ประธานฯย้ำห้ามเสียดสี สภาเริ่มพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 64

ประธานฯย้ำห้ามเสียดสี สภาเริ่มพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 64

สภาผู้แทนราษฎร เริ่มพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ 64 นายกฯชี้แจงจัดทำงบสอดคล้องเงื่อนไขเศรษฐกิจภายในและภายนอกประเทศ รวมถึงผลกระทบจากโควิด-19 ขณะที่ "ชวน" กำชับให้ยึดข้อบังคับห้ามเสียดสี

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 วาระที่ 1 รับหลักการ โดยมีนายชวน หลีกภัย ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม

โดยนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ได้ชี้แจงกรอบเวลาในการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ว่า จะมีการประชุมทั้งหมด 3 วัน ซึ่งในวันนี้เป็นวันแรกที่มีการเปิดภาคการศึกษา ทำให้สมาชิกเดินทางมาช้าบ้าง แต่ก็จะขอให้ประธานดำเนินการประชุมไปจนถึง 00.30 น. จากนั้นให้พักการประชุม

ขณะที่เวลาในการอภิปราย ฝ่ายค้านได้เวลาไป 22 ชั่วโมง 30 นาที รัฐบาลรวมกับคณะรัฐมนตรี 22 ชั่วโมง โดยในส่วนของประธานมี 2 ชั่วโมง ดังนั้นรวม 3 วัน มีเวลาในการพิจารณา 46 ชั่วโมง 30 นาที

ส่วนหากมีการประทวงของฝ่ายใดก็หักเวลาของฝ่ายนั้น จึงขอความร่วมมือสมาชิกว่าการอภิรายหากไม่มีการเสียดสี ก็จะไม่มีการประท้วง เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาแทบจะไม่มีการประท้วง วันนี้จึงหวังว่าจะเป็นไปในลักษษระที่เคยผ่านมาก่อนหน้านี้

ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะวิปฝ่ายค้าน บอกว่า ข้อตกลงที่ได้หารือร่วมกันระหว่างฝ่ายค้านกับรัฐบาลเป็นไปตามที่ประธานวิปรัฐบาลได้ชี้แจง โดยจะมีการบริหารจัดการให้อยู่ในกรอบและทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด

จากนั้น นายชวน บอกว่า ตนจะไม่ไปควบคุมเวลา เพราะแต่ละฝ่ายได้มีการบริหารจัดการกันเองแล้ว แต่ทั้งนี้ทุกอย่างจะต้องอยู่ภายใต้ข้อบังคับของการประชุมสภาผู้แทนราาฎร โดยเฉพาะข้อ 69 เช่น ห้ามอภิปรายหรือแสดงกิริยาไม่สุภาพ ใส่ร้าย หรือเสียดสีบุคคลใด และห้ามกล่าวถึงพระมหากษัตริย์ หรือออกชื่อสมาชิกหรือบุคคลใดโดยไม่จำเป็น

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แถลงหลักการและเหตุผลของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ว่า หลักการตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 เป้นจำนวนไม่เกิน 3.3 ล้านล้านบาท สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายของหน่วยรับงบประมาณ เพื่อให้มีกรอบวงเงินสำหรับใช้จ่ายในปี 64 โดยร่าง พ.ร.บ.งบประมาณที่รัฐบาลนำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร เป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากปี 63

โดยใช้งบประมาณเป็นเครื่องมือสำคัญในการผลักดันนโยบาย และมาตรการต่างๆ เพื่อให้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ แผนการปฏิรูปประเทศ และนโยบายสำคัญของรัฐบาล สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างมีประสิทธิประสบผลสำเร็จเป็นรูปธรรม เกิดผลสำฤทธิ์และประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน โดยรัฐบาลได้ดำเนินการให้สอดคล้องกันทั้งเงื่อนไขทางเศรษฐกิจภายในประเทศ และผลกระทบจากภายนอก รวมทั้งผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 ที่รัฐบาลได้ประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ