กูรูชี้ เชื้อโควิด-19 'กระจายอยู่ทั่วโลก' ก่อนระบาดในจีน

กูรูชี้ เชื้อโควิด-19 'กระจายอยู่ทั่วโลก' ก่อนระบาดในจีน

ผู้เชี่ยวชาญจาก ม.ออกซ์ฟอร์ด ชี้ ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) อาจไม่ได้เริ่มระบาดในจีน หากแต่มีอยู่แล้วทั่วโลก และสามารถระบาดได้ทุกที่ทุกเวลาหากถูกกระตุ้นด้วยสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย

สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า เมื่อวันอาทิตย์ (5 ก.ค.) ดร.ทอม เจฟเฟอร์สัน ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสประจำศูนย์เวชศาสตร์เชิงประจักษ์ (CEBM) ของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และศาสตราจารย์รับเชิญประจำมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิลในสหราชอาณาจักร เผยกับหนังสือพิมพ์เดอะเทเลกราฟว่า “ผมคิดว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ไวรัสสายพันธุ์นี้คงอยู่ทุกหนทุกแห่ง ตอนนี้เราอาจกำลังเผชิญกับไวรัสที่เคยหลับใหล ซึ่งถูกสภาพแวดล้อมกระตุ้นให้แพร่ระบาดก็เป็นได้”

“หมู่เกาะฟอล์กแลนด์ตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายหนึ่งเมื่อต้นเดือน ก.พ. ผมสงสัยว่าการระบาดเกิดขึ้นที่นั่นได้อย่างไร มีเรือสำราญลำหนึ่งแล่นจากเซาธ์จอร์เจียไปกรุงบัวโนสไอเรส (อาร์เจนตินา) และแม้ผู้โดยสารทุกคนจะผ่านการตรวจคัดกรอง แต่พอถึงวันที่ 8 ของการเดินทาง ขณะพวกเขาเริ่มแล่นสู่ทะเลเวดเดลล์ก็พบผู้ป่วยรายแรก หรือมันเริ่มระบาดจากอาหารที่ถูกนำมาละลายน้ำแข็งกันแน่” เจฟเฟอร์สันกล่าว

“สิ่งน่าประหลาดใจเช่นนี้เกิดขึ้นเมื่อครั้งเกิดการระบาดของไข้หวัดใหญ่สเปน (Spanish Flu) ซึ่งคร่าชีวิตประชากรซามัวตะวันตกไปประมาณ 30% ในปี 2461 แม้พวกเขาจะไม่ได้ติดต่อกับโลกภายนอกเลยก็ตาม” เจฟเฟอร์สันกล่าวเสริม

“คำอธิบายสำหรับปรากฎการณ์ดังกล่าวอาจเป็นว่าตัวการไม่ได้มาจากไหนหรือแพร่ไปที่ใด พวกมันอยู่ทุกที่มาตลอดและถูกกระตุ้นด้วยบางสิ่ง อาจเป็นความหนาแน่นของมนุษย์หรือสภาพแวดล้อม และนี่คือสิ่งที่เราควรจะมองหา” เจฟเฟอร์สันกล่าวย้ำ พร้อมเสริมว่ามีหลักฐานจำนวนมากขึ้นที่บ่งชี้ว่าไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่คงอยู่ ณ พื้นที่อื่นก่อนจะเริ่มแพร่ระบาดในเอเชีย

159417059428

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คณะนักไวรัสวิทยาของสเปนประกาศการค้นพบร่องรอยไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่จากตัวอย่างน้ำเสียที่เก็บรวบรวมในเมืองบาร์เซโลนาในเดือน มี.ค. 2562 คิดเป็นเวลา 9 เดือนก่อนจีนจะตรวจพบไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ก่อโรคโควิด-19 นี้

ด้านสถาบันสุขภาพแห่งชาติของอิตาลี (ISS) ระบุว่า ร่องรอยของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ปรากฎอยู่ในน้ำเสียที่เก็บจากเมืองมิลานและตูรินเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ซึ่งเป็นเวลาเนิ่นนานก่อนอิตาลีจะยืนยันการตรวจพบผู้ป่วยรายแรกของประเทศ