สกัดยุบพรรค-พิทักษ์ 'บิ๊กป้อม' ผุดคู่มือบริหาร พปชร.

สกัดยุบพรรค-พิทักษ์ 'บิ๊กป้อม' ผุดคู่มือบริหาร พปชร.

“อย่าให้พลาด เพราะเราจะไปกันทั้งยวง” หัวหน้าป้อม ย้ำทีมงานเคร่งครัดข้อห้าม กก.บห.พรรค

รู้ตัวว่าเป็น ‘ตำบลกระสุนตก’ หยิบจับอะไร เป็นต้องโดน สำหรับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่วันนี้เขยิบฐานะจากที่ปรึกษา ขึ้นมาเป็น หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ทั้งโจทก์เก่าและโจทก์ใหม่จ้องตาไม่กะพริบ หาโอกาส ‘สอย’ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

เบื้องต้น ทีมงานเล็งวันศุกร์ที่ 10 ก.ค. ให้ ‘หัวหน้าป้อม’ เรียกประชุมลูกพรรค ครั้งแรก หลังจากปรับโครงสร้างและเปลี่ยนแปลงตำแหน่งหัวหน้า และคณะกรรมการบริหารพรรค จากเดิม 34 คน เหลือ 27 คน โดยตัวเลขนี้ เห็นพ้องต้องกันว่า เหมาะสม ‘คอนโทรล’ ง่าย ไม่อุ้ยอ้ายเหมือนที่ผ่านมา

แต่การประชุมพรรค ‘หัวหน้าป้อม’ ต้องทำหนังสือลา หากกรณีเป็นเวลาราชการ เพื่อป้องกันการกระทำความผิดตาม ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) เรื่องการใช้เวลาราชการ ทำงานการเมือง ซึ่งมีโทษทางอาญา แต่หากอยู่นอกเวลาราชการ สามารถดำเนินการได้ทันที

งานนี้ ‘หัวหน้าป้อม’ ได้สั่งการให้ ‘ทีมงาน’ ไปรวบรวมกฎระเบียบในกฎหมายที่ “ห้ามทำเด็ดขาด” รวมถึงบทลงโทษตาม ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ว่าด้วยพรรคการเมืองปี 2560 โดยเฉพาะการกระทำที่นำไปสู่การยุบพรรค และการตัดสิทธิ์ทางการเมือง โดยกำชับให้จัดทำเป็น ‘คู่มือ’ แจกจ่ายให้กับคณะกรรมการบริหารพรรคทั้ง 27 คน ให้ยึดปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

ในขณะที่ตัว ‘หัวหน้าป้อม’ เอง ก็ได้เคลียร์ปัญหา มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด” โดยแยกออกจากบ้านพักประจำตำแหน่ง ได้ระยะหนึ่งแล้ว ก่อน ที่ รังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล จะหยิบยกมาอภิปรายนอกสภา ว่าเป็นแหล่งเครือข่ายผลประโยชน์ที่เชื่อมระหว่างกองทัพกับกลุ่มทุนใหญ่

ปัจจุบัน ‘มูลนิธิป่ารอยต่อ’ ได้ไปเช่าพื้นที่‘กรมธนารักษ์’ ติดกับแฟลตทหาร ดังนั้น ภาพ ส.ส.พปชร.แห่ขันหมากเทียบเชิญ ‘หัวหน้าป้อม’ จึงไม่เข้าข่ายฝ่าฝืนข้อบังคับที่ห้ามเกี่ยวข้องกับการเมือง หรือผิดกฎหมาย ตามที่มีการเรียกร้องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ เพราะปัจจุบันสถานที่ดังกล่าวเป็น ‘บ้านพักประจำตำแหน่ง’

อีกประเด็นที่ทีมงานกำลังกุมขมับและกำลังหาแนวทางจัดระเบียบ ”รับแขก” เพราะมีทั้ง ส.ส. ลูกพรรคพปชร. และพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงบุคคลในหลายวงการ ขอคิวขอเข้าพบ “หัวหน้าป้อม”ยาวเหยียด ทั้งที่ทำเนียบรัฐบาล และบ้านพักประจำตำแหน่ง

ที่เลี่ยงได้ยาก ในอนาคตเมื่อมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งคาดหมายกันว่าบิ๊กป้อม จะได้กลับมาคุมกระทรวงกลาโหม และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติผู้คนที่ไปมาหาสู่ จะเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ‘ทีมงาน’จึงเสนอตั้งทีมบุคคล ขึ้นมาทำหน้าที่ ‘บับเบิ้ล’ คอยเป็นกันชนและสแกนคนที่ขอเข้าพบ “หัวหน้าป้อม” เพื่อสกัดบุคคลที่ต้องการหาผลประโยชน์ หรือขอตำแหน่งทางการเมือง รวมถึงจัดคิวไม่ให้งานด้านการเมือง มาชนกับงานราชการในตำแหน่ง ‘รองนายกรัฐมนตรี’ แม้ปัจจุบันจะมีคนทำหน้าที่นี้อยู่แล้วก็ตามแต่ยามนี้ จำเป็นต้องเพิ่มทีมใหม่

งานนี้ “หัวหน้าป้อม” ย้ำหนัก ย้ำหนาให้ระมัดระวังเรื่องข้อห้าม โดยเฉพาะคณะกรรมการบริหารพรรค ที่ห้ามแหกกฎกติกาในกฎหมาย และการกลั่นกรองคนเข้าหา ด้วยคำสั่งผสมคำเตือน... “อย่าให้พลาด เพราะเราจะไปกันทั้งยวง” !