สถาบันซื้อเฉียด 7 พันล้าน หนุนหุ้นไทย ‘พุ่ง’ 24 จุด

สถาบันซื้อเฉียด 7 พันล้าน หนุนหุ้นไทย ‘พุ่ง’ 24 จุด

สถาบันซื้อหุ้นไทยเฉียด 7 พันล้าน หนุนดัชนีพุ่ง 24 จุด ด้านสมาคมนักวิเคราะห์ เผยผลสำรวจนักวิเคราะห์ คาดดัชนีหุ้นไทยสิ้นไตรมาส 3 ปี 63 เฉลี่ยที่ 1,347 จุด ชี้การแพร่ระบาดโควิด-19 เป็นปัจจัยหลักกดดันการลงทุน ส่วนดัชนีสิ้นปีนี้คาดเฉลี่ยที่ 1,383 จุด

นักลงทุนสถาบันทุ่มซื้อหุ้นไทยเฉียด 7 พันล้าน ดันดัชนีพุ่ง 24 จุด โบรกเกอร์ ประเมินแรงซื้อเก็งกำไรข่าววัคซีน ทั้งรัฐบาลเล็งต่ออายุมาตรการพักชำระหนี้ ด้านสมาคมนักวิเคราะห์ เผยผลสำรวจ 

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (2 มิ.ย. )ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงในช่วงบ่าย ทำจุดสูงสุดที่ 1,376.31 เพิ่มขึ้น 26.87 ก่อนย่อตัวกลับมาปิดที่ 1,374.13 เพิ่มขึ้น 24.69 หรือ 1.83% มูลค่าซื้อขาย 84,485.85 ล้านบาท จากปัจจัยบวกทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ด้านนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 6,817.72 ล้านบาท บัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 1,201.38 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 613.50 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศขายสุทธิ 7,405.60 ล้านบาท

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส  เปิดเผยว่า  ดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายปรับตัวขึ้นแรง เนื่องจาก มีข่าวว่านายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มีแนวคิดขยายระยะเวลาหยุดพักชำระหนี้ และช่วยผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) ให้เข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) ได้ง่ายขึ้น ประกอบกับได้ปัจจัยบวกจากดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 270 จุด 

นอกจากนี้ได้ปัจจัยหนุนจากหุ้นใหม่ (IPO) คือ  บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย)(STGT) ที่เข้ามาจดทะเบียนซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จึงทำให้นักลงทุนเข้ามาซื้อขายหุ้นมากขึ้น ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมากกว่าที่บริษัทประเมินไว้  คาดดัชนีหุ้นไทยวันนี้ (3 ก.ค.) จะผันผวน โดยมองแนวรับที่ระดับ 1,350 จุด แนวต้านที่ระดับ 1,380 จุด 

นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) เปิดเผยว่า จากการสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุน (IAA Survey) ต่อมุมมองในด้านการลงทุนและคาดการณ์ทิศทางดัชนีราคาหุ้นไทย (SET Index) ในครึ่งหลังของปี 2563  โดยนักวิเคราะห์ คาดดัชนี ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2563 เฉลี่ยอยู่ที่ 1,347 จุด ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อการขับเคลื่อนตลาดในไตรมาส 3 นั้นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 และความเสี่ยงของการเกิดระบาดรอบ 2 (Second Wave) เป็นปัจจัยลำดับแรกที่มีอิทธิพลต่อทิศทางราคาหุ้นไทยระยะสั้น รองลงมาคือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐและผลประกอบการ ตามลำดับ

ทั้งนี้นักวิเคราะห์ประเมินว่าปัจจัยบวกที่มีผลต่อ SET Index ในครึ่งหลังได้แก่ มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของประเทศสำคัญทั่วโลก รองลงทิศทางดอกเบี้ยของ FED  ส่วนปัจจัยลบได้แก่ การชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศต่างๆ รองลงมา ผลประกอบการของบจ. และการแพร่ระบาดของโควิด-19ฯลฯ

 สำหรับเป้าหมายดัชนีสิ้นปี 2563 มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1,383 จุด ซึ่งมากกว่าผลสำรวจของไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 1,276 จุด พร้อมคาดอัตรากำไรต่อหุ้น (EPS) เฉลี่ยอยู่ที่ 65.44 บาท ลดลงจากการสำรวจครั้งก่อนที่ 79.70 บาท