จับตายอดผู้เสียชีวิตสหรัฐฯ เร่งตัวขึ้น

ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเราสื่อสารกับนักลงทุนให้มองข้ามตัวเลขผู้ติดเชื้อไปยังจำนวนผู้เสียชีวิตที่ยังปรับลดลงต่อเนื่อง (จากสูงสุด 2.5 พันรายช่วงเม.ย. เหลือต่ำกว่า 1 พันรายตั้งแต่ 10 มิ.ย.) เป็นปัจจัยที่ทำให้หุ้นและสินทรัพย์เสี่ยง มองข้ามการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อ อย่างไรก็ตามจำนวนผู้เสียชีวิตล่าสุดในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 994 ราย (แคลิฟอร์เนีย 118, อริโซนา 117, เท็กซัส 85, ฟลอริดา 63) สูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือน ซึ่งอาจทำให้ตลาดกลับมาเพิ่มความกังวลในระยะสั้น

เข้าสู่ช่วงเวลาอ่อนไหวจากตัวเลขเศรษฐกิจและผลประกอบการ คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจยูโรโซนปี 2563-64 ลงเหลือ 8.3% และ 5.8% (จาก 7.4% และ 6.1% ) ทั้งนี้เรามองตลาดหุ้นเข้าสู่ช่วงอาจผันผวนทั้งจากตัวเลขเศรษฐกิจและการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/63 ซึ่งจะเริ่มจากกลุ่มธนาคารในช่วงสัปดาห์หน้า และเราเห็นแรงขายหุ้นในกลุ่มสถาบันการเงินสหรัฐฯ เพื่อลดความเสี่ยงก่อนประกาศผลประกอบการที่คาดว่ามีความเสี่ยงจากการตั้งสำรองในระดับสูง

ผลประกอบการของ AEONTS เป็นสัญญาณลบต่อกลุ่มการเงินและธนาคาร AEONTS รายงานกำไรไตรมาส 1/63 (เม.ย.-มิ.ย.) ที่ 530 ล้านบาท -46% YoY ซึ่งกำไรที่ลดลงเป็นไปตามคาด โดยหลักมาจากการตัวสำรองที่เพิ่มขึ้น (+72% YoY) เนื่อจากการใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS9 และหนี้เสีย (NPL) ที่เพิ่มขึ้นจาดผลของโควิด และสินเชื่อที่เติบโตลดลง (-2% YoY) อย่างไรก็ตามผลกระทบจาก KTC จะอยู่ในระดับที่น้อยกว่า (-20% YoY ) เนื่องจากเริ่มใช้มาตรฐานบัญชีใหม่มาตั้งแต่ไตรมาสก่อน ขณะที่ AEONTS เพิ่มเริ่มใช้เป็นไตรมาสแรก อย่างไรก็ตามคาดผลประกอบการดังกล่าวเป็นปัจจับลบต่อแรงเก็งกำไรในกลุ่มการเงินและธนาคาร

Theme การลงทุนและกลุ่มที่น่าใจ ทองคำที่ขึ้นพร้อมหุ้น ทำให้เรายังเน้นลงทุนอย่างระมัดระวังและเลือกหุ้นปลอดภัย (defensive) มากขึ้น ระหว่างรอประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการระบาด 1) ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 ออกมาดี ได้แก่ ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์ ได้แก่ SCC, IVL, TIP, THRE, STA 2) กลุ่มปลอดภัยหรือรายได้มั่นคง (defensive) ได้แก่ CPALL, ADVANC, INTUCH, RATCH, SSP, SUPER 3) กลุ่มที่เห็นการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง EASTW, WHAUP, CPF, TU 4) กลุ่มสถาบันการเงินอยู่ใน valuation ต่ำและสะท้อนปัจจัยความกังวลไปพอสมควร BBL, KBANK 5) กลุ่มเดินเรือ PSL 6) อสังหาฯ ชอบ SPALI, SC, AP // กลุ่มบรรจุภัณฑ์ ควรพิจารณาแบ่งทำกำไร AJ, PTL หลังขึ้นแรง

ภาพรวมกลยุทธ์ แกว่งตัวแบบมีแรงทำกำไรสลับ โดยมีจิตวิทยาเก็งกำไรเป็นบวก คงมุมมอง ก.ค. จะเป็นช่วงที่ผันผวนจากการระบาดระลองสอง เก็งกำไรควรกำหนดจุดตัดขาดทุนเพื่อบริหารความเสี่ยงทุกครั้ง  // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร TU*, WHAUP*, AI* / ขายชอร์ต AOT (เป้า 56 ตัดขาดทุน 62)

แนวรับ 1,364 จุด / แนวต้าน : 1,387-1,400 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

ออสเตรเลียประกาศล็อกดาวน์เมืองเมลเบิร์นอีกครั้ง - รัฐวิกตอเรียประกาศล็อกดาวน์เมืองเมลเบิร์นอีกครั้งเป็นเวลา 6 สัปดาห์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไม่ให้ระบาดรอบสองทั่วประเทศหลังพบผู้ป่วยรายใหม่ 191 ราย

คณะปธน.สหรัฐฯ ชงสภาคองเกรสจำกัดวงเงินเยียวยาโควิด – คณะทำงานของทรัมป์ต้องการให้สภาคองเกรสจำกัดวงเงินช่วยเหลือในมาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด-19 รอบใหม่ เอาไว้ที่ $1 ล้านล้าน หรือน้อยกว่า

MINT – แจ้งกำหนดวัน XW หลักทรัพย์ MINT-W7 เป็นวันที่ 6 ส.ค.63 ที่อัตรา 22 หุ้นเดิม: 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ์ ทั้งนี้จะเกิดขึ้นหลังการจ่ายเพิ่มทุน 17-23 ก.ค.63 (อัตรา 8.20 หุ้นเดิม: 1 หุ้นเพิ่มทุน ที่ราคา 18.90 บาท)

ประเด็นติดตาม: 8 ก.ค. – EU Economic forecasts, ครม. พิจารณาโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจสภาพัฒน์ 213 โครงการ/ 9 ก.ค. – US Initial Jobless Claims

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)