ยอด 'ช้อปออนไลน์' คนจีนพุ่งช่วงโควิด

ยอด 'ช้อปออนไลน์' คนจีนพุ่งช่วงโควิด

ช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด ทำให้คนจีนต้องถูกกักตัวอยู่ในบ้าน ผลักดันให้ต้องเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต หันมาใช้จ่ายบนออนไลน์เป็นหลัก โดยพบว่า Q1 ปี 2563 พบจำนวนผู้ใช้งานในระบบออนไลน์เพย์เมนท์ในจีนพุ่งขึ้นแตะ 768 ล้านคน หรือเพิ่มจากปีก่อน 85.3%

แม้ช่วงที่คนถูกกักตัวจากโรคโควิด-19 จะดูเหมือนว่าเป็นสถานการณ์ที่ย่ำแย่สำหรับทุกฝ่าย ซึ่งหากธุรกิจต่างๆ ไม่มีการปรับเปลี่ยนตัวเองก็คงจะไปต่อได้ลำบาก

อย่างไรก็ดี ในประเทศจีนมีรายงานชี้ว่า คนจีนมีการใช้จ่ายเงินทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น โดยผลสำรวจจากไชน่า อินเทอร์เนอร์ วอทช์ (CIW) ระบุว่า เมื่อสิ้นเดือน มี.ค. หรือช่วงสิ้นไตรมาสแรกของต้นปีที่ผ่านมา พบจำนวนผู้ใช้งาน (Users) ในระบบออนไลน์เพย์เมนท์ในประเทศจีนพุ่งขึ้นไปแตะที่ 768 ล้านคน 

ตัวเลขดังกล่าว นับว่าเป็นจำนวนที่เติบโตอย่างน่าสนใจ โดยมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 168 ล้านคน หากเปรียบเทียบจากสิ้นปี 2562 และโดยรวมคิดเป็นสัดส่วนราว 85.3% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในจีนเวลานี้ ด้านมูลค่าใช้จ่ายตามรายงานจากไอรีเสิร์ช (iResearch) สูงถึง 56.7 ล้านล้านหยวน 

นอกจากนี้จำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้น ก็นับว่าเป็นเรื่องที่สอดคล้องกับสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากทำให้คนจีนต้องถูกกักตัวอยู่ในบ้าน ขณะเดียวกันผลักดันให้ผู้คนต้องเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต แล้วหันมาใช้จ่ายบนออนไลน์เป็นหลัก

ด้านแอพพลิเคชั่นที่คนจีนนิยมใช้งานมากที่สุดคือ อาลีเพย์ (Alipay) 55.1% เทนเพย์ (Tenpay) ในเครือเทนเซ็นต์ 38.9% ซึ่งจะเห็นได้ว่าเพียงแค่แอพพลิเคชั่นของสองบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างอาลีบาบาและเทนเซ็นต์ ก็ครอบครองส่วนแบ่งการตลาดแพลตฟอร์มด้านธุรกรรมการเงินออนไลน์ไปมากกว่า 94% แล้ว

ส่วนช่องทางที่นิยมใช้งานที่สุดยังคงเป็นผ่านทางสมาร์ทโฟน แต่ก็ได้พบว่าจำนวนผู้ใช้งานทางมือถือลดลง 17.7% ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนการใช้งานบนมือถือที่ลดลงมากที่สุดในหลายปีหลัง โดยสาเหตุคาดว่าจะมาจากการที่คนจีนถูกกักตัวแล้วทำให้การใช้งานจ่ายออนไลน์ไปอยู่บนช่องทางอื่นมากกว่าแค่บนมือถือเท่านั้น

ส่วนการใช้จ่ายผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ดแบบออฟไลน์มูลค่าอยู่ที่ราว 6.6 ล้านล้านหยวน ซึ่งเมื่อเทียบกับเดือนก่อนมีการเข้าใช้งานลดลงราว 31.1%

อย่างไรก็ตาม ด้วยสาเหตุการลดลงของการใช้งานบนมือถือ มีผลสืบเนื่องจากพฤติกรรมของคนจีนที่ถูกกักตัว ดังนั้นคาดว่าเทรนด์นี้จะเป็นเพียงพฤติกรรมชั่วคราวเท่านั้น และในภาพรวมแล้วการลดลงของการใช้งานยากที่จะใช้วัดอะไรได้ 

โดยเฉพาะพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของคนจีนที่ยังคงให้ความสำคัญกับช่องทางออนไลน์และการใช้งานแพลตฟอร์มบนมือถือเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งก็น่าจะกลับมาให้เห็นชัดเจนในช่วง Rebound หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายแล้วนั่นเอง

ดังนั้นช่องทางออนไลน์เพย์เมนท์จึงยังเป็นองค์ประกอบที่สำคัญต่อการทำตลาดออนไลน์ประเทศจีนที่ยังไงก็ขาดไม่ได้ ขณะเดียวกันยังจำเป็นสำหรับการบุกตลาดจีนออนไลน์ต่อไปในอนาคตอย่างยิ่งครับ