'New Normal' ท่องเที่ยววิถีใหม่ ‘ฮัลล์สตัทท์’ เมืองในฝันแห่งออสเตรีย

เมื่อประมาณต้นปีนี้เองที่พลเมืองและทางการของหมู่บ้าน ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) ในประเทศออสเตรีย ที่มีชื่อเสียงว่าเป็น หมู่บ้านริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก กำลังถกเถียงกันว่า จะมีมาตรการอะไรที่จะจัดการกับจำนวนนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลที่พากันมาเที่ยวชมทัศนียภาพของหมู่บ้าน ซึ่งอาจรวมถึงการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวด้วยซ้ำไป

หมู่บ้านนี้ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเวียนนา นครหลวงของออสเตรียประมาณ 300 กิโลเมตร มีประชากรเพียง 800 คนเท่านั้น ในขณะที่ก่อนที่จะประสบปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่นี่ประมาณ 10,000 คนต่อวัน ซึ่งเทียบเท่ากับเมืองเวนิสของอิตาลีและบาร์เซโลน่าของสเปนซึ่งมีขนาดใหญ่กว่ามาก หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ในรัฐอัปเปอร์ออสเตรียและได้รับการจัดให้อยู่แหล่งมรดกโลก

วิวทิวทัศน์ของที่นี่สวยงามเหมาะกับการมาท่องเที่ยวและถ่ายรูปเพื่อโพสต์ลงโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างมาก ภาพของแหล่งท่องเที่ยวของที่นี่โดยเฉพาะภาพหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบโดยมีภูเขาเป็นฉากหลังเป็นภาพคุ้นตาเพราะถูกนำไปทำเป็นภาพโปสการ์ด ถ้านักท่องเที่ยวมาในฤดูที่ต่างกันจะเห็นทิวทัศน์ที่ต่างกันไป

ก่อนหน้านี้ รถนักท่องเที่ยวกว่า 100 คันพากันจอดเรียงรายในสถานที่ท่องเที่ยวของหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้และทำให้เกิดรถติดอย่างมาก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาจากจีน ไต้หวัน เกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกา 

อเล็กซานเดอร์ ชูลท์ นายกเทศมนตรีกล่าวว่า มีภาพของหมู่บ้านและทิวทัศน์จำนวนมากกว่า 600,000 ภาพในอินสตาแกรม ความเชื่อที่ว่า หมู่บ้านนี้ถูกใช้เป็นฉากหลังของภาพยนตร์ฮอลลลีวู้ดเรื่อง Frozen และซีรีย์สเกาหลีทำให้ใครๆ ก็อยากมาสัมผัสด้วยตัวเอง นอกจากนั้น ยังถูกนำไปสร้างเป็นหมู่บ้านจำลองในมณฑลกวางตุ้งของจีนอีกด้วย

แต่เพราะไวรัสโควิด-19 ทำให้หมู่บ้านนี้กลายเป็นเมืองร้างไปแล้ว ซอนย่า คาธธารีน่า ชาวเมืองฮัลล์สตัทท์คนหนึ่งกล่าวว่า เมื่อออสเตรียประกาศปิดประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด หมู่บ้านเหมือนเมืองผีสิง เหมือนโลกหยุดหมุน ความรู้สึกตอนนั้นคือ น่ากลัวและเงียบสงบ ไม่มีรถยนต์ รถบัสและนักท่องเที่ยว เงียบเสียจนเราได้ยินเสียงหงส์ว่ายน้ำ

เมืองฮัลล์สตัทท์ในช่วงการระบาดของโควิด-19 (ภาพจาก https://heritagetribune.eu/)

หลังจากออสเตรียประกาศผ่อนผันมาตรการปิดประเทศเมื่อเดือนพฤษภาคม พลเมืองฮัลล์สตัทท์ ก็ต้องกลับมาคุยกันว่าจะทำให้การท่องเที่ยวที่คาดว่าจะกลับมาหลังการแพร่ระบาดหมดไปในทิศทางที่บังคับได้อย่างไร นายกเทศมนตรีชูลท์กล่าวว่า มีการถกเถียงกันระหว่างคนท้องถิ่นที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์จากการท่องเที่ยวที่คึกคัก

ซิลเวีย สกริลเล็ค กล่าวว่า จำนวนนักท่องเที่ยวก่อนไวรัสระบาดมีมากเกินไปและทำให้คนท้องถิ่นรู้สึกอึดอัด “ถ้าคุณไม่สามารถเดินไปตามถนนได้เพราะมีนักท่องเที่ยวมากเกินไป หรือถ้าคนไม่สามารถกินอาหารในร้านได้เพราะมีคนอื่นที่กำลังคอยคิวจ้องมองจากนอกร้าน นั่นเป็นสิ่งที่ไม่น่าดีเลย” ถึงแม้เธอเป็นเจ้าของร้านเซรามิค แต่เธอก็ไม่เห็นด้วยที่จะมีนักท่องเที่ยวมากเกินไป

ส่วน เวเรนา โลบิสเซอร์ ซึ่งเปิดโรงแรมสำหรับนักท่องเที่ยวก็ยอมรับว่า สถานการณ์ก่อนหน้านี้เกินจะควบคุมได้ เธอเปรียบนักท่องเที่ยวว่า “ยุ่บยั่บเหมือนผึ้งในขวดน้ำผึ้ง” เธอหวังว่า วิกฤตนี้จะช่วยเปิดตาผู้คนให้รู้ว่า หมู่บ้านนี้ตกเป็นเหยื่อของความสำเร็จของตนเอง

ป้ายหลายป้ายในหมู่บ้านแสดงให้เห็นถึงสภาวะนักท่องเที่ยวล้นเมืองเช่น ป้ายหนึ่งเขียนว่า “ห้ามโดรนบินในบริเวณนี้” หรือ “หมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ไม่ใช่พิพิธภัณฑ์” เพราะนักท่องเที่ยวจะชอบเดินเข้าไปในสวนหรือในบ้านของคนโดยไม่บอกกล่าวและไม่ได้รับเชิญ

แต่การท่องเที่ยวก็นำเงินและการสร้างงานมาสู่ธุรกิจของหมู่บ้าน รายได้ที่มาจากการท่องเที่ยวก็นำมาช่วยให้สมาคมเยาวชนมีเงินช่วยเหลืออาหารแก่คนชราและผู้ยากไร้

หลังจากออสเตรียผ่อนคลายมาตรการ นักท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนออสเตรียและประเทศเพื่อนบ้านเริ่มกลับมาเที่ยวอีก หมู่บ้านเริ่มใช้มาตรการจำกัดจำนวนรถนักท่องเที่ยว แต่ความพยายามที่จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวอาจจะไม่เป็นผลเพราะมีข่าวว่า ดิสนีย์ บริษัทสร้างภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่มีแผนจะใช้หมู่บ้านเป็นฉากหลังในการสร้างภาพยนตร์อีก

เกรเกอร์ กริทซ์กี้ ซีอีโอของบอร์ดการท่องเที่ยวท้องถิ่นกล่าวว่า การท่องเที่ยวเหมือนเหรียญที่มีสองด้าน ความท้าทายคือ จำนวนนักท่องเที่ยว แต่ก็เป็นการดีที่หมู่บ้านจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยว 

“เราต้องการนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้มาเพื่อถ่ายรูป หรือขึ้นรถลงรถไปเที่ยวแบบฉาบฉวยเท่านั้น”

................................

ที่มา: บีบีซี, เอเอฟพี