ปูดแบ่งเค้กเงินกู้ 4 แสนล้าน 'ศรีสุวรรณ' ร้องสอบ ผช.รมต.

ปูดแบ่งเค้กเงินกู้ 4 แสนล้าน 'ศรีสุวรรณ' ร้องสอบ ผช.รมต.

ปูด! ผู้ช่วยรัฐมนตรี เสื้อแดงแปรพักตร์ ล้วงลูกตั้งวิสาหกิจชุมชน หวังทำยอด-ขอแบ่งเค้กเงินกู้ 4 แสนล้าน "ศรีสุวรรณ" จ่อร้อง กมธ.ป.ป.ช.สอบ ขณะที่ “หมอวรงค์” ท้าก้าวหน้าเปิดหลักฐานบริจาคโครงการเมย์เดย์ เมย์เดย์ ขู่เปิดชื่อวันนี้

วานนี้ (5ก.ค.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากข้าราชการในหลายจังหวัดของภาคเหนือ ว่ามีการแอบอ้างการจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนและการรวบรวมสมาชิกในพื้นที่ โดยกล่าวถึงชื่อกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีชื่อดังท่านหนึ่งอดีตแกนนำนปช.แปรพักตร์ไปข่มขู่ข้าราชการให้สนับสนุนและผลักดันการตั้งวิสาหกิจชุมชนอย่างเร่งรีบ ทั้งๆที่ชาวบ้านยังไม่มีความพร้อม เพียงเพราะต้องการตัวเลขปริมาณวิสาหกิจชุมชนเยอะๆเพื่อนำมาเสนอนายกรัฐมนตรีหวังขอส่วนแบ่งใช้เงินกู้ 4 แสนล้าน

ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากมีอดีตแกนนำคนเสื้อแดงคนสนิทกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯได้พยายามยามรวบรวมและจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศขึ้นมา และได้ยื่นหนังสือเพื่อให้นำเรียนนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อขอรับการสนับสนุนและผลักดันโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ยากจนและประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

โดยอ้างว่ามีสมาชิกมากกว่า 28,850 หมู่บ้าน ดำเนินการจดทะเบียนเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแล้ว 3,058 กลุ่ม และรวมกันเป็น“เครือข่าย”ที่รับผิดชอบจากสมาชิก ภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ของประเทศไทย ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่จะประกอบอาชีพทำการเกษตร โดยเครือข่ายฯ ได้มีข้อเสนอและขอรับการสนับสนุนให้รัฐบาลจัดตั้ง “คณะอนุกรรมาธิการแก้ไขปัญหาความยากจนเกษตรกร” (คปจ.กษ.) ขึ้นภายใต้ของสำนักนายกรัฐมนตรี

หลังจากนั้นเครือข่ายดังกล่าวอ้างว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้พิจารณาเห็นชอบแล้วและมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ พิจารณาสนับสนุนภายใต้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด-19 เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มประสิทธิภาพวิสาหกิจชุมชน ตามแผนการใช้จ่ายในวงเงิน 4 แสนล้านบาท พร้อมกับจะมีการแต่งตั้ง คปจ.จังหวัดแต่ละจังหวัดขึ้นมา โดยนำแกนนำเสื้อแดงแต่ละจังหวัดมาเป็นประธานทั้งหมด

ทั้งนี้สมาคมจะนำความไปร้องเรียนให้คณะกรรมาธิการป.ป.ช.สภาผู้แทนราษฎรดำเนินการตรวจสอบต่อไป

ส่วนกรณีเงินบริจาคโครงการเมย์เดย์ เมย์เดย์ ที่ดำเนินการโดยแกนนำคณะก้าวหน้า ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวจากนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรมอดีตผู้บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวเรื่อง “ฉีกหน้ากาก” มีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า

เพื่อให้การเมืองมีมาตรฐานใหม่ โปร่งใส และตรวจสอบได้ ให้เวลาเตรียมข้อมูล 24 ชม.ครับ วันที่6 ก.ค.เวลา 9.00 น.ผมจะนำรายชื่อ 15 รายชื่อ จาก 2,427 รายชื่อเท่านั้น มาลงในเพจและให้คณะก้าวหน้านำสเตทเม้นการโอนเงิน มาเปิดเผยต่อประชาชนถ้าสามารถมาเปิดเผยครบ 15 คน ภายในเวลาไม่เกิน 48 ชม. ผมจะถือว่าพวกท่านดำเนินด้วยความโปร่งใส น่าชื่นชม ยกย่อง

แต่ถ้าไม่สามารถมาเปิดเผยได้ครบ ในเวลากำหนด จะถือว่าโครงการเมย์เดย์ เมย์เดย์ หลอกลวงประชาชนที่สำคัญหลักฐานการโอนเงินใน 15 คนนี้ ควรจะลงวันที่ ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายนนี้ครับ ถ้าลงวันที่เดือนกรกฎาคม จะถือว่าเป็นการโอนเงินย้อนหลัง

วันเดียวกันว่าที่ร้อยตรีบุญเกื้อ ปุสสเทโว อตีตผู้ช่วย ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โคกคราม เพื่อขอลงบันทึกประจำวันพร้อมมอบหลักฐาน เป็นรายชื่อผู้บริจาคและจำนวนเงินของผู้บริจาค ให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ กรณีเงินบริจาคโครงการเมย์เดย์ เมย์เดย์ 7.2 ล้านบาท ของคณะก้าวหน้า ที่เปิดรับบริจาคช่วยเหลือประชาชนช่วงโควิด-19 พร้อมเปิดเผยว่า ตนติดตามโครงการนี้มาโดยตลอด โดยโครงการนี้เกี่ยวข้องกับความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งตนก็เป็นประชาชนธรรมดาและเป็นหนึ่งในผู้ร่วมบริจาคโดยตนบริจาคไป 1 สตางค์ ที่บริจาคแค่นี้เพราะเห็นว่าได้ยอดเยอะแล้ว ถึงจะเป็นเงินไม่มากก็น่าจะมีสิทธิ์ตรวจสอบความโปร่งใส

ยืนยันว่า ตนมาทำหน้าที่ของประชาชนไม่มีใครสามารถมาสั่งให้ตนทำอะไรได้ อย่างไรก็ดีไม่ได้กังวลว่าจะถูกดำเนินคดีกลับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ได้ออกมาปฏิเสธกรณีดังกล่าว พร้อมระบุว่า ขณะนี้กระบวนการเรื่องฟ้องร้องบุคคลและกลุ่มบุคคลที่กล่าวหาว่าเรายักยอกเงินหรือมีความไม่โปร่งใส ขณะนี้ได้ดำเนินไปตามกฎหมาย โดยมอบหมายให้ทีมทนายเป็นผู้เขียนคำฟ้อง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและดำเนินการฟ้องร้องได้ภายในต้นสัปดาห์นี้