หุ้น 'แพคเกจจิ้ง' กอดคอซิลลิ่งรับธุรกิจฟื้น

หุ้น 'แพคเกจจิ้ง' กอดคอซิลลิ่งรับธุรกิจฟื้น

หุ้นกลุ่มบรรจุภัณฑ์และธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับอาหารฟื้นตัวแรงกว่า 100% หลังธุรกิจได้รับผลกระทบจำกัดจากโควิด-19 ล่าสุด ‘PTL - AJ - RBF’ กอดคอพุ่งชนซิลลิ่ง ผู้บริหาร - นักวิเคราะห์ประเมินผลประกอบการเติบโตได้ในปีนี้

ความเคลื่อนไหวหุ้นกลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอาหาร ได้แก่ บมจ.โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) หรือ PTL บมจ.เอ.เจ.พลาสท์ หรือ AJ และ บมจ.สตาร์เฟล็กซ์ หรือ SFLEX ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ รวมถึง บมจ.อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย หรือ RBF ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัตถุดิบส่วนผสมในอาหาร โดยราคาหุ้นของบริษัทเหล่านี้ต่างฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ได้กว่า 100%

สำหรับ PTL ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 132% AJ เพิ่มขึ้น 170% SFLEX เพิ่มขึ้น 166% ขณะที่ RBF เพิ่มขึ้น 283% โดยล่าสุดหุ้น PTL, AJ และ RBF ได้ปรับตัวขึ้นชนเพดานซื้อขายระหว่างวัน

ทั้งนี้ แนวโน้มของอุตสาหกรรมของบริษัทเหล่านี้ในช่วงวิกฤติโควิด-19 ดูเหมือนจะสวนทางกับอุตสาหกรรมส่วนมาก เนื่องจากความต้องการใช้ที่มากขึ้น หรือเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจำกัดในช่วงที่ผ่านมา

อย่างกรณีของ PTL ซึ่ง นายอมิต ปรากาซ กรรมการผู้จัดการบริษัท เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการปี 2563/2564 (1 เม.ย. 2563 – 31 มี.ค. 2564) ยอดขายที่ประเทศอินโดนีเซียจะเติบโต 15-16% หลังจากที่มีการเพิ่มสายการผลิตเม็ดพลาสติกโพลีเอสเตอร์ ซึ่งได้เปิดดำเนินการแล้วในช่วงเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา โดยขณะนี้เดินเครื่องกำลังผลิตประมาณ 90% และคาดในอนาคตจะเดินเครื่องได้เต็ม 100%

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกรวมถึงที่ประเทศอินโดนีเซีย บริษัทไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าวในด้านลบแต่อย่างใด แต่ขณะเดียวกันได้รับประโยชน์ เนื่องจากมีความต้องการใช้สินค้าผลิตภัณฑ์พลาสติกประเภทเฟล็กซิเบิ้ล แพคเกจจิ้ง เพิ่มมากขึ้น

เช่นเดียวกับ SFLEX ซึ่งผู้บริหาร ประเมินว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 นี้ คาดรายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่อง โดยมีแผนเดินเครื่องจักรผลิตถุงข้าวสารและซื้อเครื่องจักรใหม่ ขยายไลน์การผลิตประเภทซองพร้อมฝาปิดขนาดเล็ก (ซองซาเช่) เพื่อขยายฐานลูกค้าและเพิ่มรายได้ในอนาคต

บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 15-20% จากปีก่อน และมีเป้าหมายกำไรขั้นต้นที่ระดับ 21-23% ขณะเดียวกันยังมีแผนนำเงินจากการขายไอพีโอมาสร้างโรงงานใหม่เพื่อขยายกำลังการผลิตอีก 30%

ด้าน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุว่า แนวโน้มการเติบโตของกำไรของ RBF ในช่วง 2 ปีข้างหน้า คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 30% ต่อปี สืบเนื่องจากยอดขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นดีต่อเนื่อง รวมทั้งประสบความสำเร็จในการควบคุมต้นทุนได้เป็นอย่างดี สำหรับโครงการในต่างประเทศที่จะเสริมการเติบโตในอนาคตคือ 1.โรงงานเกล็ดขนมปังป่นแห่งใหม่ที่ประเทศเวียดนามและอินโดนีเซีย เริ่มได้ในปีนี้หรือปี 254 และ 2.การสั่งซื้อเครื่องจักรใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และ 3.โรงงานแห่งใหม่ที่เมือง Surabaya ประเทศอินโดนีเซีย