"พชร"เผยราชกิจจานุเบกษาภาษีสรรพสามิตจะประกาศในสัปดาห์นี้

นายพชร​ อนันตศิลป์​ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า​ ภายในสัปดาห์นี้​ จะมีร่างกฎกระทรวงจำนวน​ 2 ฉบับ​ และ​ ประกาศกรมฯอีก​ 7​ ฉบับ​ ที่จะออกประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลบังคับใช้​ ซึ่งสาระสำคัญจะเกี่ยวข้องกับการลด การยกเว้น​ และ​ขยายระยะเวลาการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสำหรับสินค้าที่อยู่ในพิกัดภาษี​ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่​ (โควิด-19)

สำหรับสาระสำคัญ​ จะประกอบด้วยสินค้าใน​ 5 กลุ่มหลัก​ คือ​ 1.การขยายระยะเวลาการจัดเก็บภาษีสินค้าบุหรี่และยาเส้นที่จะจัดเก็บในอัตรา​ 40% ออกไปอีก​ 1 ปี​ เป็น​ 1 ต.ค.2564 จากกำหนดเดิม​ 1 ต.ค.2563​ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร

2.สถานบริการต่างๆที่อยู่ในพิกัดภาษีสรรพสามิตจะได้รับการยกเว้นภาษีระยะเวลา​ 3 เดือน​ นับจากเดือนก.ค.ถึงก.ย.นี้​ แต่ต้องคงสภาพการจ้างงานไว้​ โดยกรมฯจะตรวจสอบจากงบการเงินว่าคงสภาพการจ้างงานจริงหรือไม่​ ทั้งนี้​ ปกติสถานบริการจะเสียภาษีในอัตรา​ 10%ของรายรับ

"ในช่วงที่รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์​ ธุรกิจนี้ก็ถูกปิดกิจการไปด้วย​ ดังนั้น​ ตั้งแต่เดือนมี.ค.ถึงมิ.ย.ที่ผ่านมา​ ธุรกิจเหล่านี้ก็ไม่เสียภาษี​ เพราะไม่มีธุรกรรมใดๆ​ แต่เมื่อรัฐบาลคลายล็อกดาวน์​ ธุรกิจเหล่านี้ก็กลับมาให้บริการได้​ เราก็ต้องเก็บภาษี​ แต่เราก็จะผ่อนปรนยกเว้นภาษีให้​ ซึ่งต้องคงสภาพการจ้างพนักงานด้วย"

3.ธุรกิจเครื่องดื่มที่มีนวัตรกรรม​ เดิมเรากำหนดความเข้มข้นผลไม้ไว้ที่​ 20% ตามปริมาณ​ ทำให้ระยะเวลาการจัดเก็บสั้นลง​ และความเข้มข้นที่สูงเกินไป​ ทำให้ดื่มกินไม่ได้​ ต้องใส่สารสังเคราะห์เข้าไปผสม​ ทั้งยังเป็นต้นทุนที่สูง​ เมื่อการพิจารณาอิงกับองค์การอาหารและยา ดังนั้น​ กรมฯจึงให้ลดระดับความเข้มข้นของผลไม้ลงเหลือ​ 10% โดยยังคงสิทธิภาษีที่ 3% จากเดิม​เก็บที่​ 10%

4.รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า​ จะจัดเก็บภาษีในอัตรา​ 10% จาก​ 20% เพื่อกระตุ้นการลงทุน

5.การขยายระยะเวลาการจัดเก็บภาษีสินค้าที่จัดเก็บในคลังสินค้าของสนามบินสำหรับการนำเข้าและส่งออกจากเดิมได้รับยกเว้นภาษีในเวลา​ 15​ วันของการจัดเก็บ​ ให้ขยายเป็น​ 30​ วัน​ หากโควิด-19​ ยังยืดเยื้อให้ขยายเป็น​ 60​ วัน​ และสูงสุดไม่เกิน​ 120​ วัน