'กิน-เที่ยว'...ตามวิถีชาวสุราษฎร์ฯ

'กิน-เที่ยว'...ตามวิถีชาวสุราษฎร์ฯ

รายชื่อ "ของอร่อยสุราษฎร์ธานี" ลอยขึ้นมาอยู่ในหัว เช่น เกี๊ยวปลา ปลาม้วน โล่งโต้ง (ชื่อร้าน) ขนมกะทิแบบไทย หลนไตปลา อาหารทะเลตรงปากแม่น้ำตาปี เป็นต้น เวลามาเที่ยวแบบแผนการไม่มี ส่วนใหญ่จะเจอของดีแบบไม่คาดคิดเสมอ...

ตอนวางแผนเที่ยวล่องใต้ นึกถึง "หาดสิชล" ที่ยาวสวยของนครศรีฯ แต่ก็อ่านเจอข่าวกลุ่มนักท่องเที่ยวชอบใช้ชายหาดเงียบ ๆ เป็นแหล่งปาร์ตี้ส่วนตัว เปิดเพลงลั่น กินข้าวกันข้ามคืน ก็เลยเปลี่ยนแผนมาพักที่ "สุราษฏร์ธานี" แทน

159378473461

    ใจกลางเมืองสุราษฎร์ธานี

159378617874

         แม่น้ำตาปี

เมื่อนึกถึงสุราษฏร์ ก็มองเห็นอาหารอร่อย ๆ ใครมาเมืองนี้มักนึกถึงเกาะสมุย เกาะพะงัน แต่การมาเที่ยวด้วยตัวเองแบบจริงจังก็เที่ยวในเมืองได้ เราเลือกโรงแรมในตลาด เป็นโรงแรมเก่าทำใหม่ให้สะอาดสดใสขึ้น แต่ก็ยังเป็นโรงแรมแบบ Budget ห้องเล็ก ๆ ไม่มีอะไรมาก ห้องน้ำเล็ก ๆ แต่ทุกอย่างสะอาดดี สมราคา พออยู่ได้ค่ะ ที่ดีมากคือตรงนี้อยู่ใจกลางเมือง ร้านเกี๊ยวปลาที่อยากจะกินมาก ๆ อยู่ด้านหน้าโรงแรม ร้านนี้เปิดเช้า ปิดเร็ว เพราะคนเยอะตลอดเวลา เราทานอาหารเช้ากันมื้อแรกที่นี่ ไปถึงร้านคือก่อน 9.00 น. คนรอเต็มร้านแล้ว ทีเด็ดของเขาคือปลาม้วน ใช้เนื้อปลาเป็นชิ้น ๆ มาม้วนไส้คึ่นช่าย ที่กรุงเทพฯ ไม่มีแบบนี้นะคะ นอกนั้นก็เกี๊ยวปลา ลูกชิ้นปลา อร่อยดี แต่ที่สุดในใจคือ ปลาม้วน ค่ะ

159378478491

        ปลาม้วน

อ่านรีวิวมาร้านอาหารเช้าของสุราษฎร์ฯ มีมากมาย อยากลองมากเป็นอันดับสองคือ ร้านไข่ดาว ที่ห่างออกไปไม่ไกล เดินย่อยเกี๊ยวปลาไปได้กำลังดี ร้านนี้ขายอาหารเช้าที่มันย่องแต่อร่อยเด็ดดวงแบบต่าง ๆ เช่น ไข่ดาว หมูทอด ไส้กรอกทอด แฮม ขนมปังหน้าหมู หมูสับห่อฟองเต้าหู้ทอด ขนมปังปิ้ง โจ๊กหมู และ ข้าวหมูทอดแบบไทยโปะไข่ดาว ก็มี เราทานชุดอาหารเช้าแบบคลาสสิกกันพอเป็นพิธีคนละชุดพอ แต่ขอสั่งขนมปังปิ้งมาเพิ่มเติม กาแฟที่นี่แก้วเล็ก เลยกินไปสอง อิ่มท้องจิแตก ตอนนี้พร้อมมากแล้วค่ะสำหรับการเดินเล่นในเมือง

159378481881

       เกี๊ยวปลา

159378623830

      ไอคอนของตลาดสะพานโค้ง ตลาดเก่าแก่ของเมืองสุราษฎร์ธานี

เที่ยว-กิน...วิถีชาวเมือง

วิถีของชาวเมืองสุราษฎร์ฯ ก็น่าจะเหมือนกันกับชาวเมืองที่มีบ้านอยู่ริมน้ำที่ภาคใต้ของไทย แม่น้ำหลักคือ แม่น้ำตาปี พื้นที่เมืองตรงนี้ก็คือปากแม่น้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากทะเลนัก ริมแม่น้ำไม่ไกลจากเมืองเป็นพื้นที่สาธารณะ วันแรกที่มาถึงยามเย็น เรามาเดินเล่นสำรวจพื้นที่ เห็นว่ามีคนท้องถิ่นออกมาเต้นออกกำลังกายเยอะมาก แถมยังแบ่งเป็นกลุ่มตามเพลงตามจังหวะ เนิบช้าอยู่ส่วนนึง ฮาร์ดร็อกหัวสั่นก็อยู่อีกส่วน อยู่ใกล้กัน ได้ยินเพลงของกันและกัน แต่ไม่ข้ามเขตกันค่ะ ขณะเดินเรื่อยเปื่อยอยู่ มีคุณพี่เจ้าของเรือนำเที่ยวมาชวนให้ไปล่องเรือชมแม่น้ำ ชุมชนร้อยสาย ซุ้มจากที่ใคร ๆ ที่มาสุราษฎร์ก็ต้องมาเช็คอิน คิดไม่แพงค่ะ มาสองคนคิดคนละ 150 บาท (รวม 300 บาท) เลยขอเบอร์เขาไว้แล้วโทรไปจอง ได้คิวมาตอนเย็น ๆ วันนี้กันค่ะ

159378489534

         แม่น้ำตาปี

จะบอกว่าเดินเล่นในตัวเมืองสุราษฎร์ เราเห็นชาวต่างชาติมาเที่ยวเยอะเลย ที่ร้านไข่ดาว คุณพี่เจ้าของแนะนำที่เที่ยว ส่วนเราไม่มีแผนการอะไรนัก นั่งดูแผนที่มือถือเห็นว่า วัดไทร อยู่ไม่ไกลนัก เลยเดินไปเที่ยวกันก่อนค่ะ

159378495710

     ศาลาการเปรียญวัดไทร     

ภายนอกวัดไทรอาจจะไม่ต่างอะไรกับวัดไทยทั่วไปนัก แต่พอได้เดินเรื่อยเปื่อยเข้ามาด้านใน สิ่งที่เห็นคือศาลากลางเปรียญไม้สองชั้น คือดูแปลกตาไม่เหมือนที่ไหน หาดูออนไลน์ทันทีเลยได้ใจความว่า นี่คืออาคารไม้เก่าแก่มากอายุกว่า 100 ปี ที่ชาวชุมชนวัดไทรร่วมกันอนุรักษ์ไว้เพื่อเป็นหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์ ก็ปรากฏว่าในขณะที่เรากำลังกระหน่ำถ่ายภาพและวีดีโออยู่นั้น เราได้พบกันกับ คุณเสรี เตชะภิวัฒน์ พี่ชายของ คุณสมชาย เตชะภิวัฒน์ ประธานชุมชนวัดไทร คนที่เป็นผู้ให้สัมภาษณ์สื่อเรื่องชุมชนหลายครั้ง คุณเสรีเห็นเราสองคนถ่ายภาพกัน เลยกรุณาเปิดศาลากลางเปรียญให้เข้าไปถ่ายรูปเพิ่ม ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสดีโชคดีมาก

159378500119

         ระฆังโบราณสมัย รัชกาลที่ 3

ด้านในศาลากลางเปรียญคือ ระฆังทองเหลืองสมัยรัชกาลที่ 3 ตู้พระไตรปิฎก คุณเสรีชี้ให้กราบ พระพุทธเญยยอญฏิมา พระพุทธรูปเก่าแก่ที่สร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2463 ตีระฆัง (เบา ๆ พอค่ะ เก่าแก่มาก) เพื่อความเป็นสิริมงคล และเดินขึ้นไปชั้นสองเพื่อดูโต๊ะเก้าอี้ไม้เก่าที่เคยถูกใช้ในการเปิดเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยกับทหารญี่ปุ่นในวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2484 ด้วย ที่เกิดขึ้นก็เพราะว่า ศาลากลางเปรียญแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นฐานบัญชาการในวันที่ญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกที่สุราษฎร์ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองด้วยนั่นเอง

  159378508864

          พระพุทธเญยยอญฏิมา ที่ศาลากลางเปรียญ วัดไทร

159378598829

        ภายในชั้นล่างของศาลากลางเปรียญอายุกว่า 100 ปีที่วัดไทร 

ในวัดไทรมีการขุดพบโบราณวัตถุมากมาย ซึ่งทำให้คิดว่าวัดนี้เก่าแก่มากตั้งแต่สมัยอาณาจักรศรีวิชัย (ราวพุทธศตวรรษที่ 13 หรือ พ.ศ. 1202) คุณเสรีเล่าต่อว่า ประวัติชุมชนวัดไทรนี่ยาวนานมาก ส่วนใหญ่คนที่นี่ก็เป็นชาวจีนอพยพ ไม่ต่างจากเมืองติดน้ำติดทะเลที่อื่น ๆ ในภาคใต้ของไทย เมื่อก่อนชาวจีนชาวไทยมีการแบ่งแยกกัน ดูถูกกัน แต่ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของกษัตริย์ไทย ที่ใจกว้างยินดีต้อนรับทุกคนที่ได้มาตั้งรกรากที่แผ่นดินนี้ ตอนนี้เชื้อจีนเชื้อไทยก็อาจจะยังมี แต่เราคือคนไทยด้วยกันหมดทุกคน รู้สึกภูมิใจและหวงแหนรากเหง้าของพวกเราเหมือนกันหมดทุกคน  อิ่มใจกับประวัติศาสตร์แบบอันซีนที่วัดไทร

159378520472

    ขนมไทยอร่อยมาก

เราเดินออกมาผ่าน ร้านโล่งโต้ง ร้านก๋วยเตี๋ยวกระดูกหมูของดังของสุราษฏร์ จะบอกว่าเราเคยมาทานร้านนี้แล้วหนึ่งครั้งหลายปีแล้ว สัมผัสได้ถึงความหวาน (จากน้ำตาล) ของรสมือและรสนิยมนักกินชาวสุราษฎร์ ไม่ได้ไม่อร่อยแต่หวานมาก และจะบอกว่าขอให้มาทานขนมหวานแบบไทย ๆ ที่ร้านนี้ เพราะดีมาก กะทิข้นอร่อยสมกับเป็นกะทิเมืองสุราษฎร์ เข้ากันกับทุกอย่างเช่น สาคูเปียก ข้าวเหนียวเปียกลำใย เต้าส่วน และที่ขาดไม่ได้เพราะอร่อยมาก ๆ ที่สุดคือ ข้าวเหนียวมะม่วง ใช้มะม่วงอกร่องนะคะ อันนี้มารดาดิฉันต้องกรี๊ดสลบแน่นอนเพราะอกร่องนี่คือที่สุดของมะม่วงสมัยรุ่นคุณแม่ค่ะ

159378529234

         อุโบสถในวัดพัฒนาราม

เดินเลื้อยเลาะไปใช้กูเกิ้ลแม็ปนำทาง เราไปเที่ยว วัดพัฒนาราม กันต่อนะคะ นี่คืออีกวัดสำคัญของชาวเมือง ที่เรียกว่า วัดหลวงพ่อพัฒน์ โดยท่านเป็นผู้สร้างวัดและเจ้าอาวาสรูปแรก วัดนี้สร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ประมาณปี พ.ศ. 2439 เคยเป็นสถานที่ประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยามาจนถึงมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475 แน่นอนว่าเราต้องมา กราบหลวงพ่อพัฒน์ และชมโบสถ์ด้านหน้าที่มีรูปยักษ์และแขกยืนเฝ้ายามอยู่ ดูสวยแปลกดีค่ะ

159378538335         

        วัดพัฒนาราม

159378544717

เดินออกจากวัดใช้ประตูหน้า มีรถขายน้ำมะพร้าวอ่อน ขอแนะนำให้แวะกินหน่อยนะคะ ดีมาก สดชื่นไปถึงขั้วหัวใจเลย

   159378549567        

       พระประธานในโบสถ์วัดพัฒนาราม

ตอนเย็นถึงเวลาล่องเรือตามที่ได้นัดไว้  เรือพาเราลัดเลาะเข้าไปตามลำคลองเล็ก ๆ ไปยังชุมชนบางใบไม้ ต้นจากเยอะมากตลอดทาง จะบอกว่าเห็นนกแปลก ๆ เยอะเลย ไฮไลท์ของการล่องเรือเห็นจะเป็นซุ้มต้นจาก ที่โน้มตัวลงมายังคุ้งน้ำ สวยงาม ตลอดทางดิฉันลองใช้ Google Map ตามทางที่เรามา เห็นว่าเรานั่งเรือเข้าคลองจิ๋ว ๆ ลัดเลาะชุมชนมากมายนะคะ ใช้เวลาล่องเรือประมาณชั่วโมงเศษ ๆ หากได้มาย่านนี้วันอาทิตย์ก็จะมีตลาดน้ำประชารัฐบางใบไม้ด้วย มีศูนย์เรียนรู้การทำน้ำมันมะพร้าว แต่วันที่เราไปนี่คือชมวิวอย่างเดียว ไปเย็น ๆ แสงสวยมาก อย่าพลาดนะคะ

  159378568638         

       ล่องเรือชมวิถีชุมชน

159378574280

      ซุ้มต้นจาก

พี่คนที่เราเช่าเรือไม่ได้พยายามจะขายของ ไม่พยายามจะโก่งราคาอะไร นั่งไปสองคนคิดเพียง 300 บาท ตอนนี้ทุกคนลำบากนะคะ บ้านเราสองคนไม่มีภาระอะไร ไม่ได้ใช้จ่ายเกินตัว แถมยังกินอยู่ง่าย ๆ เห็นธุรกิจครัวเรือนแบบนี้ เราต้องช่วยสนับสนุนค่ะ อยากจะบอกคนไทยด้วยกันว่าเราสามารถที่จะทิปคนทำธุรกิจที่เราพอใจได้ตามสะดวก ทำแล้วใจจะฟู ๆ เพราะเห็นหน้าเขาที่ไม่ได้หวังอะไร แต่ดีใจได้ทิปมาเพราะเราประทับใจการทำงานของเขา พี่เขาก็น่ารักอีก เกรงใจเราอีก เสนอตัวพาไปเที่ยวต่อ เพราะเห็นว่าสามีดิฉันถ่ายวีดีโอไม่หยุด

 ไปเก็บภาพอีกไหม ไม่คิดเงิน

ขอบพระคุณค่ะพี่ เที่ยวเมืองไทยบ้านเราเอง มุมน่ารัก ๆ แบบนี้มีเยอะค่ะ

159378581315

        ผัดฉ่าปลากะพง ร้านลักกี้

  159378587570

       หลนไตปลา, แกงเลียง ร้านลักกี้

มื้อเย็นเราจบที่ ร้านลักกี้ อาหารใต้ ไม่ไกลจากโรงแรมอีก จะบอกว่าคนเยอะมากทั้งๆ ที่ยังไม่เย็นอะไร อาหารอร่อยดีใช้ได้ ที่แปลกและชอบคือ หลนไตปลา ส่วน ผัดฉ่าปลากะพง นั้นก็รสชาติดีมาก แต่เนื้อปลาเป็นแบบทอดแล้วพบว่าแข็งกระด้างไปนิดค่ะ อีกจานที่ดีคือ แกงเลียง แต่ใครจะนึกว่าแกงเลียงร้านบ้านของใต้นี่จะเจอแบบใส่แครอทแทนฟักทอง ฟักทองในครัวอาจจะหมดนะคะ แล้วเราก็เป็นเพียงนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง จะไปบ่นอะไรมากทำไม เก็บไว้แต่ความทรงจำที่ดีละกันค่ะ

  159378644544         

      หมึกไข้นึ่งมะนาว ครัวลำพู

สามารถติดตามเรื่องราวอื่นๆ ได้ทางบล็อก www.ohhappybear.com