รองโฆษกฯ แจงยังไม่มีแผนถก 'CPTPP' ใน ครม.เศรษฐกิจ

รองโฆษกฯ แจงยังไม่มีแผนถก 'CPTPP' ใน ครม.เศรษฐกิจ

"รัชดา” แจงไม่มีการหารือเรื่องซีพีทีพีพีในครม.เศรษฐกิจ ระบุหากนำเข้า ครม.เมื่อใดจะแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบ ยืนยันรัฐบาลโปร่งใสต้องการให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลยันรัฐคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของประเทศแลประชาชน

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ายังไม่มีการพิจารณาเรื่องการเข้าร่วมความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ซีพีทีพีพี) ของประเทศไทย ในการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษกิจ หรือครม.เศรษฐกิจ ส่วนจะมีการนำเข้าสู่การหารือของ ครม.เมื่อใดนั้นจะมีการแจ้งให้ประชาชนทราบอย่างเป็นทางการอีกครั้งเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและให้ประชาชนรับทราบข้อมูลได้โดยทั่วกัน 

“เรื่องนี้ในระยะยาวเราคงต้องมีการพูดคุยกันถึงท่าทีที่ชัดเจนของประเทศไทย แต่ยังไม่ใช่ในการประชุม ครม.เศรษฐกิจ  ทั้งนี้ยืนยันว่าในการตัดสินใจเรื่องนี้รัฐบาลจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นสำคัญ” นางสาวรัชดากล่าว 

ก่อนหน้านี้นางสาวรัชดาเคยแถลงหลังการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมาว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเคยสั่งการด้วยตัวเองกับ รมว.พาณิชย์ให้หารือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับรายละเอียดของการเจรจา ซีพีทีพีพีนอกรอบเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันและเข้าใจในแนวทางเดียวกันเกี่ยวกับประเด็นสำคัญในการเข้าร่วมซีพีทีพีพีก่อนหารือในครม.อีกครั้ง

นางสาวรัชดา กล่าวว่า กรณีการเสนอเรื่องซีพีทีพีพีเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.นั้น ยังไม่ได้เป็นการขอมติให้ไทยไปเข้าร่วมเป็นสมาชิกซีพีทีพีพี โดยเป็นเพียงการขออนุมัติในหลักการให้ไทยตั้งผู้แทนและคณะเจรจาที่นำโดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศไปเจรจาร่วมกับประเทศสมาชิก โดยในการประชุมรัฐมนตรีการค้าซีพีทีพีพีในเดือน ส.ค.นี้ โดยประเทศไทยต้องมีท่าทีที่ชัดเจนว่าจะเข้าร่วมเจรจาหรือไม่อย่างไร ส่วนเมื่อเจรจาแล้วได้ผลน่าพอใจแล้วเราจะเข้าไปเป็นสมาชิกซีพีทีพีพีก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของรัฐสภา ตามมาตรา 178 เพราะมีผลต่อความผูกพันทางพันธกรณีที่มีกับต่างประเทศ

ทั้งนี้ ยืนยันว่าการเจรจาต้องเจรจาเพื่อให้ไทยได้ประโยชน์มากที่สุด ส่วนประเด็นที่มีความกังวลว่าไทยจะเสียประโยชน์เรื่องสิทธิบัตรยา และเรื่องพันธุ์พืชนั้น ยืนยันว่าสามารถเจรจาต่อรองได้ เพื่อขอสงวนสิทธิ์ของไทยได้ ไม่จำเป็นต้องมีผลบังคับใช้ทันทีหลังจากที่เราเข้าไปเป็นสมาชิก

“การเจรจาซีพีทีพีพี ไม่ได้ทำให้กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์มีปัญหา แต่ที่ต้องหารือกัน เพราะต้องการให้เข้าใจประโยชน์ที่จะได้รับ ที่สำคัญการขอครม.ครั้งนี้ไม่ใช่การเข้าร่วม แต่ขอครม.เพื่อไปเจรจา ซึ่งนายกฯเข้าใจว่าภาคประชาชนมีข้อกังวลในเรื่องนี้ แต่ก็มองเห็นประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นอีกทาง ดังนั้นกระทรวงพาณิชย์กำลังดูมี 2 ประเด็นหลักๆ อย่างแรก คือ อะไรที่เป็นข้อมูล ต้องชี้แจงทำความเข้าใจให้ตรงกัน ส่วนอีกเรื่องเป็นด้านข้อมูล ส่วนนี้ต้องทำให้มีความชัดเจน เมื่อดูครบทุกด้าน” นางสาวรัชดาระบุ

รายงานข่าวแจ้งว่า  ตามกำหนดการเดิมวันที่ 10 ก.ค.นี้จะมีการประชุมครม.เศรษฐกิจ แต่ล่าสุดได้รับแจ้งว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ยกเลิกการประชุมออกไปก่อน