'พีระพันธุ์' ปลุกความเชื่อมั่นการบินไทย ยืนยันลดพนักงานแค่ 5%

'พีระพันธุ์' ปลุกความเชื่อมั่นการบินไทย ยืนยันลดพนักงานแค่ 5%

“พีระพันธุ์” ปลุกความเชื่อมั่นพนักงาน แจงแผนปรับโครงสร้าง ยืนยันลดพนักงานแค่ 5% จากแผนเดิม 30% พร้อมลดเงินเดือนเฉพาะผู้สมัครใจ เผยหลัง 17 ส.ค.นี้ เดินหน้าในฐานะผู้บริหารแผน รื้อเครือข่ายฝ่ายบริหารทุจริต

นายนเรศ ผึ้งแย้ม อดีตประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย เปิดเผยกับ "หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ" ว่า เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้นำตัวแทนพนักงานการบินไทย และสหภาพแรงงานการบินไทย เข้าหารือร่วมกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค กรรมการการบินไทย และในฐานะคณะผู้ทำแผนฟื้นฟูการบินไทย โดยภายหลังการหารือดังกล่าว สร้างความพึงพอใจและความเชื่อมั่นให้พนักงานเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้นายพีระพันธุ์ ได้ยืนยันกับพนักงานประเด็นของการปรับโครงสร้างองค์กร ที่ก่อนหน้านี้มีเป้าหมายลดพนักงาน 30% โดยยืนยันไม่ลดในสัดส่วนสูงเช่นนั้น และจะดำเนินการปรับลดให้เหลือเพียง 5% จากพนักงานประมาณ 2 หมื่นคน เนื่องจากมีเป้าหมายที่จะปรับแผนโดยโอนย้ายพนักงานที่เกินความจำเป็นในบางฝ่าย ไปทำให้ในฝ่ายที่มีความต้องการสูง และเป็นหน่วยธุรกิจที่สามารถหารายได้ให้องค์กรเป็นอย่างดี เช่น ครัวการบิน ฝ่ายช่าง และศูนย์ซ่อมอากาศยาน

“พนักงานได้ฟังแนวทางของท่านพีระพันธุ์ ก็ปรบมือและพึงพอใจอย่างมาก เพราะท่านชี้แจงชัดเจนว่าไม่มีแผนจะเอาพนักงานออกขนาด 30% แต่จะใช้วิธีโยกพนักงาน ซึ่งหากจะต้องออกก็อาจจะออกเพียง 5% แต่นายกรัฐมนตรี ก็เห็นแผนเหล่านี้ และได้มอบนโยบายว่า ไม่ต้องการให้คนการบินไทยต้องออก พนักงาน 2 หมื่นคน อยากให้อยู่ทั้งหมด” นายนเรศ กล่าว

“พีระพันธุ์”พร้อมลุยสอบทุจริต

นอกจากนี้ นายพีระพันธุ์ ยังระบุด้วยว่า หากศาลล้มละลาย เห็นชอบคณะผู้จัดทำแผนฟื้นฟูในวันที่ 17 ส.ค.นี้ คณะผู้ทำแผนก็จะเป็นคณะผู้บริหารแผนต่อในทันที โดยในฐานะหนึ่งในผู้ทำแผน ขณะนี้ได้รวบรวมข้อมูลการทุจริตภายในองค์กร มีหลักฐานมากพอสมควรแล้ว ดังนั้นยืนยันว่าเมื่อได้เข้ามาบริหารแผน ปัญหาการทุจริตในองค์กรจะต้องได้รับการแก้ไข พร้อมทั้งยืนยันต่อพนักงานด้วยว่า ฝ่ายบริหารที่มีประวัติทุจริตในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ จะต้องได้รับโทษ และมีคนติดคุกแน่นอน

นายนเรศ กล่าวว่า การหารือระหว่างพนักงานและนายพีระพันธุ์ในครั้งนี้ ทำให้พนักงานที่เคยมีความกังวลต่อทิศทางการทำงานของตนเองในอนาคต เพราะเกรงว่าจะถูกไล่ออก หรือปรับลดเงินเดือน ก็หมดข้อกังวล เพราะได้รับการยืนยันว่าผู้ทำแผน ซึ่งจะเข้ามาเป็นผู้บริหารแผนในอนาคต มีเป้าหมายการทำงานที่ชัดเจน จะแก้ไขปัญหาทุจริต ไม่ไล่พนักงานออกโดยไม่มีเหตุผล และมีแผนปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อหารายได้อย่างเหมาะสม

ส่วนประเด็นของการปรับลดเงินเดือนพนักงานนั้น ยังได้รับการยืนยันตามเดิมว่า คณะกรรมการมีนโยบายปรับลดเงินเดือนเฉพาะผู้ที่สมัครใจเท่านั้น ส่วนตำแหน่งฝ่ายบริหาร เช่น รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ หรือ EVP ที่มีความซ้ำซ้อน นั่งหลายตำแหน่ง ทำให้ได้รับเงินค่าตอบแทนสูง และพนักงานร้องเรียนมาโดยตลอด จะได้รับการแก้ไขหลังจากนี้

นายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล รองประธานกรรมการคนที่ 2 ในฐานะรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่การบินไทย ได้ออกคำสั่งเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2563 เรื่องข้อปฏิบัติสำหรับพนักงานตั้งแต่เดือน ก.ค.2563 เป็นต้นไป โดยระบุว่ามาตรการในการควบคุมโควิด-19 จากทางภาครัฐได้มีการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ การบินไทยจึงขอให้พนักงานถือปฏิบัติดังนี้

1.การบินไทยจะเปิดทำการปกติ โดยพนักงานที่ปฏิบัติงานในประเทศไทยให้มาทำงานตามตารางการทำงานตามปกติ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2563 เป็นต้นไป ส่วนพนักงานที่ปฏิบัติงานในสำนักงานต่างประเทศให้พิจารณาตามความเหมาะสม อยู่ในดุลยพินิจของผู้บังคับบัญชา และกฎหมายท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง

2.พนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ในอากาศยานเป็นภารกิจหลัก (นักบินและลูกเรือ) หรือพนักงานที่ปฏิบัติงานสนับสนุนการบินที่ยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เนื่องจากการบินไทยหยุดปฏิบัติการบินเป็นส่วนใหญ่ ให้ผู้บังคับบัญชาบริหารจัดการและกำกับดูแลให้พนักงานใช้วันหยุดพักผ่อนประจำปี เพื่อให้สอดคล้องตามระเบียบการบินไทยว่าด้วยการบริหารงานบุคคล

3.กรณีที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปปฏิบัติงานนอกสถานที่ ให้พนักงานเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้ตามจริง ตามระเบียบการบินไทยที่กำหนดไว้

4.สำหรับบัตรโดยสารพนักงานยังคงระงับการใช้บัตรโดยสารพนักงาน ทุกประเภทในทุกเส้นทางบินระหว่างประเทศของการบินไทย และเส้นทางบินของสายการบินคู่สัญญา ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ยกเว้นบัตรโดยสารประเภท SI และ SII ที่ได้รับอนุมัติจากกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) รวมถึงบัตรโดยสารพนักงานที่เดินทางก่อนประกาศฉบับนี้บังคับใช้