โควิดพลิกนายหน้าอสังหาฯบูม คนแห่ทำอาชีพ 2 เสริมรายได้

โควิดพลิกนายหน้าอสังหาฯบูม  คนแห่ทำอาชีพ 2 เสริมรายได้

นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ กลายเป็นอาชีพที่ 2 อาชีพที่3 ที่เข้ามาตอบโจทย์กลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดทำให้รายได้ลดลง โดยรายได้จากการขายมักจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ขั้นต่ำ3 % จากมูลค่าสินค้า

หลายอาชีพได้รับผลกระทบจากโควิด-19ทำให้รายได้ลดลง เลวร้ายสุดคือต้องตกงานแบบฟ้าผ่า แต่รู้ไหมว่า ยังมีอาชีพหนึ่งที่รายได้ดีและกำลังเป็นที่ต้องการในตลาดนั่นคือ “นายหน้าอสังหาริมทรัพย์” กลายเป็นอาชีพที่ 2 อาชีพที่3 ที่เข้ามาตอบโจทย์กลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดทำให้รายได้ลดลง โดยรายได้จากการขายมักจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ขั้นต่ำ3 % จากมูลค่าสินค้า

ประวิทย์ อนุศิริ นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า หลังโควิดคลี่คลายอาชีพนายหน้าอสังหาฯจะได้รับความสนใจจากกลุ่มคนรุ่นใหม่เพราะรองรับวิถีชีวิตและการทำงานที่อาศัยเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุน ส่งผลให้ช่วงที่ผ่านมาเกิดการทำงานแบบ “กิ๊กอีโคโนมี” (Gig Economy) ซึ่งเป็นการทำงานที่มีความยืดหยุ่นด้านเวลาสูง มีอิสระมากกว่างานประจำ และอาศัยแพลตฟอร์มออนไลน์ในการทำงาน ซึ่งเป็นเทรนด์การทำงานที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ซึ่งตั้งแต่จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้กลุ่มที่มีรายได้ประจำ รายได้ลดลง และมีความเสี่ยงต่อการตกงานสูง ‘อาชีพนายหน้าอสังหาฯ’ จึงเป็นคำตอบลงตัวที่สอดรับกับวิถีชีวิตใหม่หรือนิวนอลมอลที่ผู้คนนิยมทำงานที่บ้านมากขึ้น

“ที่ผ่านมามีทั้งแพทย์ วิศวกร นักบิน แอร์โฮสเตส เข้ามาเรียนรู้ทำอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้อีกหนึ่งช่องทางนอกจากงานประจำ ที่มีความไม่แน่เพิ่มขึ้นจากวิกฤติโควิด เพราะผลตอบแทนสูง ยกตัวอย่าง บ้านราคา1 ล้านบาทนายหน้าจะได้ค่าตอบแทน 3หมื่นบาท ยิ่งขายได้มากก็จะได้รับผลตอบแทนสูงขึ้น ซึ่งเมื่อเทียบหน้าหน้าสินค้าหรือบริการอื่น ถือว่าจูงใจมากที่สุดแล้ว”

ยิ่งในภาวะเศรษฐกิจขาลงเจ้าของโครงการ ต้องการระบายสต็อก จึงต้องการ ‘มดงาน’ ที่ช่วยในการขายสินค้าแทนที่จะโปรยเงินผ่านสื่อโฆษณาสู้จ้างนายหน้าอิสระ เข้าช่วยขายจะได้ผลตอบรับที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดเจน จึงต้องการยกระดับมาตรฐานนายหน้าอสังหาฯไทยให้เป็นที่ยอมรับ

“จากที่เป็นหมอตำแย พัฒนาให้เป็น หมอทำคลอดตามโรงพยาบาล แต่ไม่ใช่ว่าไปทำลายนายหน้าแบบเดิมแต่ต้องช่วยยกระดับนายหน้าตามศักยภาพที่มีอยู่ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล เพราะปัจจุบันยังมีหมอตำแยมีอยู่ แต่ถามว่า มีใครกล้าใช้บริการไหม คนส่วนใหญ่ยอมเสียเงินเพื่อที่มาทำคลอดเพื่อให้ได้รับบริการที่มีมาตรฐานความปลอดภัยที่ดีกว่า"

ปัจจุบันสัดส่วนนายหน้าอสังหาฯในตลาดส่วนใหญ่เป็นนายหน้า ต่างชาติ70% โดยเฉพาะจีน ส่วนที่เหลือ30% เป็นนายหน้าคนไทยรายย่อย ทั้งนี้เพราะมีความต้องการอสังหาฯจากลูกค้าต่างชาติ และสามารถสื่อภาษาต่างชาติได้ ทุกวันนี้ยังไม่มีกฎหมายควบคุมนายหน้าออกมา ใครก็สามารถเป็นนายหน้าได้ ดังนั้นสมาคมฯจึงพยายามสร้างมาตรฐานนายหน้าอสังหาฯ ขึ้นมารับรองเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่ใช้บริการ ก่อนเพราะการผลักดันพ.ร.บ.มาตรฐานวิชาชีพต้องใช้เวลา

“ขณะนี้ทางสมาคมฯ มีนายหน้า ที่ผ่านการประเมิน 3,700 คน (มีจำนวนทั้งสิ้น 8ระดับ) ถ้าไม่ติดโควิด เชื่อว่า จะมีจำนวนมากกว่า5,000 คนจากปัจจุบันที่สมาคมฯ มีสมาชิกที่เป็นบริษัทจำนวน200บริษัท หน้ารายย่อย1,000คน หากใครที่ผ่านการประเมินจะได้สิทธิในการเชื่อมโยงฐานข้อมูลคุณวุฒิวิชาชีพนายหน้าอสังหาฯ ลงระบบออนไลน์ผ่านช่องทางเว็บไซต์ TERRABKK.COM ซึ่งจะทำให้การประกาศเสนอขายทรัพย์มีความน่าเชื่อถือ และเพิ่มช่องทางการขายให้กับนายหน้าอสังหาฯมืออาชีพมากยิ่งขึ้น ”

นพดล ปิยะตระภูมิ ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า อสังหาฯเป็นอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่มีมูลค่าหลายแสนล้านบาท คนที่ทำอาชีพนี้มีรายได้เยอะเพราะคิดรายได้เป็นเปอร์เซ็นต์จากมูลค่าทรัพย์สินนั้นๆไม่ได้รับเป็นเงินเดือน เพราะฉะนั้นอาชีพนี้จำเป็นจะต้องรับความเชื่อถือ เชื่อมั่นจากผู้รับบริการ ปัจจุบันมีนายหน้าอสังหาฯ จากต่างประเทศเข้ามาในไทยมากขึ้น ในฐานะเป็นหน่วยงานรัฐ จำเป็นที่ต้องทำให้นายหน้าคนไทยพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น

“ถ้าในแง่ความสามารถเฉพาะบุคคลนายหน้าอสังหาฯคนไทยจะได้เปรียบเพราะอยู่ในประเทศไทย รู้บริบทตลาดแวดล้อม แต่ยังขาดการพัฒนาระบบที่สร้างความเชื่อมั่น ให้ผู้ซื้อขายทั้งในประเทศและต่างประเทศตามมาตรฐานสากล