แกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน

เนื่องจากความกังวลของจำนวนผู้ป่วยจากไวรัสโควิด-19 รายใหม่ที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ ตลาดภายในประเทศยังขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,373.22 จุด (+0.95 จุด) Volume 8.2 หมื่นลบ. ตราสารหนี้ -1,042 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+สหรัฐเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานเพิ่มขึ้นสู่ 5.4 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค.

+FETCO เผยดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนอีก 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้น 4% จากปัจจัยหนุนเรื่องคาดการณ์ศก.เติบโต

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 396.85 จุด -1.51% นลท.ขายทำกำไรหลังปรับขึ้นแรงหลายวัน และไม่มั่นใจมาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด-19 รอบใหม่ รวมทั้งเฟดแสดงความเห็นลบเกี่ยวกับตัวเลขอัตราว่างงานของสหรัฐที่ยังอยู่ในระดับสูง

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 1 เซนต์ -0.02% ปิดที่ 40.62 ดอลลาร์/บาร์เรล กังวลการแพร่ระบาดครั้งใหม่ของไวรัสโควิด-19 แต่ราคาขยับลงเล็กน้อยเนื่องจากการคาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา

-สภาผู้ส่งออกปรับลดคาดการณ์ส่งออกปีนี้เป็นหดตัว -10% จากเดิมคาด -8% จากผลกระทบโควิด-บาทแข็ง

-แผน Travel bubble หรือการท่องเที่ยวแบบจับต้องชะลอออกไปไม่มีกำหนดหลังประเทศเป้าหมายประสบปัญหาระบาดรอบสอง

+ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดบวก 12.46 จุด +0.37%

-ดัชนีนิกเกอิปิดลบ 99.75 จุด -0.44% เช้าเปิด -133.08 จุดตามทิศทางดาวโจนส์

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 2.18 แสนลบ. ค่าเงินบาท 31.22 บาท/US

*จับตา ธปท.เผยแพร่รายงานการประชุมของ กนง.ครั้งล่าสุดที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม ส่วนสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงกดดันจากข่าว คณะทำงานของประธานาธิบดีสหรัฐ ต้องการให้สภาคองเกรสจำกัดวงเงินในมาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด-19 รอบใหม่เอาไว้ที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือน้อยกว่านั้น ขณะที่ในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ากระทบตลาด คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,360-1,380 จุด

หุ้นรายงานพิเศษ

AEONTS (มุมมอง “Neutral” Bloomberg Consensus 139.60  )

แจ้งกำไรงวด 1Q63 สิ้นสุด 31 พ.ค. 63  เท่ากับ 530 ล้านบาท ลดลง 46%YoY เนื่องจากผลกระทบจากการเริ่มใช้มาตรฐานบัญชี TFRS9 ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น 72%YoY  และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้รายได้จากบัตรเครดิตลดลง 7%YoY ส่วนหนึ่งจากมาตรการช่วยเหลือด้านสินเชื่อให้กับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในการลดอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำสำหรับบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล และพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยสินเชื่อทุกประเภทซึ่งเริ่มมีผลในช่วง 1Q63

ณ 31 พ.ค. 63  บริษัทมีจำนวนลูกค้าสมาชิกบัตรเครดิตและสินเชื่ออื่น ๆ 9.01 ล้านบัตร +4%YoY ปัจจุบันมี 104 สาขา ลดลง 1 สาขาจากไตรมาสก่อน ตู้ ATM 410 เครื่อง และมีร้านค้าสมาชิกรวมกว่า 6,660 แห่ง โครงสร้างการให้สินเชื่อ 66% ของสินเชื่อรวมเป็นการให้สินเชื่อบัตรเครดิต รองลงมาเป็นสินเชื่อเงินกู้ 25%  ของสินเชื่อรวม โดยมี %NPL คิดเป็น 3.7% ของลูกหนี้การค้ารวมในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน และมีอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนจากการด้อยค่าต่อ NPL เพิ่มขึ้นจาก 119% เป็น 359% จากการตั้งสำรองค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 11,775 ล้านบาท คิดเป็น 13.3% ของลูกหนี้การค้ารวม ซึ่งเพิ่มจากระดับ 4.39% ของลูกหนี้การค้ารวม ณ สิ้นปีบัญชีก่อน

ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมอง “Neutral” ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรเฉลี่ย 3,285 ล้านบาท -17% ราคาปิดล่าสุดซึ่งลดลง 42%YTD ซื้อขายที่ PBV 1.34 เท่าต่ำกว่ากลุ่มที่ระดับ 2.38 เท่า

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากแพ็กเกจ “เราเที่ยวด้วยกัน” (ERW CENTEL AOT AAV BA ASAP)
• หุ้น Defensive Stock (ADVANC INTUCH DIF TTW BEM BTS CHG BCH)

หุ้นมีข่าว   

(+) GULF (Bloomberg Consensus 37.88 บาท)  อัดงบเฉียด 2 หมื่นล้านบาท ซื้อหุ้น 50% วินด์ฟาร์ม BKR2 ขนาด 464.8 เมกะวัตต์ในเยอรมนี จ่อบุ๊กรายได้ 1,500 ล้านบาท/ปี พร้อมปูพรมลุยธุรกิจพลังงานทดแทนในยุโรปเพิ่ม-เร่งปิดดีล M&A อีก 2,000 เมกะวัตต์ นอกจากนี้กรรมการคัดเลือกแหลมฉบังเฟส 3 มูลค่า 8.4 หมื่นล้านบาท ลงมติเอกฉันท์อนุมัติผลเจรจา GULF-PTT แล้ว เล็งชงบอร์ดกทท.พิจารณา 10 ก.ค.นี้ ก่อนเสนอบอร์ด EEC และครม. คาดได้เซ็นสัญญาภายในสิงหาคม 2563 นี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) SPCG (Bloomberg Consensus 17.60 บาท)   เตรียมทุ่มงบ 1 หมื่นล้านบาท เร่งปิดดีลร่วมทุนในธุรกิจใหม่เน้นนวัตกรรม คาดอีก 2 เดือนสรุป! พร้อมเร่งลงทุนโซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่นเพิ่มอีก 65 MW หนุนสิ้นปี 63 ทะลุ 500 MW หั่นเป้ารายได้ปีนี้เหลือโต 5.5 พันล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) CAZ (Bloomberg Consensus 2.99 บาท)   คว้างานก่อสร้างท่าเทียบเรือ และสถานีรับ-จ่าย ก๊าซธรรมชาติเหลว หนองแฟบ มูลค่า 401 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ทันที โชว์แบ็กล็อกพุ่ง 2,000 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 64  (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) OSP (Bloomberg Consensus 40.63 บาท) อวดไตรมาส 2/63 ยอดขายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม C-vitt ทะลุ 99 ล้านชิ้น หลังได้แรงหนุนจากไวรัสโควิด-19 ล่าสุดถูกจัดอันดับเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อมากที่สุด พร้อมเร่งขยายกำลังการผลิตดันยอดขายเพิ่มต่อเนื่อง (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) TNR (Bloomberg Consensus  - บาท)  เดินหน้าดันยอดขายถุงยางอนามัยแบรนด์ "PLAYBOY" ตั้งตัวแทนจำหน่ายเพิ่มในทวีปยุโรปและเอเชีย เปิดร้านค้าในเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซชื่อดัง amazon.com เพื่อขยายช่องทางออนไลน์ในสหรัฐ และรุกขายสินค้าในเว็บไซต์ jd.com เพื่อขยายฐานลูกค้าในจีน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) DELTA (Bloomberg Consensus 47.43 บาท)  ส่องเทรนด์ 5G และ EV Car หนุนเต็มสูบ ยิ้มรับออเดอร์ลูกค้าสหรัฐ-ยุโรป-จีน ไหลทะลักดันยอดขายไตรมาส 3/2563 พุ่ง พร้อมจับตากลางไตรมาส 3/2563 มีข่าวดีเพิ่มมั่นใจผลงานปี 2563 โตตามเป้า 5-10%  (ที่มา ทันหุ้น)

(+) DOHOME (Bloomberg Consensus - บาท) หลังคลายล็อกดาวน์ SSSG สดใส พร้อมประเมินทิศทางเศรษฐกิจหากฟื้นตัว มีโอกาสทำยอดขายเป็นบวก จากปัจจุบันติดลบน้อยกว่า 4% หากเทียบจากปีก่อนที่ติดลบกว่า 5.3% ลุยเดินหน้าเปิดสาขาเพิ่ม หนุนยอดขายโต (ที่มา ทันหุ้น)

(+) AJ (Bloomberg Consensus - บาท)  เพิ่มกำลังผลิตรับปริมาณขายเติบโตขึ้น 2 หลัก ชี้เหตุออเดอร์พุ่งถูกสั่งบรรจุหน้ากากอนามัย ชี้ตลาดใน-นอกปีนี้ยอดขายแข็งแกร่ง ฟากโบรกแนะดูยอดใช้ไฟฟ้า กลุ่มแพ็กเกจจิ้งพุ่งดันผลงาน Q1/2563 ขณะที่ Q2/2563 ก็โดดเด่น (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PTTGC (Bloomberg Consensus 46.32 ) จับมือ Dynachem Group จากไต้หวัน เข้าถือหุ้น 41.5% ในบริษัท ไดน่าชิสโซ ไทย เดินหน้าธุรกิจพลาสติกวิศวกรรม พีพีคอมพาวด์ 30,000 ตันต่อปี จับกระแสโลก รุกเข้าสู่กลุ่มยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ 5G (ที่มาทันหุ้น)

ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อการขยายผลิตภัณฑ์ไปยังสินค้าที่มีมูลค่าสูง ขณะที่ราคาปิโตรเคมีฟื้นตัวตามอุปสงค์ในตลาดโลกหลังหลายประเทศเริ่มคลายล็อกดาวน์ ทำให้ธุรกิจปิโตรเคมีฟื้นตัวเร็วกว่าธุรกิจโรงกลั่นที่ถูกกระทบจากความต้องการใช้น้ำมันอากาศยานชะลอตัว โดยเราเลือก PTTGC เป็น TOP Pick ในกลุ่มโรงกลั่นแลปิโตรเคมี