‘สคูลไบร์ท’ ผู้ช่วยอัจฉริยะ ลดภาระ-คืนครูให้นักเรียน

‘สคูลไบร์ท’ ผู้ช่วยอัจฉริยะ ลดภาระ-คืนครูให้นักเรียน

“จับจ่าย”สตาร์ทอัพสายเอ็ดเทคถอดประสบการณ์กว่า5 ปี พัฒนาระบบบริหารจัดการสถานศึกษา4.0“สคูล ไบร์ท”ลดภาระงานในรร.กว่า90% หนุนครูมีเวลาให้นักเรียนมากขึ้น พร้อมรายงานผลแก่ผู้ปกครองแบบเรียลไทม์ สร้างความอุ่นใจ-เสริมแกร่งรร.ไทย ท่ามกลางเปิดเทอมยุคนิวนอร์มอล

หนุนงาน ‘หลังบ้าน’ แบ็คทูสคูล

นรินทร์ คูนารา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท จับจ่าย คอร์ปอเรชั่น จำกัด ประกอบธุรกิจด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ และมีประสบการณ์นำเทคโนโลยีเข้าไปใช้ในสถานศึกษากว่า 5 ปี กล่าวว่า ครูส่วนใหญ่ใช้เวลาถึง 42% หมดไปกับการทำงานเอกสารต่างๆ ซึ่งถือเป็นภาระงานอีกด้านหนึ่งที่อาจจะส่งผลให้ครูมีเวลาน้อยลง ขณะที่บริษัทเล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลบริหารจัดการสถานศึกษา 4.0 (School Management System 4.0 ) ที่จะช่วยให้ครูมีเวลาสอนเพิ่มขึ้น และผลักดันโรงเรียนไทยก้าวสู่การเป็นโรงเรียนยุค 4.0

159404230015

จึงได้พัฒนาแอพพลิเคชั่น “สคูล ไบร์ท (School Bright)” และได้รับการสนับสนุนในโครงการนวัตกรรมแบบเปิด (Open Innovation) จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ เอ็นไอเอ ที่สนับสนุนเงินทุนสำหรับเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพในการดำเนินธุรกิจนวัตกรรมเพื่อเกิดประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ รูปแบบที่ขอรับการสนับสนุนในโครงการนวัตกรรมในรูปแบบ “การสนับสนุนด้านวิชาการ” จำนวนไม่เกิน 3 ล้านบาท ระยะเวลาโครงการ 1 ปี

“สคูล ไบร์ท” ประกอบด้วย 3 ส่วนคือ ระบบส่วนกลางใช้ประมวลผลการบริหารจัดการ ส่วนของผู้ปกครองและส่วนของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ผ่านการทำงานหลังบ้าน เพิ่มความสะดวกในการจัดระบบภาระงานภายในสถานศึกษา ไม่ว่าจะเป็น ระบบตารางสอน/ตารางเรียน ระบบเช็คชื่อ ระบบตรวจสอบคะแนนความประพฤติ ระบบแจ้งการบ้าน ระบบลา รวมไปถึงระบบบริหารงานของครู เช่น ระบบรายงานผู้บริหาร ระบบรายงานผลการเรียน ระบบปฏิทินโรงเรียน ที่จะต้องมีการทำงานซ้ำซ้อน 7-8 ครั้งต่อปี

159404236643

ข้อมูลทั้งหมดจะถูกรายงานผ่านแอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์ เพียงแค่ครูลงข้อมูลในระบบก็จะสามารถลิงค์ข้อมูลตรงถึงระบบต่างๆได้อย่างรวดเร็ว อาทิ ระบบสารสนเทศสถานศึกษาและบริหารจัดการเงินอุดหนุน ของ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ทั้งยังมีจุดเด่นในการเชื่อมโยงระหว่างโรงเรียน ครู นักเรียน และผู้ปกครอง ผ่านการแสดงผลในแอพพลิเคชั่นอีกด้วย

159404233259

ระบบฯ ติดตั้งใช้งานได้ทันทีผ่านสมาร์ทโฟนโดยไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริม ดาวน์โหลดได้ทั้งไอโอเอส และแอนดรอยด์ นอกจากนี้ยังทำงานแบบเรียลไทม์ ซึ่งจะช่วยให้โรงเรียนสามารถอัพเดตความเคลื่อนไหวของครู นักเรียน ได้ตลอดเวลา ผ่านการใช้ข้อมูลที่ถูกจัดเก็บบนระบบคลาวด์มีความปลอดภัยสูงจาก Microsoft Azure”

บริษัทตั้งเป้าไว้ว่า 90% ของโรงเรียนทั่วประเทศจะสามารถเข้าสู่แพลตฟอร์มนี้ โดยมีค่าบริการ 150 บาทต่อเทอมต่อคน และ 300 บาทต่อปี แต่ละโรงเรียนสามารถเลือกโซลูชั่นที่เหมาะสมกับตนเองได้

ตัวช่วยปั้นคุณภาพการศึกษา

นรินทร์ กล่าวเสริมว่า บริษัททดลองใช้ระบบกับโรงเรียนกว่า 300 แห่ง มีข้อมูลนักเรียนในระบบกว่า 2 แสนคน พบว่า การจัดการภายในโรงเรียนเป็นระบบมากขึ้น สามารถจัดหมวดหมู่เอกสารและมีฐานข้อมูลนักเรียนแต่ละคนครบถ้วน ลดภาระงานให้แก่ครูได้มากถึง 90% ทั้งยังทำให้โรงเรียนทราบพฤติกรรมของนักเรียนและสามารถนำไปวางแผนเพื่อรองรับการปรับพฤติกรรมได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

ทั้งนี้ ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเตรียมพร้อมพัฒนาระบบการเรียนการสอนออนไลน์และการบริหารจัดการโรงเรียนด้วยดิจิทัล จำนวน 500 แห่งทั่วประเทศทั้งโรงเรียนรัฐและเอกชน ตั้งแต่ระดับอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอาชีวศึกษา โดย “สคูล ไบร์ท” จะเข้าไปอบรมในพื้นที่และทางออนไลน์ รวมทั้งการให้คำปรึกษา ระยะเวลาโครงการ 1 ปี เพื่อปรับระบบการเรียนการสอนและการบริหารจัดการให้ทันสมัยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล

159404239057

“การคืนครูให้กับนักเรียนไม่ได้โฟกัสเพียงแค่ให้ครูมีเวลาเพื่อมาสอนนักเรียนเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่เราต้องการให้ครูมีเวลามากขึ้นในการเป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำ แนะแนวต่างๆ ครูจึงต้องทำหน้าที่เป็นไลฟ์โค้ช ซึ่งเรื่องเหล่านี้จำเป็นมากกว่าแค่เนื้อหาทางวิชาการ เพราะถือเป็นต้นทางในการพัฒนาคนที่มีคุณภาพของประเทศ” นรินทร์ กล่าว