด -1.39% กังวลว่าสหรัฐอาจประกาศล็อกดาวน์ภาคธุรกิจรอบใหม่ หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดร่วงลง 1.28 ดอลลาร์ -3.1% ปิดที่ 39.62 ดอลลาร์/บาร์เรล กังวลจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นทั้งในสหรัฐและทั่วโลกอาจส่งผลกระทบตาอความต้องการใช้น้ำมัน และรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นกว่า 5 ล้านบาร์เรลสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง

-การเมืองในประเทศมีความไม่แน่นอนอาจเห็นการปรับครม .หลังมีการเปลี่ยนแปลงในพรรคพปชร.

-ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยเดือน มิ.ย. 63 ปรับตัวมาอยู่ที่ระดับ 31.5 ปรับตัวครั้งแรกในรอบ 14 เดือนและตัวเลขดัชนีที่ต่ำ 50 ทุกราย

-สัปดาห์หน้าหุ้นกลุ่มธนาคารส่งงบการเงินงวดครึ่งปีคาดแผ่วลงทั้ง yoy และ qoq

+ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดบวก 47.15 จุด +1.39% เช้าเปิด -31.66 จุด

+ดัชนีนิกเกอิปิดเพิ่มขึ้น 90.64 จุด +0.40% เช้านี้เปิดลบ 6.38 จุด วิตกโควิด

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 2.19 แสนลบ. ค่าเงินบาท 31.21 บาท/US

*จับตาสหรัฐเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย.

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐพุ่งขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดความกังวลว่ารัฐบาลอาจกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง ประกอบกับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวหลุดระดับ 40 ดอลลาร์/บาร์เรล คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,350-1,370 จุด

 

หุ้นรายงานพิเศษ

WP Analyst Meeting : คาดผลประกกอบการ 2Q20 เป็นจุดต่ำสุดของปี (“Neutral” ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus – บาท)

  • ผลประกอบการ 1Q20 มีรายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 4 พันล้านบาท ลดลง -2.9%YoYเนื่องมาจากปริมาณการขายรวมของก๊าซปิโตรเลียมเหลวลดลงจาก 1.90 แสนตัน เป็น 1.87 แสนตัน เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์ COVID 19 โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 40.59 ล้านบาท ลดลง -41.0%QoQ โดยภาพรวมของการลดลงดังกล่าว สาเหตุหลักเกิดจากภาครัฐได้ประกาศปรับลดราคา LPG ลงตั้งแต่ วันที่ 24 มีนาคม 2563 จาก 17.1795 บาท/กิโลกรัม เหลือ 14.3758 บาท/กิโลกรัม เพื่อช่วยเหลือในสถานการณ์ COVID 19 ส่งผลต่อต้นทุนสินค้าคงเหลือของกลุ่มบริษัท ซึ่งส่งผลให้อัตรากำไรลดลง จาก 1.93% เหลือ 1.17%
  • คาดผลประกอบการงวด 2Q20 จะเป็นจุดต่ำสุดของปี เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการ Lockdown ส่งผลให้ยอดขายในธุรกิจ Auto Gas (มีสัดส่วนรายได้ 23%) ลดลงราว 20% ในช่วงเดือน เม.ย. และเริ่มทยอยฟื้นตัวขึ้นจนเกือบกลับมาสู่ระดับปกติได้ในเดือน ก.ค. ทั้งนี้บริษัทคาดว่ารายได้ปี 20 จะหดตัวลงราว -5% จากระดับ 4 หมื่นล้านบาทในปี 19
  • ความเห็น เรามีมุมมองเป็นกลางหลังการประชุมนักวิเคราะห์ ในกรณีที่ไม่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ระลอกที่ 2 เราคาดว่าผลประกอบการจะเริ่มทยอยฟื้นตัวดีขึ้นในช่วง 2H20 อย่างไรก็ตามปัจจุบันราคาหุ้นยังซื้อขายในระดับต่ำที่ PER = 9.6 เท่า ขณะที่ SGP ซื้อขายที่ PER= 12.4 เท่า แนะนำ “Neutral”

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากแพ็กเกจ “เราเที่ยวด้วยกัน” (ERW CENTEL BA ASAP)
  • หุ้น Defensive Stock (ADVANC INTUCH DIF TTW BEM BTS CHG BCH)
  • หุ้น IAA Consensus แนะนำ (ADVANC CK CPALL CPF INTUCH)

หุ้นมีข่าว   

BKER (ถือรับเงินปันผล) ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์บัวหลวง เค.อี.รีเทลมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการมี 10 รายการมูลค่ารวม 1.13 หมื่นล้านบาท พื้นที่รวมเกือบ 1.4 แสนตรม. ได้แก่ ซีดีซี เดอะคริสตัล เอกมัย-รามอินทรา เดอะคริสตัล เอสบี-ราชพฤกษ์ อมอรินี-รามอินทรา แอมพาร์ค- จุฬา เพลินนารี มอลล์-วัชรพล สัมมากร เพลส รามคำแหง-รังสิต-ราชพฤกษ์ และ เดอะซีน-ทาวน์อินทาวน์ ภายในปีนี้มีแผนเข้าซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติม 3 รายการมูลค่ารวม 1 พันล้านบาท

ปลายงวด 1Q63 มีอัตราเข้าเช่าพื้นที่ (OR) 92.8% ใกล้เคียงกับปลายปี 62 อัตราค่าเช่าเฉลี่ย (ARR) 551 บาทลดลงจากปลายปี 62 ที่ระดับ 576 บาท 1Q63 มีกำไร

ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกจากการได้รับเข้าคำนวณดัชนี FTSE Global Equity Index Series ตั้งแต่ 22 มิ.ย. 63 และ yield เฉลี่ยราว 7-8%

(+) AOT (Bloomberg Consensus 59.43 บาท)  ธนารักษ์จ่อยกเว้นผลตอบแทนจากมูลค่าทรัพย์สิน (ROA) ให้ AOT กว่า 900 ล้านบาท ในงบปี 63 พร้อมลดนำส่งส่วนแบ่งรายได้จากเดิม 2 พันล้าน อาจเหลือแค่ 1 พันล้านตามผลประกอบการจริง คาดสรุปภายในเดือน ส.ค.นี้ พร้อมปรับสัญญาเช่าใหม่ยกเลิก ROA เปลี่ยนเป็นวิธีส่วนแบ่งรายได้ จาก 5% เป็น 6-7% ทั้งหมด โบรกฯคาดงบไตรมาส 3/63 ส่อขาดทุน 4,000 ล้านบาท ทั้งปีทรุด 78%นิตินัย” ย้ำนำส่งตัวเลขคาดการณ์ทั้งปีต่อตลท.แล้ว (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) VL (Bloomberg Consensus - บาท)   เร่งสรุปลงทุนธุรกิจเรือขนส่ง LNG ภายในปีนี้ ล่าสุดเจรจาลูกค้าแล้ว 2-3 ราย พร้อมเซ็นสัญญารับจ้างเดินเรือขนส่งน้ำมันดิบฯให้ BCP ระยะเวลา 5 ปี บุ๊กรายได้ 160 ล้านบาทต่อปี มั่นใจปีนี้รายได้โตกว่า 20%  (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) IHL (Bloomberg Consensus - บาท)    ส่งสัญญาณผลิตภัณฑ์โปรตีนแปรรูป “GROW PLUS” กระแสตอบรับคึกคัก พร้อมบุกขยายฐานลูกค้าตัวแทนจำหน่ายเพิ่ม พร้อมเดินหน้าเจรจาพันธมิตรญี่ปุ่น หวังกระจายสินค้า-ขยายฐานให้เข้าถึงผู้บริโภคในยุค “New Normal” ขณะที่วางเป้า 3-5 ปี ดันบริษัทลูก อินเตอร์ กรีน” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) BGC (Bloomberg Consensus 12.03 บาท) เดินหน้าขยายธุรกิจผ่านกลยุทธ์ช่วงครึ่งปีหลัง เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เล็งเติบโตจากธุรกิจใหม่ต่อยอดบรรจุภัณฑ์แก้ว และพลังงานหมุนเวียน ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 300-400 เมกะวัตต์ ภายใน 5 ปี (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) MINT (Bloomberg Consensus  19.92 บาท)  บิ๊ก MINT เคลียร์ปมหุ้น NH Hotel ร่วง ไม่ส่งผลกระทบเหตุไร้สภาพคล่องอาจจะทำราคาไม่สะท้อน ชี้ยุโรปแนวโน้มดี เปิดน่านฟ้าประเทศ ช่วยดันเที่ยวกันเอง เล็งเปิดโรงแรมไตรมาส 3 ถึง 80% ก่อนแตะ 100% ไตรมาส 4 สบช่องใช้นโยบายรัฐ กวาดนักท่องเที่ยวไทย ด้านโบรกแนะถือดัก MINT-W7 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PRM (Bloomberg Consensus 2.85 บาท)  จับตาการเปิดประเทศที่ชัดเจน คาดครึ่งปีหลังดีมานด์ยังเติบโตต่อเนื่อง เตรียมรับเรือเล็กเพิ่มจากประเทศจีนหลังโควิด-19 คลี่คลาย พร้อมมองหาเรือขนาดใหญ่เพิ่มอีก 1 ลำในช่วง ไตรมาสที่ 3/2563 ดันกองเรือแตะ 45 ลำจากปัจจุบัน 43 ลำ ด้านรายได้เชื่อว่าจะเติบโต 10% ตามเป้า (ที่มา ทันหุ้น)

(+) MTC (Bloomberg Consensus 8.62 บาท) มั่นใจยอดปล่อยสินเชื่อครึ่งหลังปี 2563 ฟื้นแรง รับคลายล็อกดาวน์ หนุนฐานลูกค้าขยายตัว พร้อมทุ่มงบ 120 ล้านบาท เพิ่มสาขาใหม่ 300-400 สาขา อัพฐานโกยรายได้เพิ่ม ด้านโบรกประเมินผลงานไตรมาส 2/2563 ดีต่อเนื่อง เชื่อมีกำไรไม่ต่ำกว่า 4.55 พันล้านบาท โต 7%  (ที่มา ทันหุ้น)

(-) DRT (Bloomberg Consensus 4.60 บาท)  วิเคราะห์ตลาดวัสดุก่อสร้างไตรมาส 3/2563 ยังชะลอตัวเนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซัน และจะฟื้นตัวดีขึ้นในไตรมาสสุดท้าย มั่นใจผลการดำเนินงานทั้งปี 2563 ได้ตามเป้า รุกแผนขยายกำลังการผลิตเครื่องจักรในสายการผลิตไฟเบอร์ซีเมนต์ NT-11 ต่อยอดอนาคตแกร่ง (ที่มา ทันหุ้น)