อังกฤษเฮ! ซูเปอร์แซทเทอร์เดย์ ขุนคลังชวนกิน-ดื่มช่วยชาติ

อังกฤษเฮ! ซูเปอร์แซทเทอร์เดย์ ขุนคลังชวนกิน-ดื่มช่วยชาติ

อังกฤษดำเนินการครั้งใหญ่สุดในการกลับมาใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง "ซูเปอร์แซทเทอร์เดย์" ค่ำคืนวันเสาร์ที่ไม่เหมือนปกติ ด้านรัฐมนตรีคลังแดนผู้ดีกระตุ้นให้ประชาชนออกมารับประทานอาหารนอกบ้าน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ตกต่ำเป็นประวัติการณ์เพราะวิกฤติโควิด-19

วานนี้ (4 ก.ค.) อังกฤษดำเนินการครั้งใหญ่สุดในการกลับมาใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง ที่สุดท้ายแล้วผู้คนก็สามารถไปนั่งดื่มในผับ ตัดผม หรือรับประทานอาหารในร้านได้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 เดือน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ร้านตัดผมบางแห่งเปิดตอนเที่ยงคืนพอดี ส่วนผับได้รับอนุญาตให้บริการได้ตั้งแต่ 05.00 ในวัน “ซูเปอร์แซทเทอร์เดย์” แต่ก็มีความกังวลว่าผู้คนจะแห่กันออกไประบายความอัดอั้นที่อยู่บ้านนาน

นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน แถลงกับประชาชนว่า ทุกคนต้องมีพฤติกรรมรับผิดชอบและรักษาการเว้นระยะห่างทางสังคมไว้เพื่อส่งเสริมภาคธุรกิจ ไม่เสี่ยงเกิดไวรัสโคโรนาระลอก 2

จอห์นสันระบุว่า ข้อความของเขาต้องการให้ประชาชนฉลองฤดูร้อนอย่างปลอดภัย ไม่ทำลายความคืบหน้าของการจัดการโรคระบาด พร้อมชมเชยพนักงานในผับ ร้านอาหาร ร้านตัดผม และธุรกิจอื่นๆ ที่พยายามอย่างกล้าหาญเตรียมการกลับมาเปิดร้านอีกครั้ง

“ความสำเร็จของธุรกิจเหล่านี้ ชีวิตของคนผู้ต้องพึ่งพาพวกเขา และเหนือสิ่งอื่นใด ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจทั้งประเทศ ขึ้นอยู่กับการกระทำอย่างรับผิดชอบของพวกเราทุกคน เราต้องไม่ทำให้พวกเขาผิดหวัง” นายกฯ อังกฤษกล่าว ขณะที่ตำรวจเผยว่า เตรียมการทุกอย่างรับผับเปิด

กระนั้นลูกค้าที่ไปผับอาจพบบรรยากาศภายในที่แตกต่างออกไปจากคืนวันเสาร์ทั่วไป กล่าวคือ ต้องจำกัดจำนวนลูกค้า ไม่อนุญาตให้ยืนที่บาร์ ไม่มีการแสดงดนตรีสด และลูกค้าต้องให้ข้อมูลเพื่อเจ้าหน้าที่ตามรอยโรคจะระบุตัวได้หากมีคนติดเชื้อขึ้นมาภายหลัง

159390186287

เจดี วิทเธอร์สปูน เชนผับใหญ่สุดแห่งหนึ่งเผยว่า ลงทุนไปกับมาตรการความปลอดภัย 11 ล้านปอนด์ ผับส่วนใหญ่ในอังกฤษจะเปิดในเวลาปกติ 8.00 น. วันเสาร์ ไม่ต้องจองล่วงหน้า แต่ในช่วงลูกค้าหนาแน่นพนักงานจะคอยดูแลจำนวนผู้ใช้บริการ

ด้านรัฐมนตรีคลังแดนผู้ดีเรียกร้องให้ประชาชนออกมารับประทานอาหารนอกบ้าน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ตกต่ำเป็นประวัติการณ์เพราะวิกฤติโควิด-19

ริชชี ซูนัก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอังกฤษ แสดงความเห็นกับหนังสือพิมพ์เดอะไทม์ส ฉบับวันเสาร์ ที่อังกฤษเปิดผับ ร้านอาหาร และบริการอื่นๆ อีกครั้งจากที่ล็อกดาวน์ไปกว่า 3 เดือน 

การปิดเศรษฐกิจของอังกฤษยาวนานที่สุดประเทศหนึ่งของยุโรป เนื่องจากตัวเลขการติดเชื้ออย่างเป็นทางการอยู่ที่ 44,131 คน เป็นรองเฉพาะสหรัฐกับบราซิลเท่านั้น

ขุนคลังระบุว่า การปิดเศรษฐกิจเป็นความเจ็บปวดอย่างยิ่งสำหรับอังกฤษ เพราะการบริโภคคิดเป็นราว 2 ใน 3 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)

“มากกว่าประเทศอื่นๆ ส่วนใหญ่ ดังนั้นเมื่อเราเกิดสถานการณ์แบบนี้ ที่เราต้องอยู่ห่างกันเห็นได้ชัดว่าส่งผลกระทบอย่างชัดเจน”

ซูนักยังกังวลเรื่องคนรุ่นหนึ่งที่ต้องขวัญเสียเพราะโควิด-19 โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวที่หวังทำงานภาคธุรกิจบริการ

“สำหรับผมจริงๆ แล้วนี่คือเรื่องของความยุติธรรมทางสังคม ผู้คนกระทำการด้วยความรับผิดชอบ แต่สุดท้ายแล้วถ้าเราออกไปรับประทานอาหารข้างนอกเพื่อช่วยเหลือ เราสามารถปกป้องงานเหล่านั้นไว้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องนามธรรม”

ทั้งนี้ ขนาดที่แท้จริงของปัญหาการว่างงานจะทราบได้ก็ต่อเมื่อรัฐบาลเริ่มลดมาตรการช่วยเหลือผู้ถูกเลิกจ้างในเดือน ส.ค.

159390194459

ปัจจุบันรัฐสนับสนุนค่าจ้างประชาชนส่วนใหญ่ในอัตรา 80% แต่คำร้องว่างงานยังพุ่งสูง 126% มาอยู่ที่ 2.8 ล้านคนในรอบ 3 เดือนถึงเดือน พ.ค.

สัปดาห์หน้าซูนักจะแถลงรายงานเศรษฐกิจต่อสภา ที่จะถูกจับตาอย่างใกล้ชิดเพื่อมองหาสัญญาณว่า รัฐบาลตั้งใจสนับสนุนภาคธุรกิจมากน้อยขนาดไหนในอนาคต

ตอนนี้รัฐบาลอังกฤษกำลังสร้างหนี้มากขึ้น แต่อัตราดอกเบี้ยต่ำ และต้นทุนการกู้ยืมยังคงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

แอนดี ฮัลเดน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารกลางอังกฤษ สร้างความฮือฮาในสัปดาห์นี้ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวเป็นรูป “ตัววี” ผลการดำเนินการในระดับเดิมจะกลับคืนมาในไม่ช้า แต่ซูนักไม่เชื่อมั่นถึงขนาดนั้น

“เราทุกคนอยากให้แอนดีพูดถูก แต่เราก็ต้องคำนึงถึงความจริงด้วย คุณไม่สามารถปิดเศรษฐกิจแบบที่เราทำมาหลายเดือนโดยไม่ประสบกับความยากลำบากได้”

ที่ฝรั่งเศสก็มีข่าวให้น่าชื่นใจเช่นกัน พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ในกรุงปารีส เปิดให้บริการบางส่วนวันจันทร์นี้ ภายใต้ข้อจำกัดคุมไวรัส

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีคนมาเยี่ยมชมมากที่สุดในโลก และเป็นที่เก็บภาพโมนาลิซา ปิดมาตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. ฌอง ลุค มาร์ติเนซ์ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์เผยว่า สูญเสียรายได้ไปแล้วกว่า 40 ล้านยูโร ในบรรดาผู้มาเยือนเมื่อปี 2561 จำนวนกว่า 10 ล้านคน เกือบ 3 ใน 4 เป็นนักท่องเที่ยว

“เราสูญเสียผู้ชมไป 80% ผู้มาเยือน 75% เป็นชาวต่างชาติ เมื่อเปิดอีกครั้งก็น่าจะมีคนมาราว 20-30% ของจำนวนเมื่อฤดูร้อนปีก่อน มากสุดก็4,000-10,000 คนต่อวัน”

ผู้มาเยือนจะต้องสวมหน้ากาก ไม่มีของว่างหรือห้องรับฝากของ ผู้ชมต้องเดินตามเส้นทางที่กำหนดตลอดทั้งพิพิธภัณฑ์ พื้นที่หน้าภาพโมนาลิซาที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายเซลฟี มีการกำหนดจุดให้ยืนเพื่อรักษาระยะห่างทางสังคม

ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า งบประมาณพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์แต่ละปีอยู่ที่ 250 ล้านยูโร ฝรั่งเศสมอบให้ 100 ล้านยูโร ที่เหลือพิพิธภัณฑ์ต้องหาเอง วันจันทร์นี้เปิดพื้นที่ให้ชมได้ 70% หรือ 45,000 ตารางเมตร

ก่อนหน้านี้ลูฟวร์จัดนิทรรศการของลีโอนาร์โดไปแล้ว อีก 2 นิทรรศการที่มีกำหนดจัดในฤดูใบไม้ผลิแล้วถูกเลื่อน ตอนนี้ได้กำหนดจัดในฤดูใบไม้ร่วง

ช่วงล็อกดาวน์ลูฟวร์เปิดให้ชมแบบเสมือนจริง ตอนนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในโลกบนอินสตาแกรมกว่า 4 ล้านคน ขณะนี้มาร์ติเนซกำลังวางแผนเร่งประชาสัมพันธ์พิพิธภัณฑ์ก่อนถึงปี 2567 ที่กรุงปารีสเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก