สีสันยัง ‘เคลื่อนไหว’ ใน ‘นิวออร์ลีนส์’

สีสันยัง ‘เคลื่อนไหว’ ใน ‘นิวออร์ลีนส์’

เรื่องราวของพิธีเฉลิมฉลองงานศพแก่ผู้จากไปครั้งสุดท้าย และงานเทศกาลประจำปีแห่ง “นิวออร์ลีน” เมืองท่องเที่ยวที่มากไปด้วยสีสันและเสียงดนตรีแจ๊ส กำลังจะกลับมา “เคลื่อนไหว” อีกครั้งหนึ่ง

ฉันชอบเพลงแจ๊ส เมื่อรู้ว่าแจ๊สถือกำเนิดที่เมืองนิวออร์ลีน (New Orleans) รัฐลุยเซียนา (Louisiana) ก็สนใจเมืองนี้เป็นพิเศษ ซีรีส์เอ็นซีไอเอส นิวออร์ลีนส์ (NCIS New Orleans) แม้เป็นซีรีส์สืบสวนสอบสวนแต่ก็ทำให้ฉันรู้จักเมืองนิวออร์ลีนส์มากขึ้น ฉากเรื่องราววิถีชีวิตและวัฒนธรรมของผู้คนหลากหลายกลุ่มในเมืองนี้ทำให้ฉันประทับใจ พีคที่สุดคงเป็นพิธีเฉลิมฉลองงานศพของชาวนิวออร์ลีน ที่แม้เต็มไปด้วยความเศร้าแต่เคล้าไปด้วยความครึกครื้น วงดนตรีแจ๊สบรรเลงนำขบวนพาเหรดแห่ไปตามถนน ผู้ร่วมขบวนร้องรำทำเพลงเต้นตามจังหวะ รอยยิ้มปนคราบน้ำตาที่เห็นถือเป็นการเฉลิมฉลองให้เกียรติแก่ผู้ที่จากไปครั้งสุดท้าย

ไม่ต่างจากพื้นที่อื่นๆ ทั่วโลก โคโรนาไวรัสทำให้ความเคลื่อนไหวใจกลางเมืองนิวออร์ลีนส์ เมืองที่เต็มไปด้วยสีสันและการเฉลิมฉลองแม้ในวันสุดท้ายของชีวิต...ต้องหยุดชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง

เชฟ นักร้อง นักดนตรี และนักแสดงเปิดหมวก สูญเสียรายได้ โอกาสและความมั่นคงในชีวิตเมื่อโคโรนาไวรัสมาเยือนนิวออร์ลีนส์ให้หลังเทศกาลมาร์ดิกราส์ (Mardi Gras) เทศกาลสำคัญประจำปีอันแสนโด่งดังเพียง 13 วัน ผู้ป่วยรายแรกได้รับการยืนยันเมื่อวันที่ 3 มีนาคม ปกติแล้วงานเฉลิมฉลองมาร์ดิกราส์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก มาร์ดิกราส์อินเดียน (Mardi Gras Indians) หรือ ‘Black Masking Indians’ เป็นคำที่ใช้เรียกกลุ่มชาติพันธุ์อินเดียนแดงราว 38 กลุ่มแถบนี้ พวกเขาตกแต่งใบหน้า แต่งองค์ทรงเครื่องด้วยชุดลูกปัดปักเหลื่อมลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ บ้างประดับขนนกอลังการ เพื่อสื่อสารถึงตัวตน ร่วมกับชาวผิวขาวในงานมาร์ดิกราส์

159392538336

ช่วงจัดงานมาร์ดิกราส์ของทุกปีเป็นจุดเริ่มต้นต้อนรับสีสันเมื่อฤดูใบไม้ผลิมาเยือนทอดยาวไปจนกระทั่งหน้าร้อน ฤดูกาลที่สร้างรายได้ให้กับธุรกิจและผู้คนในเมืองแห่งนี้ แต่กลับกลายเป็นจุดตั้งต้นของการกระจายเชื้อโควิด 19 ส่งผลให้นิวออร์ลีนส์ขึ้นแท่นเป็นพื้นที่สีแดงตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดของสหรัฐในทันที พบผู้ป่วยกว่า 7,500 เคส และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 525 คน

ข้อมูลจากดาตาเซ็นเตอร์ (Data Center) บริษัทสำรวจทางสถิติของท้องถิ่น เปิดเผยว่า เกือบหนึ่งในสี่ของประชากรชาวนิวออร์ลีนส์มีฐานะยากจน สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยและภาวะโรคประจำตัวของชาวเมือง ทำให้ประชากรกลุ่มนี้มีความเสี่ยงติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) โรคไต และโรคมะเร็ง ใจกลางนิวออร์ลีนส์มีประชากรผิวสีอาศัยอยู่ราวร้อยละ 60 และกว่าร้อยละ 75 ของผู้เสียชีวิตในนิวออร์ลีนส์เป็นชาวผิวสี ขณะที่สถิติภาพรวมของรัฐลุยเซียนา พบว่า กว่าครึ่งหนึ่งจาก 2,950 คนในจำนวนผู้เสียชีวิตโควิด 19 เป็นคนผิวสี แม้ประชากรผิวสีมีจำนวนน้อยกว่าหนึ่งในสามของประชากรทั้งหมด

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เมืองซึ่งมีอายุสามร้อยสองปีอย่างนิวออร์ลีนส์ถูกท้าทาย โรคระบาด ภัยพิบัติ ไฟไหม้ และการขาดการจัดการต่างๆ ไม่เคยทำให้นิวออร์ลีนส์ต้องยกธงขาว ดูเหมือนว่าจิตวิญญาณของเมืองแห่งนี้ทำให้ผู้คนยืนหยัดต่อสู้มาได้เสมอ

สิงหาคมปี 2005 นิวออร์ลีนส์เผชิญหน้ากับเฮอริเคนแคทรีนา เฮอริเคนที่ยังได้ชื่อว่ารุนแรงและสร้างความเสียหายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกามาจนถึงปัจจุบัน พายุลูกนี้กินเนื้อที่ความเสียหายคิดเป็นขอบเขตเกือบเท่าเกาะอังกฤษ ร้อยละ 80 ของเมืองนิวออร์ลีนส์จมอยู่ใต้น้ำ มีผู้เสียชีวิตราว 1,800 ราย ชาวนิวออร์ลีนขณะนั้นราว 5 ล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้นานถึง 2 เดือน การฟื้นฟูเมืองที่ถูกพัดถล่มเป็นหน้ากลองไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในระยะเวลาอันสั้น ตลอดช่วงระยะเวลาราว 5 ปีหลังเกิดเหตุ มีอาสาสมัครกว่า 9 แสนคน หลั่งไหลเข้าไปยังพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ

159392538348

ภัยพิบัติก็คือภัยพิบัติ ช่วงเวลาที่ยากลำบากก็คือช่วงเวลาที่ยากลำบาก คนที่นี่พวกเราต่างรู้ว่าเฮอริเคนมาได้ทุกปี พวกเราเตรียมความพร้อมทางจิตใจเพื่อรับมือกับมัน แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นทุกปีเราก็ยังจัดเตรียมอุปกรณ์ เพื่อเย็บปักชุดใหม่เตรียมไว้สำหรับงานมาร์ดิกราส์ มันอยู่ในเสียงเพลง มันอยู่ในยีนของพวกเรา” เอล แจ็คสัน ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์แจ๊ส ‘Treme’s Petit’ กล่าว

ขณะที่ แฟรงค์ ไบรท์เซ็น เชฟเจ้าของร้านอาหารชื่อดังย่านแบล็คเพิร์ล (Black Pearl) ที่เปิดให้บริการมาเกือบ 35 ปี แต่ต้องหยุดกิจการชั่วคราวในช่วงสองเดือนมานี้ กล่าวว่า

สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากแคทรีนา คือ ไม่ใช่แค่ความเสียหายทางกายภาพหรือการทำลายล้าง แต่ยังมีเรื่องจิตวิญญาณและความเป็นมนุษย์ที่มีอยู่ข้างใน ร้านเราปิดมาแล้วสองเดือน แต่ตอนนี้ก็ยังรู้สึกดีกับตัวเอง เพราะได้ลงมือทำสิ่งสร้างสรรค์ซึ่งไม่เคยทำมาก่อน

ไบรท์เซ็น บอกว่า แม้ทางการอนุญาตให้ร้านอาหารเปิดให้บริการแบบซื้อกลับบ้านได้ แต่เขาตัดสินใจปิดร้าน แล้วใช้เวลาช่วงนี้เขียนตำราอาหารและผลิตเครื่องเทศจำหน่ายผ่านทางเว็บไซต์ของร้านแทน ตอนนี้เขายุ่งไม่แพ้ตอนเปิดร้าน ความต่างคือเขากำลังทำสิ่งที่หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของเขา มากกว่าการหารายได้

159392547039

นอกจากนี้ ช่วงที่ผ่านมาวงดนตรีหลายวงและนักดนตรีหลายคนก็ได้ปรับตัวนำเสนอผลงานผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อสร้างทางเลือก กิจการหลายอย่างปรับตัวเพื่อความอยู่รอด หลังทางการเริ่มคลายล็อคตั้งแต่ช่วง Memorial Day (วันที่ชาวอเมริกันระลึกถึงทหารอเมริกันที่เสียชีวิต) ชาวนิวออร์ลีนได้รับอนุญาตให้ออกมาใช้ชีวิตภายนอกมากขึ้น ชาวอินเดียนมาร์ดิกราส์เริ่มจัดเตรียมผืนผ้า เข็ม ลูกปัดและอุปกรณ์ที่จำเป็น จับกลุ่มกันเย็บปักชุด ร้อยสร้อยและทำหน้ากากสำหรับสวมใส่ในงานประจำปีอีกครั้งอย่างระมัดระวัง

สเตล์ลา รีส (Stella Reese) เธอสูญเสียสามีวัย 47 ปีจากโคโรนาไวรัส ที่ผ่านมาเธอไม่สามารถจัดขบวนแห่ศพตามธรรมเนียมได้ แต่เธอยืนยันชัดเจนว่า “เราจะมีการเฉลิมฉลองให้เขาอย่างแน่นอน เพราะชีวิตของเขาเป็นชีวิตหนึ่งที่ควรได้รับการเฉลิมฉลองและระลึกถึง”