ย้าย 'ต้นยางนา' อายุมากกว่า 100 ปี ไปปลูกในโรงเรียนแทนตัดทิ้งเพื่อขยายถนน

เฮลั่น! ภาคีเครือข่ายจิตอาสาเอกชนภูเก็ต ร่วมเคลื่อนย้ายต้นยางนาอายุมากกว่า 100 ปี ได้รับผลกระทบจากโครงการขยายถนนสายอนุสาวรีย์-ป่าคลอก-เมืองใหม่ ไปปลูกที่เหมาะสม หลังโซเชียลเรียกร้องไม่ให้ตัดทิ้ง

เมื่อวันที่ 6 ก.ค.63 บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านพารา ถนนสายอนุสาวรีย์-ป่าคลอก-บ้านเมืองใหม่ หมู่ที่ 4 บ้านพารา ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต กลุ่มอาสาสมัครภาคเอกชน และชาวบ้าน นำโดยนายสุวิทย์ สุริยะวงศ์ นายอำเภอถลาง, นายกิตติศักดิ์ เสียงสลัก จิตอาสาภาคเอกชนและนายกฤษติชัย นพรัตน์ ร่วมกันอำนวยการ เพื่อขนย้ายต้นยางนา อายุมากกว่า 100 ปี ออกจากริมถนนดังกล่าว หลังจากได้นำเครื่องจักรขนาดใหญ่ เช่น รถขุดหน้าตักหลัง รถเครนและกำลังคน ช่วยกันทำการขุดล้อมต้นยางดังกล่าวมาตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่เนื่องจากต้นยางนาดังกล่าวมีขนาดใหญ่ขนาด 5-6 คนโอบ มีความสูงประมาณ 45-50 เมตร และอายุค่อนข้างมาก จึงต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อให้บอกช้ำน้อยที่สุด

กระทั่งสามารถล้มต้นยางนาดังกล่าวลงมาได้อย่างปลอดภัย และได้ใช้เครนขนาดใหญ่ประมาณ 150 ตัน ทำการยกต้นยางนาไปทำการปลูกรักษาไว้ที่โรงเรียนบ้านป่าคลอก อ.ถลาง ห่างจากบริเวณดังกล่าวไปประมาณ 5 กิโลเมตร เพื่อเป็นการอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ หลังจากทางกรมทางหลวง จะทำการตัดต้นยางนาดังกล่าว เพื่อขยายถนนสายอนุสาวรีย์ –ป่าคลอก-เมืองใหม่จาก 2 ช่องจราจรเป็น 4 ช่องจราจร เพื่อแก้ปัญหาการจราจร แต่ภายหลังมีกระแสคัดค้านผ่านทางโซเซียล ทำให้ต้องยุติการตัดโค่น และทางจิตอาสาจากภาคส่วนต่างๆ ได้ช่วยกันสนับสนุนงบประมาณและอุปกรณ์ในการเคลื่อนย้ายไปปลูกไว้ยังจุดปลอดภัย

นายสุวิทย์ สุริยะวงศ์ นายอำเภอถลาง กล่าวว่า ภารกิจการเคลื่อนย้ายต้นยางนา ว่า สืบเนื่องจากกรมทางหลวงมีโครงการขยายถนนสายอนุสาวรีย์-ป่าคอลก-เมืองใหม่ จาก 2 ช่องจราจรเป็น 4 ช่องจราจร จึงมีความจำเป็นที่จะต้องติดต้นยางนาดังกล่าวออก แต่ด้วยชาวบ้านมีความรู้สึกรักและหวงแหนต้นยางนาดังกล่าวซึ่งมีอายุ 100 กว่าปี และหลายคนก็เห็นต้นยางนานี้มาตั้งแต่เกิด แต่ด้วยทางชาวบ้านไม่มีกำลังในการที่จะเคลื่อนย้ายจึงได้ปรึกษากับจิตอาสาภาคเอกชนใจดี และรับปากในการนำอุปกรณ์เครื่องมือ ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญในการขนย้ายต้นไม้ขนาดใหญ่มาช่วยดำเนินการดังกล่าว โดยไม่ต้องใช้งบประมาณของภาครัฐแต่อย่างใด

นายกิตติศักดิ์ เสียงสลัก แกนนำจิตอาสาภาคเอกชน กล่าวว่า ในการขุดย้ายต้นยางนานั้นได้มีผู้เชี่ยวชาญด้านการย้ายต้นไม้ขนาดใหญ่ และยังได้รับการสนับสนุนเครื่องจักรจากทางกฤษติชัยการโยธา จึงทำให้ง่ายขึ้น ส่วนของภาคราชการได้อำนวยความสะดวกในเรื่องของเอกสารอนุญาตการเคลื่อนย้ายต่างๆ จึงถือเป็นความโชคดีอย่างมากที่จะทำให้เรารักษาต้นไม้ที่มีอายุมากกว่า 100 ปีไว้ให้ลูกหลานได้เรียนรู้และศึกษา ทั้งนี้จะมีการเคลื่อนย้ายไปปลูกไว้ที่โรงเรียนบ้านป่าคอลก ซึ่งห่างจากบริเวณนี้ไปประมาณ 5 กิโลเมตร และจะมีผู้เชี่ยวชาญเข้าไปดูแลหลังจากที่มีการย้ายและปลูกลงดิน

ทางด้านนายกฤติชัย นพรัตน์ หนึ่งในจิตอาสาภาคเอกชนที่นำอุปกรณ์เครื่องจักรและกำลังคนมาช่วยขนย้ายต้นยางนา กล่าวยอมรับว่า การเคลื่อนย้ายทำได้ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากต้นไม่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก เบื้องต้นใช้เครนขนาด 120 ตัน และรถแบ็คโฮช่วยพยุงทำให้ต้นไม้ล้ม ก่อนที่จะทำการล้อมบริเวณโคนต้น และทำการขนย้ายไปยังที่ปลูกแห่งใหม่ ซึ่งก็พยายามทำอย่างเต็มความสามารถและให้ดีที่สุด ด้วยประสบการณ์ที่มีมากกว่า 20 ปี เพื่อให้ต้นไม้ต้นนี้อยู่รอดเคียงคู่ชาวภูเก็ตต่อไป

ขณะที่นายอรรถสิทธิ์ อินทรชูติ ผู้รับผิดชอบการดำเนินการย้ายต้นไม้ กล่าวว่า การดำเนินการขณะนี้รวมระยะเวลา 6 วันแล้ว เหตุที่ล่าช้าเนื่องจากต้นไม้ต้นนี้สูงมาก ทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก และจะต้องตัดตอนส่วนข้างบนออกไปประมาณ 15 เมตร จนเหลือความสูงประมาณ 30 เมตร จากนั้นจึงเริ่มกระบวนการการล้มและขุดล้อม เพื่อให้เกิดอันตรายน้อยที่สุด ก่อนที่จะนำไปปลูกรักษาไว้ที่โรงเรียนบ้านป่าคลอก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะทำการขุดล้อมเตรียมเคลื่อนย้ายได้เกิดอุปสรรคหลายอย่างจึงทำให้เกิดความล่าช้ากว่าแผนงานที่กำหนดไว้ เช่น พื้นทรุด ดินล้อมรอบโคนต้นแตกร้าว ฝนตก เป็นต้น จึงทำให้ทางกลุ่มจิตอาสาที่ร่วมกันทำการขนย้าย ได้ทำการไหว้ขอขมาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตามความเชื่อ เพื่อให้การเคลื่อนย้ายเป็นไปด้วยความสะดวก จนสามารถดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย