กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์

กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์

7-10 ก.ค. - ปัจจัยหุ้นโลกยังหนุนตลาดหุ้นไทย แต่ทางขึ้นมีจำกัด

มุมมองตลาดสัปดาห์นี้: หลังจากที่ดัชนี SET ดีดกลับมาจากแถว 1,300 จุด ซึ่งใกล้เคียงกับการประเมินตามแบบจำลองของเราที่ 1,280 จุด ตลาดหุ้นไทยก็กลับมาอยู่ในโหมดของมูลค่าที่ตึงตัวอีกครั้ง โดย consensus ของ forward P/E สิ้นปี 2564 ขยับเข้าใกล้ 17.0x ซึ่งจากการคำนวณของเรามองว่า ระดับนี้เหมาะสมกับสภาพคล่องในตลาดโลก ดังนั้น เราจึงคาดว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะพักฐานในสัปดาห์นี้ โดยข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคโลกเดือนมิถุนายนที่ฟื้นตัวได้ดีสะท้อนในราคาหุ้นไปมากแล้วจากการที่ราคาสินทรัพย์เสี่ยงดีดตัวขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ยังคงเลวร้ายลงอีก ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ทางองค์การอนามัยโลกรายงานว่ายอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ใหม่รายวันทำสถิติสูงสุดใหม่ ในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ของสหรัฐยังคงยืนเหนือ 50,000 ราย/วัน อย่างไรก็ตาม เราไม่คิดว่าตลาดหุ้นจะมีความเสี่ยงทางลงที่มีนัยสำคัญเนื่องจากตลาดคาดว่าประเทศที่ยังมียอดผู้ติดเชื้อสูง โดยเฉพาะสหรัฐจะไม่กลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบอีก ทั้งนี้ จากปัจจัยและเหตุผลต่าง ๆ ข้างต้น เราจึงแนะนำให้นักลงทุนเน้นที่หุ้นขนาดกลางที่โยงอยู่กับประเด็นภาวะเศรษฐกิจในประเทศ และการมีส่วนร่วมของนักลงทุนในประเทศ อย่างเช่น i) การกลับมาเปิดเศรษฐกิจไทยอีกครั้ง ii) การใช้จ่าย/แผนลงทุนภาครัฐ และ iii) การค่อย ๆ กลับมาเปิดให้ผู้ป่ วยต่างชาติบินเข้ามารับการรักษาพยาบาลในประเทศไทยได้

ธีมการลงทุน ปัจจัย และกระแสข่าวที่กระทบกับตลาด:

(0) ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่จะขับเคลื่อนตลาดการเงินโลก เมื่อสัปดาห์ก่อน มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญหลายตัว ได้แก่ ตัวเลข PMI ภาคการผลิตและบริการของประเทศหลัก ๆ และตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐ ซึ่งส่งผลด้านบวกกับตลาด สำหรับในสัปดาห์นี้ ไม่น่าจะมีตัวเลขเศรษฐกิจที่จะส่งผลกระทบกับตลาด และนักลงทุนน่าจะรอดูตัวเลขเศรษฐกิจเดือนกรกฎาคม ซึ่งจะสะท้อนถึงสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับการระบาดรอบสองของ COVID-19

(0) ยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทั้งโลกยังคงทำสถิติสูงสุดใหม่ แต่ผลกระทบต่อตลาดยังจำกัด นอกจากจะมีการกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบอีกรอบ เมื่อวานนี้ (6 กรกฎาคม) สหรัฐรายงานว่า ยอดผู้ติดเชื้อทำสถิติสูงสุดใหม่ที่รัฐฟลอริดาและรัฐเท็กซัส ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญในวงการแพทย์ส่วนใหญ่เชื่อว่ายอดผู้ติดเชื้อจะเร่งตัวขึ้นอีกในสัปดาห์นี้หลังหยุดฉลองวันชาติ 4 กรกฎาคม แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรัฐต่างก็ยืนยันว่าจะไม่มีการใช้มาตรการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นกรณีที่เราเชื่อว่าจะจำกัดความเสี่ยงทางลงของตลาดหุ้น

ธีมหุ้นที่เราสนใจ:

หุ้นในประเทศที่เกี่ยวกับการกลับมาเปิดเศรษฐกิจไทย – เน้นที่หุ้นที่ยังปรับขึ้นไม่มาก... โดยเรามองว่าประเทศไทยสามารถคุมการติดเชื้อ COVID-19 ได้ดี และการกลับมาเปิดเศรษฐกิจในประเทศอีกครั้งก็คืนหน้าไปมาก ดังนั้น หุ้นในประเทศที่เกี่ยวกับธีมนี้อย่างเช่น การพาณิชย์ และขนส่งสาธารณะน่าจะยังไปได้ดีต่อเนื่อง เราเน้นที่หุ้นที่ยังขึ้นไม่มากเช่น CPALL* และ BEM* ในขณะเดียวกัน เราก็มองว่าหุ้นขนาดกลางในกลุ่มการพาณิชย์ที่โยงกับการก่อสร้าง และการกระตุ้นการลงทุน อย่างเช่น GLOBAL* และ DOHOME* ก็น่าจะยังแข็งแกร่งแม้ว่าราคาหุ้นจะวิ่งขึ้นมาแรงแล้วก็ตาม

การผ่อนคลายให้นักธุรกิจ นักลงทุน และผู้ป่วยต่างชาติเข้าประเทศได้ ประเทศไทยยังคงเดินหน้าเข้าสู่เฟสที่ห้าของการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยจะอนุญาต (แบบมีเงื่อนไข) ให้นักธุรกิจ นักลงทุนและผู้ป่วยต่างชาติสามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ เราคาดว่าแผนนี้จะส่งผลดีกับกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม และโรงพยาบาล ซึ่งมีส่วนสัมพันธ์อย่างมากกับอุปสงค์จากต่างประเทศ ซึ่งหุ้นกลุ่มนี้ที่จะได้อานิสงส์ได้แก่ AMATA* BDMS* และ EKH