‘เอ็มทีแอล’ปรับทัพธุรกิจ เจาะแพลตฟอร์ม‘ดิจิทัล’

‘เอ็มทีแอล’ปรับทัพธุรกิจ  เจาะแพลตฟอร์ม‘ดิจิทัล’

“เมืองไทยประกันชีวิต” ฝ่าวิกฤติโควิดสู่ “นิวนอร์มอล” เน้นประกันสุขภาพ พร้อมสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัล หวังเพิ่มช่องทางการขายที่หลากหลาย พร้อมประเมินเบี้ยรับรวมปีนี้ส่อติดลบ หลัง 4 เดือนแรก หดตัว 19% ผลจากกรมธรรม์ทยอยครบกำหนด ลุยเปิดตัวสัญญาเพิ่มเติมประกัน

นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจประกันชีวิตบนโลกวิถีใหม่ (New Normal) หลังยุคโควิด-19 ต้องปรับตัวมุ่งเน้นการสร้างความยั่งยืนสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่โควิด-19 เป็นตัวเร่งให้เร็วขึ้นและภาวะดอกเบี้ยต่ำนาน

ดังนั้นแผนการดำเนินธุรกิจหลังจากนี้ยังคงเน้นพัฒนาประกันความคุ้มครองและสุขภาพ รวมถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลตอบผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องทุกไลฟ์สไตล์ ภายใต้แนวคิด“MTL Everyday Life Patner” โดยยึดหลักลูกค้าเป็นศูนย์กลางด้วยกลยุทธ์ New Normal Now “MTL” รวมถึงการพัฒนาช่องทางการขายที่หลากหลายเพิ่มมากขึ้น

นายสาระ กล่าวว่า แม้สถานการณ์ด้านเบี้ยประกันภัยรับรวมของบริษัทในปีนี้ คาดว่า ยังคงเห็นตัวเลขติดลบอยู่ ซึ่งเป็นไปตามที่คาดไว้ จากในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมานี้ บริษัทมีเบี้ยประกันรับรวมที่ 22,356 ล้านบาท หดตัว 19% เป็นเบี้ยประกันรับปีแรกที่ 5,868 ล้านบาท หดตัว 19% และเบี้ยประกันต่ออายุที่ 16,488 ล้านบาท หดตัว 20% 

ทั้งนี้มาจากกรมธรรม์ที่ชำระเบี้ยประกันภัยครบกำหนดแล้วหากแต่ยังมีผลความคุ้มครองอยู่ (Paid up) เป็นจำนวนมากและในภาวะดอกเบี้ยต่ำ ต้องหันมาปรับพอร์ตสินค้าเน้นประกันความคุ้มครองและสุขภาพมากขึ้นแทนประกันแบบสะสมทรัพย์ ซึ่งเบี้ยประกันความคุ้มครองและสุขภาพต่ำกว่าประกันสะสมทรัพย์ถึง 10 เท่า

ขณะเดียวกัน แนวโน้มธุรกิจประกันชีวิตในช่วงไตรมาสแรกหดตัวที่ 1% จนถึงเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา โดยเป็นการติดลบ ที่ไม่ได้เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่เป็นช่วงเวลาที่ผู้ประกอบการได้มีการปรับเปลี่ยนแบบประกันและมีผลต่อเบี้ยประกันภัย ส่งผลให้ยอดขายของแต่ละบริษัทมีอัตราที่ลดลง ทั้งนี้ ยังคงเชื่อมั่นว่า ภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดคลี่คลายลงภาพรวมธุรกิจประกันภัยจะกลับมาเติบโตได้มากยิ่งขึ้น

ดยในส่วนประกันสุขภาพ ซึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็นบวก ส่วนกรณีปัญหาด้านกำลังซื้อแล้วทำให้คนมายกเลิกตอนนี้ ก็ยังไม่น่ากังวล แต่ในภาวะเช่นนี้ยังต้องจับตาทุกเดือน เพราะภาพในอนาคตยังประเมินได้ไม่ชัดเจนว่าโควิดจะอยู่ไปถึงเมื่อไหร่ เศรษฐกิจจะฟื้นตัวแบบไหน ขณะที่จีดีพีปีนี้มีโอกาสติดลบ 8% และเห็นจากตัวเลขระบบอุตสาหกรรมเฉพาะเดือนเม.ย.ที่หดตัวรุนแรง 20% และปีนี้ทั้งระบบคาดเบี้ยรับรวมหดตัว 3% ถึงหดตัว 5%

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นช่วงเวลาที่ผู้บริโภคได้ให้ความสำคัญต่อการรักษาสุขภาพมากขึ้น ล่าสุด จึงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์"สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ D Health “เก็ทง่าย จ่ายเต็มแม็กซ์” ให้ความคุ้มครองสุขภาพ ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยในแบบเหมาจ่ายตั้งแต่ 1 ล้านบาท สูงสุด 5 ล้านบาท เบี้ยประกันเริ่มต้น เช่น ผู้ชายอายุ 35 ปี ทุนประกัน 1ล้านบาท ค่าเบี้ยประกัน 17,000 บาทต่อปี และผู้หญิงอายุ 35 ปี ทุนประกัน 1 ล้านบาท ค่าเบี้ยประกัน 18,000 บาทต่อปี นอกจากนี้บริษัทยังได้พัฒนาด้านบริการโดยมุ่งสู่การเป็นดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ พัฒนาแอพพลิเคชั่น “MTL Click” เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า

บริษัทมั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนเบี้ยประกันความคุ้มครองและสุขภาพในปีนี้ยังเติบโตตามเป้าหมายที่ 99% จากปีก่อนเติบโตมากกว่า 10% ซึ่งถือว่าเติบโตมากกว่าระบบที่โตเพียง 10% โดยในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมานี้ ยังเห็นการเติบโตดีเป็นบวกถึง 30-35% แม้เบี้ยภาพรวมติดลบ