'ท่องเที่ยว' จ่อถกสาธารณสุข เคาะ 'ทราเวลบับเบิล' ดีเดย์ ส.ค.นี้

'ท่องเที่ยว' จ่อถกสาธารณสุข เคาะ 'ทราเวลบับเบิล' ดีเดย์ ส.ค.นี้

“พิพัฒน์” ถกเอกชนท่องเที่ยวลุย “ทราเวลบับเบิล” เริ่มเดือน ส.ค.นี้ จ่อคุย สธ.เคาะประเทศนำร่อง เลือกจับคู่ประเทศปลอดโควิดอย่างน้อย 30 วัน ชู 7 พื้นที่ท่องเที่ยวเป้าหมายกลุ่มแรกในไทย ทั้งเชียงใหม่-สมุย-กระบี่-ภูเก็ต-พัทยา-เชียงราย-หาดใหญ่

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า วานนี้ (1 ก.ค.) ได้ประชุมร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และตัวแทนจากภาคเอกชนท่องเที่ยว เช่น สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เกี่ยวกับมาตรการทราเวลบับเบิล รองรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวงจำกัด

เบื้องต้นคาดว่าจะเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยผ่านบริษัทนำเที่ยวเป็นแบบกรุ๊ปทัวร์ขนาดเล็กก่อนในเดือน ส.ค.นี้ โดยต้องเดินทางในเส้นทางท่องเที่ยวที่กำหนดเท่านั้น จะออกนอกเส้นทางไม่ได้ และในวันนี้ (2 ก.ค.) กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะหารือกับกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้งเพื่อเร่งหาข้อสรุป โดยเฉพาะการเคาะรายชื่อประเทศกลุ่มแรกที่สามารถเดินทางเข้ามาได้ ก่อนเสนอให้ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบในอีก 2 สัปดาห์นับจากนี้

สำหรับประเทศที่จะทำทราเวลบับเบิลกับไทยจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งกำหนดให้กลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ ต้องปลอดเชื้ออย่างน้อย 30 วัน เช่นเดียวกับการปลอดเชื้อในประเทศไทยซึ่งปัจจุบันไม่มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศติดต่อกัน 37 วัน

โดยจะเปิดให้เข้ามา 3 ระยะ คือระยะแรก ระยะทดลองรับนักท่องเที่ยวจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น บางเมืองและบางมณฑลของประเทศจีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน โดยต้องพิจารณาข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขประกอบด้วย พร้อมกำหนดพื้นที่ท่องเที่ยวเป้าหมายนำร่อง 5 พื้นที่ ได้แก่ เชียงใหม่ เกาะสมุย กระบี่ ภูเก็ต และพัทยา และอาจเพิ่มอีก 2 พื้นที่คือเชียงรายและหาดใหญ่

“นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าไทยต้องตรวจโควิด-19 ที่ประเทศต้นทางก่อน พร้อมนำใบรับรองแพทย์มาด้วย และมาตรวจซ้ำในไทยอีกครั้ง ทั้งนี้ต้องทำประกันที่ครอบคลุมการตรวจรักษาโรคโควิด-19 และใช้แอปพลิเคชันติดตามตัว หากพบการติดเชื้อระหว่างเดินทาง ต้องยอมรับการกักตัวและรักษา”

จากนั้นจะประเมินสถานการณ์ หากทุกอย่างราบรื่น ไม่พบการติดเชื้อในประเทศ ถึงจะเปิดระยะที่ 2 ระยะขยายผล เพิ่มโควตาจำนวนคนเดินทางเข้ามา เพิ่มประเทศที่ไทยจะทำทราเวลบับเบิลด้วยมากขึ้น และเพิ่มพื้นที่ท่องเที่ยวเป้าหมายในไทย หากควบคุมได้ดีต่อเนื่อง จะเปิดระยะที่ 3 ระยะปกติ โดยจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (เอฟไอที) สามารถเดินทางเข้ามาได้

“ต้องมีการประเมินผลทุกระยะ เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นสาเหตุของการระบาดรอบ 2 ในไทย”

นายพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้การเปิดแต่ละพื้นที่ท่องเที่ยวจะดูจากความพร้อมด้านสาธารณสุข เช่น จ.ภูเก็ต แจ้งว่าพร้อมตรวจหาเชื้อโควิดได้วันละ 1,000 คน โดยช่วงแรกคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาไทยไม่ต่ำกว่า 5,000 คนต่อวัน เทียบจากช่วงปกติที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 30,000 คนต่อวัน และถ้ามีการขยายพื้นที่รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้มากขึ้น คาดว่าตั้งแต่เดือน ส.ค.-ธ.ค.นี้ คาดได้นักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 1.3 ล้านคน และเมื่อรวมกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมล่าสุด 5 เดือนแรกที่ 6.7 ล้านคน น่าจะได้นักท่องเที่ยวต่างชาติ 8 ล้านคนในปีนี้

“ผมจึงบอกกับ ททท.ว่าถ้าปีนี้ได้นักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 ล้านคนก็ถือว่าดีแล้ว ส่วนรายได้ท่องเที่ยวรวมทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศยังคงเป้าที่ 1.23 ล้านล้านบาท โดยจะมุ่งเพิ่มนักท่องเที่ยวไทยจากเป้าเดิม 100 ล้านคน-ครั้ง ขยับเป็น 120 ล้านคน-ครั้ง เพื่อผลักดันรายได้รวมของภาคท่องเที่ยวไทยให้ถึงเป้าดังกล่าว ทั้งนี้จากแพ็คเกจมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศที่ ครม.เพิ่งเห็นชอบ ทั้งโครงการเราเที่ยวด้วยกันและกำลังใจ จะมีส่วนช่วยให้จำนวนนักท่องเที่ยวไทยเป็นไปตามเป้า”

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ททท.ได้หารือกับกระทรวงการคลังเพื่อเตรียมความพร้อมการเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมรับสิทธิ์ลดค่าใช้จ่ายในโครงการเราเที่ยวด้วยกันในวันที่ 15 ก.ค.นี้ โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งแต่เวลา 06.00 น. คาดว่าจะมีผู้สนใจเข้ามาลงทะเบียนขอรับสิทธิ์เต็มในวันนั้น ทั้งที่พักจำนวน 5 ล้าน (คืน) ค่าใช้จ่ายร้านอาหารและแหล่งท่องเที่ยว 5 ล้าน (สิทธิ์) และค่าตั๋วเครื่องบิน 2 ล้านใบ

“เชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ส่วนรายละเอียดของการลงทะเบียนนั้นในวันที่ 3 ก.ค.นี้ ททท.จะจัดแถลงรายละเอียดอย่างเป็นทางการ”