‘ประยุทธ์’ ส่งสารยินดี ‘นายกรัฐมนตรีจีน’ โอกาสสัมพันธ์การทูตครบ 45 ปี

‘ประยุทธ์’ ส่งสารยินดี ‘นายกรัฐมนตรีจีน’ โอกาสสัมพันธ์การทูตครบ 45 ปี

“นายกฯประยุทธ์” ส่งสารแสดงความยินดี “นายกฯจีน” ตอกย้ำหุ้นส่วนยุทธศาสตร์สองประเทศ เช่นเดียวกับ “ดอน ปรมัตถ์วินัย” ส่งสารถึง "รัฐมนตรีต่างประเทศจีน" ร่วมมือเอาชนะความท้าทายปีสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 45 ปี

ในโอกาสครบรอบ 45 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน ในวันที่  1 ก.ค. 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้มีสารแสดงความยินดีถึงนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้มีสารแสดงความยินดีถึงนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน

ทั้งนี้ สารแสดงความยินดีของพล.อ.ประยุทธ์ มีใจความสำคัญว่า นายกรัฐมนตรีส่งคำอวยพรแก่ นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน และขอบคุณนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และนายหลี่ เค่อเฉียง ที่ได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ เน้นย้ำมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างกันในทุกระดับ สมกับภาษิตที่ว่า “ไทยกับจีนใช่อื่นไกล เป็นพี่น้องกัน” โดยตลอดระยะเวลา 45 ปีที่ผ่านมา ไทยกับจีนได้ร่วมกันพัฒนาความสัมพันธ์อันนำมาซึ่ง “การเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน”

ปัจจุบันจีนเป็นคู่ค้าที่สำคัญของไทย นักท่องเที่ยวชาวจีนมาเยือนไทยมีสัดส่วนมากที่สุดในจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่มาประเทศไทย ทั้งสองประเทศให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความเชื่อมโยง ผ่านโครงการความร่วมมือรถไฟไทย - จีน เพื่อส่งเสริมข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง และยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0

ท่ามกลางความไม่แน่นอนของโลก ซึ่งรวมถึงสถานการณ์โควิด-19 มีความจำเป็นที่ไทยและจีนจะร่วมมือกันรับมือกับความท้าทาย และขอยืนยันความมุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างใกล้ชิด  เพื่อยกระดับและขยายขอบเขตของการเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านต่อไป

159353342930

ขณะที่สารแสดงความยินดีของนายดอน มีใจความสำคัญว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ส่งความยินดีและความปรารถนาดีไปยังนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน พร้อมระบุว่า ตลอด 45 ปีที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศของสองฝ่ายได้มีบทบาทสำคัญในการบ่มเพาะความสัมพันธ์ จนพัฒนาไปสู่การเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน ไทยและจีนได้รับประโยชน์จากความร่วมมือที่เข้มแข็งตลอดมา โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาประเทศและความอยู่ดีกินดีของประชาชน ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง

นายดอน กล่าวว่า การเยือนของนายกรัฐมนตรีจีน เมื่อปี 2562 ช่วยตอกย้ำความเป็นหุ้นส่วนและความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความร่วมมือต่อไป และยังเห็นว่า  ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนได้ผ่านการทดสอบจากกาลเวลาและความท้าทายต่าง ๆ รวมทั้งความเอื้ออาทรจากรัฐบาล ภาคธุรกิจ และประชาชนของทั้งสองประเทศเพื่อเอาชนะสถานการณ์โควิด-19 ช่วยทำให้สายสัมพันธ์และความผูกพันลึกซึ้งยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ไทยมุ่งหวังที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับจีน  เพื่อเสริมสร้างการเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญและก้าวหน้า พร้อมกับสนับสนุนบทบาทที่สร้างสรรค์ของจีนในกรอบอนุภูมิภาคและภูมิภาคนี้