Covid-19 ยังแพร่ระบาด

Covid-19 ยังแพร่ระบาด

คาดดัชนีจะสลับรีบาวด์ขึ้นได้จากแรงเก็งกำไรหุ้นรายตัว กลุ่มส่งออกที่ได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงนี้ 

ตลาดหุ้นวานนี้

Set Index วานนี้ +0.95 จุด (+0.07%) ปิดที่ระดับ 1,373 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.1 หมื่นล้านบาท โดยแม้ว่าจะได้แรงหนุนความคาดหวังเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวหลังจีนและสหรัฐรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50 อย่างไรก็ตามความกังวลจำนวนผู้ติดเชื้อ Covid-19 รายใหม่ที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและมีข่าวสหรัฐเตรียมแบนแอปพลิเคชั่น Tiktok ของจีนเป็นแรงกดดันให้ดัชนีเหลือปิดทรงตัว ส่วนนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,388  ล้านบาท แต่ขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,042 ล้านบาท และ Net TFEX SET50 -1,032  สัญญา 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

เรามีมุมมองเป็นลบคาด SET อ่อนตัวทดสอบแนวรับ 1,360 – 1,365 จุดก่อนจะสลับรีบาวด์ จากความกังวลการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส Covid-19ในสหรัฐยังคงพุ่งขึ้นต่อเนื่องโดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ราว 5 หมื่นราย/วัน ซึ่งเป็นแรงกดดันต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจรวมถึงฉุดให้ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลงซึ่งเป็นลบต่อกลุ่มพลังงานและภาพรวมตลาด อย่างไรก็ตาม คาดว่าดัชนีจะสลับรีบาวด์ขึ้นได้จากแรงเก็งกำไรหุ้นรายตัว เช่น หุ้นที่งบ 2Q20 เติบโตขึ้น หรือกลุ่มส่งออกที่ได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงนี้ 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • กลุ่มอาหาร (CPF, GFPT, TFG) และ กลุ่มอิเล็ค (KCE, DELTA, HANA) ได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าลง
  • กลุ่มที่คาดว่างบ 2Q20 จะเติบโตขึ้น  (TOP, PTTGC, SPRC, BGRIM, CKP, TASCO, STA, SPALI)
  • MINT, CENTEL, ERW, AOT, AAV อานิสงส์ครม.ออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ

หุ้นแนะนำวันนี้

  • DELTA (59.75 IAA Consensus 62 ระยะสั้นได้ Sentiment บวกจากค่าเงินบาทที่กลับมาอ่อนค่า ระยะกลางถึงยาวมี Growth story จากความต้อง พาวเวอร์ซับพลายสำหรับเครื่องมือทางการแพทย์ และ รถยนต์ EV ที่เพิ่มขึ้นจากการมาของเทคโนโลยี 5G (DELTA เป็นผู้ผลิต Power supply รายใหญ่)
  • TU (ปิด 13.2 ซื้อ/เป้า 15.3) ได้ Sentiment บวกจากค่าเงินบาทที่เริ่มอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและเงินยูโร ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการ 2Q20 มีแนวโน้มที่จะออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 900-1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ราคายังมี downside จำกัด เพราะมี P/E ต่ำเพียง 13 เท่า คิดเป็น -2.5SD

บทวิเคราะห์วันนี้

LPN (4.76 ปรับลดเป็นถือ/เป้า 4.10), PTTEP (95.5 ถือ/เป้า 80.0)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (-) ดาวโจนส์ร่วง 397 จุด กังวลจำนวนผู้ติดเชื้อ Covid-19 รายใหม่ในสหรัฐกลับมาเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง และเจ้าหน้าที่สหรัฐต้องการจำกัดวงเงินเยียวยาผลกระทบจาก Covid-19 :ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 397 จุด (-1.5%) ปิดที่ระดับ 25,890 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังมีความกังวลจากการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสหรัฐกลับมาเร่งตัวขึ้นเป็น 5.5 หมื่นราย เทียบจาก 2  วันก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 4.5 หมื่นราย และ 5 หมื่นรายตามลำดับ นอกจากนี้นักลงทุนยังมีความกังวลจากความไม่แน่นอนในการดำเนินนโยบายของภาครัฐ หลังจากที่ นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐระบุว่าสหรัฐต้องการควบคุมหรือจำกัดวงเงินสำหรับมาตรการเยียวยาผลกระทบจากไวรัส Covid-19 ไว้ไม่ให้เกิน 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ซึ่งวงเงินดังกล่าวอาจน้อยเกินไปหากการแพร่ระบาดยังคงรุนแรงและยืดเยื้อ
  • (-) กลุ่มธุรกิจน้ำมัน – การปิโตรเลียมสหรัฐรายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล ขณะที่หุ้นโรงกลั่นมีข่าวลบจากซาอุฯ ปรับขึ้นราคา OSP : กลุ่มธุรกิจน้ำมันมี Sentiment ลบหลังจากที่เมื่อคืนการปิโตรเลียมของสหรัฐ (API) รายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐกลับมาเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล เทียบจากสัปดาห์ก่อนที่ลดลง 8.16 ล้านบาร์เรล ขณะที่คืนนี้ติดตาม EIA รายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์เช่นกัน Consensus ส่วนใหญ่คาดว่าสต๊อกน้ำมันดิบจะลดลง 3.4 ล้านบาร์เรล ลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 ส่วนกลุ่มโรงกลั่นถูกกดดันหลังจากซาอุฯประกาศเพิ่มราคาขายน้ำมันอย่างเป็นทางการ (OSP) ในตลาดหุ้นเอเชียอีก 1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากเดิม 0.2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็น 1.2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่งผลให้ต้นทุนการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้นกดดันให้ค่าการกลั่นของผู้ประกอบการยังอยู่ในระดับต่ำ
  • (+/-) สัปดาห์นี้ติดตาม ภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม อาทิ ช็อบช่วยชาติ และ การท่องเที่ยว : สัปดาห์ที่ผ่านมา นาย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ มีคำสั่งให้กระทรวงการคลังและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อและการท่องเที่ยวในประเทศ เพิ่มเติม เราคาดว่ามาตรการต่างๆน่าจะเริ่มเห็นรายละเอียดที่ชัดเจนมากขึ้นในสัปดาห์นี้ อาทิ โครงการช็อปช่วยชาติ และ การท่องเที่ยวในประเทศ โดยครั้งนี้คาดว่าจะเป็นมาตรการที่เน้นกระตุ้นให้กลุ่มผู้มีกำลังซื้อออกมาท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น หากทั้ง 2 มาตรการได้รับความเห็นชอบจาก ครม. จะส่งผลบวกโดยตรงต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง อาทิ ค้าปลีก (CPALL CRC COM7 JMART) และ กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL ERW MINT)