ไทยแห่ใช้สิทธิจีเอสพีสหรัฐ สวนทางลงเอฟทีเอลด13%

 ไทยแห่ใช้สิทธิจีเอสพีสหรัฐ สวนทางลงเอฟทีเอลด13%

ไทยแห่ใช้สิทธิจีเอสพีสหรัฐ พบ 4 เดือนเพิ่ม 3.3% ส่วนใหญ่ส่งออกถุงมือยาง เครื่องปรับอากาศ อาหารปรุงแต่งฯ สวนทางใช้สิทธิเอฟทีเอพบลดลง13%เหตุโควิดทำการค้าโลกสะดุด

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (จีเอสพี) และการใช้สิทธิประโยชน์สำหรับการส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ช่วง 4 เดือนของปี 2563 (ม.ค.-เม.ย.) ว่า มีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ฯ รวมมูลค่า 21,340 ล้านดอลลาร์ ลดลง 12.08% มีสัดส่วนการใช้สิทธิประโยชน์ฯ 78.11% ของการใช้สิทธิทั้งหมด แบ่งเป็นการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ GSP มูลค่า 1,793 ล้านดอลลาร์ และการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้เอฟทีเอมูลค่า 19,546.52 ล้านดอลลาร์

159369081090

สำหรับการใช้สิทธิฯ ภายใต้จีเอสพีซึ่งไทยได้รับสิทธิฯ จำนวน 4 ระบบ คือ สหรัฐ สวิตเซอร์แลนด์ รัสเซียและเครือรัฐเอกราช และนอร์เวย์ มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ รวม 1,793 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3.87% และมีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 85.25% โดยตลาดส่งออกที่ไทยมีมูลค่าการใช้สิทธิฯ มากที่สุด คือ สหรัฐ มูลค่า 1,644 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 3.34% และมีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 89.63% 

ทั้งนี้ สินค้าที่อยู่ในรายการได้รับสิทธิมีมูลค่าส่งออก 1,835 ล้านดอลลาร์ แต่มีการใช้สิทธิจีเอสพีเพื่อส่งออกมูลค่า 1,644 ล้านดอลลาร์ โดยสินค้าส่งออกส่วนใหญ่ได้แก่ ส่วนประกอบเครื่องปรับอากาศ ถุงมือยาง อาหารปรุงแต่งฯ หม้อแปลงไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ เป็นต้น 

“สินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ สูง และมีการขยายตัวของการใช้สิทธิฯ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าเครื่องดื่ม และอาหาร/เกษตรแปรรูป ซึ่งยังคงเป็นที่ต้องการของหลายประเทศในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 อาทิ อาหารปรุงแต่งอื่นๆ น้ำผลไม้และน้ำพืชผักที่ไม่ได้หมักและเติมสุรา  สับปะรดกระป๋อง พืชและผลไม้ปรุงแต่ง”

159369083453

ส่วนการใช้สิทธิฯ ภายใต้ความตกลงเอฟทีเอจำนวน 11 ฉบับ (ไม่รวมอาเซียน-ฮ่องกง เนื่องจากภาษีนำเข้าสินค้าส่วนใหญ่เป็น 0% อยู่แล้วก่อนที่จะมีความตกลงฯ และไทย-นิวซีแลนด์ ที่ใช้ระบบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองของผู้ส่งออก) ยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิดโดยมีมูลค่า 19,546 ล้านดอลลาร์ ลดลง 13.30% และมีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 77.51%