มีโอกาสขึ้นต่อ

มีโอกาสขึ้นต่อ

ดัชนีวานนี้ปิดบวก 9.27 จุด โดยได้ปัจจัยบวกจากการเผยตัวเลขเศรษฐกิจในสหรัฐที่เริ่มฟื้นตัว ประกอบกับภายในประเทศเตรียมคลายล็อกเฟส 5

อย่างไรก็ดี ดัชนีลดช่วงบวกจากระหว่างวันที่ขึ้นไปบวกสูงสุดกว่า 20 จุด ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส และโซนยุโรป โดยดัชนี SET Index ปิดที่ 1,339.03 จุด (+9.27 จุด) Volume 5.9 หมื่นลบ. ต่างชาติ -1,173.69 ลบ. TFEX Net -1,655 สัญญา ตราสารหนี้ +389 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 217.08 จุด +0.85% หลังสหรัฐเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคพุ่งเกินคาดในเดือนมิ.ย. ประกอบกับนายพาวเวล ประธานเฟดและนาย มนูชิน รมว.คลังสหรัฐให้คำมั่นร่วมมือกันพยุงเศรษฐกิจให้ผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19

+ ที่ประชุมครม.รับทราบมาตรการช่วยเศรษฐกิจ "พลังงานสร้างไทย" บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 43 เซนต์ -1.1% ปิดที่ 39.27 ดอลลาร์/บาร์เรลกังวลการแพร่ระบาดของโควิด-19  และแนวโน้มการกลับมาผลิตน้ำมันของลิเบีย

-แถลงการณ์ของนายพาวเวลระบุว่าศก.สหรัฐยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนท่ามกลางความพยายามในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

-PMI ชิคาโกซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดภาคการผลิตในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐในเดือนมิ.ย. แม้ดีดตัวขึ้นสู่ 36.6 หลังจากดิ่งลงแตะ 32.3 ต่ำสุดในรอบ 38 ปีในเดือนพ.ค. แต่ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ระดับ 44.5

+ครม. เคาะเปลี่ยนชื่อเที่ยวปันสุข เป็น "เราเที่ยวด้วยกัน" ช่วยค่าตั๋วเครื่องบิน-ที่พัก-ค่าอาหาร วงเงิน 2.24 หมื่นล้านบาทเปิดลงทะเบียนใช้สิทธิ 15 ก.ค.

-ทั่วโลกติดเชื้อโควิด-19 ทะลุ 10,400,000 ราย ตายกว่า 508,000 ราย

-ธปท.คาดศก.ไทย Q2/63 หดตัวมากกว่า -10% แต่ไม่ถึง -20% ก่อนเริ่มฟื้นใน Q3/63 หลังปลดล็อกดาวน์

-เวิลด์แบงก์คาด GDP ไทยปี 63  -5% จากเดิม -3%คาดคนไทยตกงาน 8.3 ล้านคน

+ดัชนีนิกเกอิปิดพุ่งขึ้น 293.10 จุด +1.33% เช้าเปิด +50.16 จุดตามดาวโจนส์

+ ตลาดหุ้นจีน เช้าเปิด +6.51 จุด ขานรับ PMI จีนแข็งแกร่ง

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 2.17 แสนลบ. ค่าเงินบาท 30.89 บาท/US

*จับตาสภาฯพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ รายจ่ายประจำปี 2564 วาระ 1 วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท สหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมิ.ย. ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนมิ.ย. ดัชนีภาคการผลิตเดือนมิ.ย. การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนพ.ค.  สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ และ FOMC เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 9-10 มิ.ย.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ให้คำมั่นว่าจะร่วมมือกันพยุงเศรษฐกิจให้ผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ขณะที่ปัจจัยในประเทศได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว เราเที่ยวด้วยกัน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,320-1,350 จุด

หุ้นรายงานพิเศษ

ผลการประชุมคณะรัฐมน ตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2563 ที่ประชุมเห็นชอบมาตรการกระตุ้น การท่องเที่ยวภายในประเทศ งบ ประมาณ 22,400 ล้านบาท เพื่อดำเนินการมาตรการท่องเที่ยว 2 โครงการ ดังนี้ 1.โครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" ด้วยการนำ 2 แพ็กเกจกระตุ้นการท่องเที่ยวเดิม คือ "เที่ยวปันสุข" กับ "เราไปเที่ยวกัน" มารวมเป็นแพ็กเกจเดียว โดยจะเปิดให้โรงแรมลงทะเบียนวันที่ 1 ก.ค.2563 ขณะที่ประชาชนทั่วไปจะเปิดให้ลงทะเบียน 15 ก.ค.2563

ทั้งนี้ โรงแรมที่เข้าร่วมโครง การจะต้องมีใบอนุญาตขึ้นทะเบียน จากกรมการท่องเที่ยว ส่วนประชา ชนจะต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com และแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" เมื่อได้รับสิทธิ์แล้วก็จะให้กระทรวงการคลังโอนจ่ายตรงกับโรงแรม 40% แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคืน รวมทั้ง จะสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ 40% โดยให้ออกค่าใช้จ่ายไปก่อน แล้วรัฐจะจ่ายคืนให้ไม่เกิน 1,000 บาทต่อที่นั่ง

ส่วนแพ็กเกจกำลังใจ เปิดให้เจ้าหน้าที่ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเจ้าหน้า ที่โรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จำนวน 1.2 ล้านคน ได้เที่ยวผ่านบริษัทท่องเที่ยวโดยไม่น้อยกว่า 2 วัน 1 คืน ทั้งนี้ เบื้องต้นแพคเกจกำลังใจ จะมอบสิทธิท่องเที่ยวฟรี 100% โดยต้องใช้บริการของบริษัทนำเที่ยวในระบบที่มีจำนวนกว่า 13,000 ราย ในราคานำเที่ยว 2 วัน 1 คืน ไม่เกิน 2,000 บาท รับสิทธิ 1 คน 1 สิทธิ (ที่มา: ไทยโพสต์)

 

แนะนำเก็งกำไรหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว ได้แก่  ERW CENTEL AOT AAV BA ASAP

 

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากแพ็กเกจ “เราเที่ยวด้วยกัน” (ERW CENTEL AOT AAV BA ASAP)
  • หุ้น Defensive Stock (ADVANC INTUCH DIF TTW BEM BTS CHG BCH)

หุ้นมีข่าว   

(+) ACG (Bloomberg Consensus - บาท)  ฤกษ์ดีวันนี้ ACG ย้ายเข้าเทรดใน SET เป็นวันแรก หลังเทรดใน mai ครบหนึ่งปี ภานุมาศคาดนักลงทุนสถาบันสนใจลงทุนมากขึ้น เล็งแบ่งขายหุ้น ตระกูลรังคกูลนุวัฒน์ที่ถืออยู่ทั้งหมด 74% ออกมา หวังเพิ่มฟรีโฟลต พร้อมส่งสัญญาณราคาหุ้นถูก-พี/อีต่ำ เมื่อเทียบกำไรโตโดดเด่น (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) “ACE-NER-UAC-TPCH” ลุ้นภาครัฐเปิดยื่นทีโออาร์ โรงไฟฟ้าชุมชน 700 เมกะวัตต์ภายในปีนี้ หลังเลื่อนจากแผนเดิมคาดประกาศวันที่ 1 ก.ค. 63 ขณะที่ล่าสุดวานนี้ ครม.ผ่านแผนวาระพลังงานสร้างชาติเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+/-) สำนักงานก.ล.ต. ส่งหนังสือถึงแบงก์ชาติให้ปรับเกณฑ์การลงทุนของกลุ่มบริษัทบริหารสินทรัพย์ หรือ AMC ลงทุนในตราสารหนี้ที่ต่ำกว่าระดับ Investment grade หรือ High Yield Bond ได้ พร้อมเสนอคลังขอยืดเวลาขายกองทุน SSFX หลังสิ้นสุดไปเมื่อวานนี้ (30 มิ.ย.) (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) MTC (Bloomberg Consensus 56.36 บาท)   มั่นใจไตรมาส 2 ผลการดำเนินงานยังเติบโตตามเป้า โบรกฯ คาดทั้งปีกำไร 4.55 พันล้าน รับผลกระทบจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รอบสองน้อย สินเชื่อยังเติบโตต่อเนื่อง หนี้เสียเพิ่มเล็กน้อย ลุยขยายสาขาปีนี้ 600 แห่งสวนจีดีพี ราคาเป้าหมาย 63 บาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) CWT (Bloomberg Consensus  - บาท) ผนึกพันธมิตร BANPU-กรมเจ้าท่า-สวทช. ผลิตเรือท่องเที่ยวไฟฟ้าลำแรกของไทย เตรียมส่งมอบปีนี้ 2 ลำ เชื่อหนุนการเติบโตในอนาคต ด้านธุรกิจเบาะหนังเตรียมกลับเข้าสู่ระบบปกติไตรมาส 3/2563 ส่วนธุรกิจพลังงาน อยู่ระหว่างขอ PPA โครงการบริหารจัดการและการกำจัดขยะมูลฝอยชุมชนลงทุนโดยเอกชน คาดชัดเจนภายในปีนี้ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) AOT (Bloomberg Consensus 59.34 บาท) กพท.เปิดน่านฟ้าเปิดรับนักธุรกิจ-นักลงทุนต่างชาติเข้าไทย ด้าน AOT ย้ำการ์ดไม่ตกมาตรการป้องกันเข้ม นักวิเคราะห์ฟันธงหนุน AOT ย้ำรายได้ทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง แย้มมีข่าวดีรอกรมธนารักษ์พิจารณาลดค่าเช่าที่ แนะ "ทยอยสะสม" เป้า 78 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TPAC (Bloomberg Consensus - บาท)  แย้มศึกษาแผนลงทุนซื้อกิจการต่างแดน ระบุเงินสดเต็มหน้าตัก แถม D/E ลดฮวบเหลือ 0.5 เท่า เชื่อมีศักยภาพหาเงินก้อนโตได้สบาย ส่วนทิศทางธุรกิจในไทยไปได้สวย กลุ่มอาหาร ยา ทะยาน ส่งซิกทิศทางรายได้ปีนี้โตก้าวกระโดด รับทรัพย์ลงทุนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอินเดียเต็มปี (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TTW (Bloomberg Consensus 14.45 บาท)  คาดการณ์ธุรกิจครึ่งหลังปี 2563 แววเด่น หลังรัฐปลดล็อกดาวน์ อุตสาหกรรมกลับมาดำเนินการได้ เอื้อความต้องการใช้น้ำขยับเพิ่ม เดินแผนสานต่อการพัฒนาปรับปรุงโครงการเดิมที่มี ด้านโบรกมองกำไรปีนี้โต 3.1 พันล้านบาท ชูหุ้นยิลด์ปันผลจูงใจ เป้า 16.30 บาท (ที่มา ทันหุ้น)