'เข้ม' รับมือต่างชาติ เข้ารักษาตัวในไทย

'เข้ม' รับมือต่างชาติ เข้ารักษาตัวในไทย

หลังสถานการณ์โควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้น ล่าสุดไทยออกมาตรการรองรับต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามารักษาตัวในไทย ซึ่งขณะนี้มีคนลงทะเบียนเข้ามาแล้วกว่า 17 ประเทศ แต่ที่น่ากังวล คือ มาตรการรัฐที่จะคัดกรองชาวต่างชาติ หากหละหลวม อาจทำให้เกิดการระบาดระลอก 2 ขึ้นได้

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในปลายทางด้านการรักษาพยาบาลของต่างชาติ ก่อนหน้าที่จะเกิดวิกฤติโควิดแพร่ระบาด ไทยเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หรือ Medical Tourism ต่างชาติหลากหลายประเทศเดินทางเข้ามารักษาพยาบาลในไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเรามีโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่ได้รับมาตรฐานสากลหลายแห่ง ซึ่งถือว่าสูงในลำดับต้นๆ ของภูมิภาค

ขณะที่ไทยมีสินค้าและบริการด้านส่งเสริมสุขภาพมากมาย นวดแผนไทย สปา เฟื่องฟูมากในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ สินค้าสมุนไพรแปรรูปต่างๆ ได้รับความนิยมอย่างสูง ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพสนใจเดินทางเข้ามาใช้บริการ สร้างรายได้มหาศาลเข้าประเทศ

ทันทีที่โควิด-19 แพร่ระบาดไปทั้งโลกอย่างรวดเร็ว กิจกรรมทางเศรษฐกิจปิดเกือบ 100% ประเทศถูกล็อกดาวน์ เดินทางไม่ได้ตามใจปรารถนา น่านฟ้าปิด ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ลามไปทั่วโลก เศรษฐกิจทรุดหนัก ธุรกิจแห่ปิดกิจการ คนตกงานเพิ่มอย่างรวดเร็ว จนถึงวันนี้สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคยังดำเนินต่อไป โดยเฉพาะในต่างประเทศ ที่ยังมีตัวเลขการติดเชื้อเพิ่มขึ้น ขณะที่ใน "ไทย" การแพร่เชื้อภายในประเทศมีแนวโน้มที่ดีมาก ทำให้การควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิดของเราโดดเด่น ได้รับคำชม ต่างชาติที่เคยติดอกติดใจการรักษาพยาบาล บริการด้านสุขภาพในไทย จึงต้องการเดินทางเข้ามารักษาตัวในช่วงที่สถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย และน่านฟ้าเริ่มเปิด

วานนี้ (3 ก.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้เผยถึงมาตรการรองรับต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามารักษาตัวในไทย หรือกลุ่ม Medical and Wellness Program เช่น ต่างชาติที่ไม่ใช่ผู้ป่วยโควิด-19 ต้องการเข้ามารับการรักษา หรือเข้ามาเสริมความงาม จะต้องมีใบนัดแพทย์ ใบขออนุญาตเข้ามาจากสถานทูต ผ่านการตรวจว่าปลอดเชื้อโควิดก่อนเดินทางเข้ามา เมื่อเดินทางมาถึงต้องรับการตรวจเพิ่ม ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลคู่สัญญาอาจเป็นของรัฐหรือเอกชนก็ได้ โดยไม่ว่าจะรักษาและพักฟื้นภายในเวลากี่วัน จะต้องถูกกักตัวในโรงพยาบาล หรือ Hospital Quarantine ครบ 14 วัน ถึงตรวจเชื้ออีกครั้งและให้เดินทางกลับประเทศ

กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รายงานว่า มีคนลงทะเบียนที่จะเดินทางเข้ามารับการรักษาแล้วถึง 17 ประเทศ โดยใน ก.ค.มีลงทะเบียนแล้วกว่า 1,700 คน จากหลายประเทศ เช่น เมียนมา กัมพูชา เวียดนาม จีน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย โอมาน คูเวต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเมื่อดูจากประเทศที่แสดงความประสงค์เข้ามาขอรับการรักษาพยาบาลในไทย ล้วนแล้วแต่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ก่อนหน้าจะเกิดโควิด เป็นนักท่องเที่ยวในกลุ่ม Medical Tourism กระเป๋าหนักทั้งสิ้น

สิ่งที่ดีสำหรับเรื่องนี้ คือ แผนของรัฐ โดย ศบค. ที่ระบุว่า มีความเป็นไปได้ ที่หากรักษาเสร็จ กักตัวครบ 14 วัน อาจให้ต่างชาติกลุ่มนี้เดินทางหรือท่องเที่ยวภายในประเทศไทยต่อได้ด้วย แต่สิ่งที่ยังน่ากังวล คือ มาตรการของรัฐที่จะคัดกรองชาวต่างชาติเหล่านี้ หากหละหลวม หรือไม่เตรียมการให้รอบคอบ อาจเป็นสาเหตุของการแพร่ระบาดรอบ 2 ก็ได้ ดังนั้นมาตรการทุกอย่างในเรื่องนี้ ต้องมีความพร้อม รัดกุม และมองให้ทะลุทุกมิติ