'สมคิด' เผย 'เจโทร' มั่นใจไทย ยึดฐานการผลิตไม่หวั่นโควิด

'สมคิด' เผย 'เจโทร' มั่นใจไทย ยึดฐานการผลิตไม่หวั่นโควิด

“สมคิด”หวังเศรษฐกิจครึ่งปีหลังฟื้นตัว รับ ทั่วโลกอ่วมจากโควิด-19 เผย “เจโทร” ยังมั่นใจลงทุนไทย ไม่ย้ายฐานการผลิต ชี้ไทยพร้อมเศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็วเมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ส่วนประธานเจโทรยาหอมไทยวิสัยทัศน์ดีช่วยมั่นใจลงทุน

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังหารือกับนายทาเคทานิ อัทสึชิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan External Trade Organization : JETRO) ที่ทำเนียบรัฐบาล วานนี้ (8ก.ค.) ว่าเจโทรกับหอการค้าญี่ปุ่นได้มารายงานผลสำรวจเรื่องการค้าการลงทุนในไทยประจำครึ่งแรกของปี 2563โดยมีการสำรวจในทุกประเทศที่ไปลงทุน

โดยผลการสำรวจที่ออกมาจากนักลงทุนญี่ปุ่นต้องยอมรับว่าทุกประเทศก็มีผลออกมาคล้ายกันคือประสบปัญหาจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งตนก็ได้ถามไปว่าจะเคลื่อนย้ายไปที่อื่นหรือไม่ โดยฝ่ายญี่ปุ่นยังมั่นใจว่าจะลงทุนอยู่ในประเทศไทย

ในโอกาสนี้จึงเสนอไปว่าควรจะมีการดูเพิ่มเติมถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงและการเคลื่อนไหวในการลงทุน โดยใช้ข้อมูลจากทุกประเทศที่ทางเจโทรได้ไปสำรวจมา โดยเฉพาะในลาตินอเมริกา จีน ยุโรป และเอเชีย ล้วนแล้วแต่มีการเคลื่อนไหวทั้งสิ้น ซึ่งเจโทรฉายข้อมูลเหล่านี้ออกมาให้ไทยได้รับทราบโดยสิ่งที่ญี่ปุ่นพูดคือตัวเลข การลงทุน และมาตรการภาษีของของไทยที่ดำเนินการได้เร็ว ทำให้มีความพึงพอใจ และการช่วยเหลือนักธุรกิจญี่ปุ่นชมเชยมายังไทยด้วยเช่นกัน

159420907158

นอกจากนี้ ได้ชี้แจงว่าปัจจุบันไทยอยู่ระหว่างการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ รวมทั้งการเข้าประเทศของกลุ่มธุรกิจ พร้อมนำข้อเรียกร้องของนักลงทุนญี่ปุ่นมาพิจารณา ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่ามาตรการ Fast Track เป็นอีกจุดเริ่มต้นที่ดีเพื่อจะกลับสู่การติดต่อสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ฝ่ายไทยได้ย้ำถึงความร่วมมือกับนักลงทุนในช่วงการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจ ซึ่งแม้ว่าช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ประเทศไทยมีมาตรการดูแลภายในที่ดี ควบคุมการติดเชื้อได้ และได้มีนโยบายมุ่งพัฒนาพื้นที่ EEC ซึ่งเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ไทยมั่นใจว่าจะเป็นประเทศแรกๆ ที่มีความพร้อมในการเดินหน้าทางเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ ซึ่งประธานเจโทรยืนยันพร้อมสนับสนุนเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจร่วมกัน

“อยากให้เขาทราบว่าขณะนี้มันหนักทุกประเทศ แต่เราต้องช่วยกัน เพื่อจะผ่านพ้นไปให้ได้หลังจากปลายปีนี้ ซึ่งช่วงครึ่งปีหลังจะเจอพายุพอสมควร ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยแต่เป็นทั้งหมด ช่วงไตรมาส 1-2 ที่ผ่านมา เป็นช่วงที่เราควบคุมสถานการณ์โควิด-19 อย่างเข้ม และผลกระทบจากตรงนั้นก็จะมา แต่หากเราผ่านพ้นตรงนี้ไปได้ สามารถขยายมาตรการออกไปได้ เราก็จะฟื้นตัว หวังว่าอย่างนั้น”

ส่วนการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ หรือ ครม.เศรษฐกิจ จะมีการายงานตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงโควิดหรือไม่นั้น นายสมคิดกล่าวเพียงว่า ต้องไปถามหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ คือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 

159420909131

ด้านนายทาเคทานิ อัทสึชิ ประธานเจโทร กล่าวว่าขอชื่นชมการทำงานและวิสัยทัศน์ของรัฐบาลไทยที่ส่งผลให้ประเทศไทยยังเป็นประเทศสำคัญสำหรับนักลงทุนญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าแม้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั่วโลกจะประสบปัญหาจากความท้าทายวิกฤติโควิด-19แต่นักลงทุนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ยังคงยืนยันจะดำเนินธุรกิจในไทย และมีความเชื่อมั่นที่จะขยายการลงทุนในไทยต่อไป

ทั้งนี้ เข้าใจดีว่าทั้งรัฐบาลไทยและญี่ปุ่นต่างต้องให้ความสำคัญ และดูแลความปลอดภัยของประชาชนในชาติเป็นสำคัญขณะที่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจยังคงมีความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับผลสำรวจของหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ (JCCB) ที่ได้ส่งแบบสำรวจไปให้บริษัทที่เป็นสมาชิก JCCB 1,733 ราย มีบริษัทตอบกลับ 631 ราย  สัดส่วน36.4%  ในประเด็นเรื่องการลงทุนนั้น ผู้ประกอบการญี่ปุ่นมองว่า ประเทศไทยควรจะปรับปรุงพัฒนาสภาพแวดล้อมทางการลงทุนในหลายๆด้าน โดยผู้ประกอบการญี่ปุ่นส่วนใหญ่สูงถึง 45% มองว่าเป็นเรื่องมาตรการรองรับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ซึ่งที่ผ่านมาทำได้ดีแล้วจะต้องรักษามาตรฐานให้ดีขึ้นไปอีก ทำให้นักลงทุนรู้สึกปลอดภัยในการอาศัยในไทย และลดผลกระทบที่เกิดกับธุรกิจ รองลงมา 29% การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล