เลขาฯสมช.เผย 'ผบ.สหรัฐ' ไม่ต้องกักตัว 14 วัน 'ศรีสุวรรณ' แย้งอย่าเลือกปฏิบัติ
'เลขาฯ สมช.' เผย ผบ.สหรัฐ ไม่ต้องกักตัว 14 วัน ขออย่ากังวัล แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขไทยอย่างเคร่งครัด ด้าน 'ศรีสุวรรณ' แย้งอย่าเลือกปฏิบัติ
พลเอก สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ขอประชาชนคลายความกังวล กรณีพลเอก เจมส์ แมคคอลวิลล์ ผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐ และคณะ จะเดินทางมาเยือนประเทศไทยระหว่างวันที่ 9-10 ก.ค.นี้ ในฐานะแขกของกองทัพบก
หลังได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าราชอาณาจักรตามข้อตกลงพิเศษ หรือ Special Arrangement ในฐานะแขกทางการ ที่เข้าเงื่อนไขไม่ต้องกักตัว 14 วัน แต่ก็ต้องปฏิบัติตามมาตรการ 6 ข้อ ของ ศบค. อย่างเคร่งครัด ซึ่งทุกคนยินดีและพร้อมปฏิบัติตาม
โดยคณะของผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐ จะเดินทางโดยเครื่องบินส่วนตัวมาจากประเทศสิงคโปร์ ไม่ได้เดินทางตรงมาจากสหรัฐ เป็นคณะเล็กที่มีผู้ร่วมเดินทางไม่เกิน 10 คน ใช้เวลาอยู่ในประเทศไทยเพียง 2 วัน คือ เดินทางมาถึงวันที่ 9 และกลับในวันที่ 10 กรกฎาคม โดยจะตรวจเชื้อจากประเทศต้นทาง และตรวจซ้ำเมื่อเดินทางถึงไทย มีเจ้าหน้าที่ของไทยติดตามใกล้ชิด และเดินทางตามเส้นทางที่กำหนดไว้เท่านั้น
ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ General James McConville, U.S. Army Chief of Staff หรือ ผบ.ทบ.สหรัฐอเมริกา มีแผนที่จะเดินทางมาเยือน ผบ.ทบ.ไทยอีกครั้งในระหว่างวันที่ 9-10 กค. นี้ เพื่อหารือความร่วมมือทางทหารนั้น แต่เนื่องจากรัฐบาลไทยยังคงที่จะคงใช้ พรก.ฉุกเฉิน และออกข้อกำหนดเกี่ยวกับการกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศจะต้องถูกกักตัว 14 วันอย่างไม่เลือกปฏิบัติ จนสามารถควบคุมปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิผล
แต่การที่ ศบค.ได้มีคำสั่งอนุญาตให้นักธุรกิจต่างชาติและแขกต่างประเทศของหน่วยราชการที่มาไม่เกิน 14 วัน ไม่ต้องกักตัว แต่ให้อยู่ในพื้นที่ที่กำหนดตามกำหนดการ และปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐกำหนดนั้น เป็นการเลี่ยงบาลี เลือกปฏิบัติ และเอื้อประโยชน์ให้กับ ผบ.ทบ.ของสหรัฐอเมริกาเป็นการเฉพาะหรือไม่
ขอถาม ศบค.ดังๆ ว่านักธุรกิจต่างชาติ และแขกต่างประเทศของหน่วยราชการเหล่านี้ เป็นอภิสิทธิ์ชนที่เชื้อโควิด-19 ไม่กล้าแตะต้องหรือแฝงเชื้ออยู่ในตัวได้กระนั้นหรือ?
ซึ่งข่าวที่เผยแพร่ออกมาว่า ผบ.ทบ.สหรัฐ ยินยอมที่จะทำตามมาตรการ และปฎิบัติตามระเบียบของทางการไทยทุกมาตรการทุกอย่าง โดยไม่มีข้อแม้ด้วยความเต็มใจ ตามที่โฆษณาชวนเชื่อดังกล่าว แล้วไซร้เหตุใด ศบค.จึงต้องออกมาตรการเพื่อเอื้อประโยชน์ดังกล่าว ทั้งๆ ที่ประเทศไทยไม่ได้เป็นเมืองขึ้นของประเทศใด หรืออยู่ภายใต้อิทธิพลของนักธุรกิจใด หรือว่าไม่ใช่?
ทั้งนี้ หากเรื่องดังกล่าวถูกปล่อยผ่านเลยไป จะเป็นการชี้ให้เห็นว่ารัฐบาล และ ศบค.จงใจที่จะใช้อำนาจภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอย่างเลือกปฏิบัติ ซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้ว่า เหตุใดจึงมีประชาชนและกลุ่มการเมืองจำนวนหนึ่งจึงออกมาคลื่อนไหวให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
เพราะชี้ให้เห็นว่า แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยจะทุเลาและไม่มีแล้ว แต่ ศบค.ยังยกแม่น้ำทั้ง 5 มากล่าวอ้างความจำเป็นที่ยังต้องคง พ.ร.ก.อยู่นั้น เนื่องจากอาจมีผลประโยชน์แอบแฝงอยู่มากมาย โดยเฉพาะการใช้เป็นเครื่องมือในการจัดการฝ่ายตรงข้าม
"ดังนั้น การที่ ศบค.มีคำสั่งอนุญาตให้นักธุรกิจต่างชาติ และแขกต่างประเทศของหน่วยราชการที่มาไม่เกิน 14 วัน ไม่ต้องกักตัว จึงเป็นคำตอบที่ทำให้คนไทยจำนวนหนึ่งได้ตาสว่างมากขึ้น ยกเว้นรัฐบาลจะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก่อนที่ ผบ.ทบ.สหรัฐจะมาไทยเท่านั้น นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด