อนาคตสดใส 'พลังงานสะอาด' ของชาติไทย

อนาคตสดใส 'พลังงานสะอาด' ของชาติไทย

เทรนด์ "รักษ์โลก" เข้มข้นขึ้นทุกขณะ เรื่อง “พลังงานสะอาด” จึงเป็นความหวังของมนุษยชาติ เมื่อคนลงมือทำและภาครัฐสนับสนุน อนาคตสดใสของชาติไทยก็รออยู่

มนุษย์เดินทางมาถึงยุคที่รอยต่อระหว่างพลังงานยุคเก่ากับ “พลังงานทดแทน” หรือที่เรียกอีกอย่างว่า “พลังงานสะอาด” มีความชัดเจนขึ้นมาก ตั้งแต่ปริมาณน้ำมันดิบใต้พิภพและผลกระทบจากการใช้น้ำมันที่สร้างมลพิษและไม่มีความยั่งยืน

“โซลาร์เซลล์” กำลังกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งทั้งระดับครัวเรือนไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ เพราะต้นทุนที่ทุ่มลงไปกับเทคโนโลยี “พลังงานแสงอาทิตย์” จะสร้างผลตอบแทนที่เป็นอนันต์จนกว่าเครื่องมือจะพังหรือดวงอาทิตย์จะดับไป

อุรชาติ กสิวงศ์สุนทร กรรมการบริหาร บริษัท อีโคเทค พาร์ท จำกัด ผู้ประกอบการด้านโซลาร์เซลล์ แสดงความคิดเห็นว่า ในปัจจุบันมีการสนับสนุนด้านโซลาร์เซลล์จากภาครัฐ ผ่านกระทรวงพลังงาน โดยมีมาตรการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ระดับหนึ่ง มีโครงการที่ประสบความสำเร็จ ยกตัวอย่าง โครงการโซลาร์เซลล์ฯ สหกรณ์ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาเพื่อช่วยเหลือภาคเกษตรกร แต่โครงการนี้ยังถือว่าสหกรณ์ได้รับผลประโยชน์น้อยกว่าเท่าที่ควร

ส่วนโครงการโซลาเซลล์ภาคประชาชน ที่กำลังเริ่มมีการประชุมตัวแทนภาคประชาชนเมื่อเร็วๆ นี้ มีแนวโน้มที่ดี เพราะปีที่ผ่านมาโครงการดังกล่าวนำร่องติดตั้งให้บ้านพักอาศัย หากจะส่งเสริมการมีส่วนร่วมภาคประชาชน เขาแนะนำว่าควรปรับราคารับซื้อจากภาคประชาชน ประมาณ 2.20 บาท ต่อเนื่องไม่จำกัดระยะเวลารับซื้อ และในเมื่อประชาชนผลิตกระแสไฟฟ้าได้ ในด้านการผลิตไม่ควรคิด vat กับประชาชน

“ทิศทางของพลังงานสะอาดในเมืองไทย มีแนวโน้มที่สดใสมาก ต้องยอมรับว่าเอกชนไทยมีความสามารถ โดยเฉพาะงานด้านเทคนิค เอกชนไทยฝีมือดีมาก ซึ่งได้มีการขยายการลงทุนไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน มีผู้ประกอบการหลายรายไปลงทุนติดตั้งออกแบบระบบ ไม่ว่าจะเป็น เมียนมา กัมพูชา เวียดนาม ลาว เอกชนเหล่านี้นำเงินตราเข้าประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เพียงแต่ในประเทศไทย มีกฎระบบระเบียบของหน่วยงานรัฐ ที่ไม่เป็นแบบ One stop service การติดตั้งโครงการในโรงงาน มีขั้นตอนที่ซ้อนทับต้องติดต่อตั้งแต่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เทศบาล กกพ. และหากมีขนาดมากกว่า 200 กิโลวัตต์ ก็ต้องเพิ่มการติดต่อผลิตพลังงานควบคุม ทำให้เอกชนหลายรายจึงต้องไปเล่นในเวทีต่างประเทศ”

สงวน สกุลวรรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยคูณสติล กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่าเหตุผลที่องค์กรของเขาตัดสินใจเป็นหนึ่งในภาคเอกชนที่นำ “พลังงานสะอาด” อย่าง “โซลาร์เซลล์” มาติดตั้งในโรงงานก็เพราะต้องการเป็นแบบอย่างก้าวสำคัญให้แก่โรงงานอื่นๆ ได้เห็นคุณค่าของพลังงานสีเขียว และประหยัดค่าไฟฟ้าที่ใช้ในการผลิตสินค้าของโรงงาน

“เราต้องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวกับเรื่องพลังงานสะอาด และเป็นการคืนกำไรให้สังคมในการช่วยลดโลกร้อนโดยลงทุนติดตั้งโซลาเซลล์ครั้งนี้ทั้งสิ้น 32 ล้านบาท และคาดว่าจะคุ้มทุนภายใน 4 ปี จากนั้นจะทำให้ประหยัดค่าไฟได้เดือนละ 600,000 บาท หรือปีละ 7,200,000 บาท

การติดตั้งโซล่าเซลล์มีองค์ประกอบหลายอย่าง อาทิ ได้รับการส่งเสริมจากบีโอไอ สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้เต็มจำนวนระยะเวลา 3 ปี ทำให้มูลค่าการลงทุนที่จะลงทุน 100 เปอร์เซ็นต์ กลับเป็นการลงทุนเพียง 50 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งการกู้เงินธนาคารก็ได้รับอนุมัติทันที เพราะค้ำประกันตัวเองได้”

การสนับสนุนจากภาครัฐประกอบกับความรับผิดชอบต่อสังคม คือหัวใจสำคัญที่จะเดินไปด้วยกันและจะทำให้ “พลังงานสะอาด” อย่าง “โซลาร์เซลล์” แผ่ขยายความนิยม เปลี่ยนสถานะ “พลังงานทางเลือก” มาเป็นพลังงานหลักได้ในวันหนึ่ง