โมเมนตัมช่วงสั้นเป็นบวก แต่ควรระวังแรงขายทำกำไรในโซน 1350-1364 จุด

โมเมนตัมช่วงสั้นเป็นบวก แต่ควรระวังแรงขายทำกำไรในโซน 1350-1364 จุด

ไตรมาส 2/63 เป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของหุ้นในรอบ 22-33 ปี

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดไตรมาส 2/63 ด้วยผลตอบแทน DJIA (17.78%), S&P500 (19.95%) และ Nasdaq (30.63%) ส่งผลให้ผลตอบแทนการลงทุนของ S&P500 ดีสุดในรอบ 22 ปี ขณะที่ DJIA ดีสุดในรอบ 33 ปี โดยตลาดยังคงมองไปที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ผ่านจุดต่ำสุดจากการปิดเมืองจากสถานการณ์โควิด และทิศทางของธนาคารกลางรวมถึงภาครัฐของประเทศต่างๆที่ส่งสัญญาณชัดเจนในการพยุงเศรษฐกิจ

จับตาอัตราการเสียชีวิตในสหรัฐฯ จะเป็นปัจจัยที่บอกว่าการระบาดระลอกสองน่ากังวลหรือไม่ แม้จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันในการระบาดระลอกสองของสหรัฐฯ จะทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 4.5 หมื่นราย เทียบกับ 3.9 หมื่นรายในช่วงเม.ย. แต่การที่นักลงทุนยังไม่กังวลมากนักมาจากอัตราการเสียชีวิตรายวันที่ทยอยลดลงต่อเนื่อง จนต่ำกว่า 1 พันราย (จาก 2.5 พันรายในช่วงเม.ย.) อย่างไรก็ตามตลาดอาจกลับมาผันผวนหากการเสียชีวิตกลับมาเร่งตัวจนเกินกว่าระดับ 1 พันรายอีกครั้ง

ตลาดช่วงสั้นได้อานิสงค์จากการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด จีนรายงานตัวเลขผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตมิ.ย.ที่ 51.2 (ดีกว่าคาดที่ 50.5) เพิ่มขึ้นจากพ.ค.ที่ 50.7 ขณะที่การรายงาน PMI ของหลายประเทศในแถบเอเชียและอาเศียนที่อยู่ในทิศทางฟื้นตัว เป็นปัจจัยหนุนตลาดระยะสั้น และการเก็งกำไรรายตัว อย่างไรก็ตามยังคงต้องระวังความผันผวนจากการระบาดระลอกสองและการฟื้นตัวที่ช้ากว่าคาดของเศรษฐกิจ

Theme การลงทุนและกลุ่มที่น่าใจ คาดตลาดช่วงสั้นจะเพิ่มความระมัดระวังและเลือกหุ้นปลอดภัย (defensive) มากขึ้น ระหว่างรอประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการระบาด 1) ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 ออกมาดี ได้แก่ ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์ ได้แก่ SCC, IVL, AJ, PTL, TIP, THRE, STA 2) กลุ่มปลอดภัยหรือรายได้มั่นคง (defensive) ได้แก่ ADVANC, INTUCH, RATCH, SSP, SUPER 3) กลุ่มที่เห็นการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง EASTW, WHAUP, CPF, TU 4) กลุ่มสถาบันการเงินอยู่ใน valuation ต่ำและสะท้อนปัจจัยความกังวลไปพอสมควร BBL, KBANK 5) กลุ่มเดินเรือ PSL 6) อสังหาฯ ชอบ SPALI, SC, AP

ภาพรวมกลยุทธ์ แกว่งตัวโดยมีโมเมนตัมเก็งกำไรเป็นบวก คงมุมมอง ก.ค. จะเป็นช่วงที่ผันผวนจากการระบาดระลองสอง เก็งกำไรควรกำหนดจุดตัดขาดทุนเพื่อบริหารความเสี่ยงทุกครั้ง  // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร STA*, AJ*, WHAUP* / ขายชอร์ต AOT (เป้า 56 ตัดขาดทุน 62)

แนวรับ 1,320 จุด / แนวต้าน : 1,348-1,364 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

EU อนุมัติ 15 ประเทศที่สามารถเดินทางเข้าได้ ประเทศที่อนุมัติได้แก่ ไทย จีน แอลจีเรีย ออสเตรเลีย แคนาดา จอร์เจีย ญี่ปุ่น มอนเตเนโกร โมรอกโก นิวซีแลนด์ รวันดา เซอร์เบีย เกาหลีใต้ ตูนิเซีย และอุรุกวัย โดยนักท่องเที่ยวจากประเทศเหล่านี้จะสามารถเดินทางเข้าสู่ EU ในวันที่ 1 ก.ค.นี้

ยกเว้นค่าธรรมเนียมกลุ่มธุรกิจโรงแรม ราชกิจจาฯประกาศยกเว้นค่าธรรมเนียมกรประกอบธุรกิจโรงแรมซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการเยียวยากลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2563 ถึง 30 มิ.ย. 2565

จีนลดดอกเบี้ย – ธนาคารกลางจีน (PBOC) ปรับลดดอกเบี้ย refinancing โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เพื่อลดต้นทุนสำหรับบริษัทขนาดเล็กและอุตสาหกรรมในชนบท

HYDRO – PACE ซื้อขายสุดท้าย 3 ก.ค. – ตลท.แจ้งเตือนเปิดซื้อขายชั่วคราวสองหลักทรัพย์ถึง 3 ก.ค. หลังจากนั้นจะขึ้นเครื่องหมายห้ามซื้อขาย (SP) ตั้งแต่ 7 ก.ค. จนกว่าบริษัทจะดำเนินการส่งงบการเงินครบถ้วน

SSIเปิดซื้อขายชั่วคราว 1-10 ก.ค. ก่อนถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน โดยต้องใช้บัญี Cash balance เท่านั้น

ประเด็นติดตาม: 30 มิ.ย.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย, US Consumer Confidence เดือน มิ.ย. / 1 ก.ค. – US Manufacturing PMI เดือน มิ.ย. / 2 ก.ค. – FOMC Meeting Minutes

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)