โค้งท้าย‘เอสเอสเอฟเอ็กซ์’ ขายทะลักเฉียด‘หมื่นล้าน’

นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด และในฐานะนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เปิดเผยว่า กองทุนรวมเพื่อการออมแบบพิเศษ หรือ SSFX เพื่อรับสิทธิหักลดหย่อนภาษีเพิ่ม 200,000 บาท สิ้นสุดการการขาย 30 มิ.ย. คาดมีโอกาสที่น่าจะเม็ดเงินไหลเข้ากองทุนแตะ 10,000 ล้านบาท เนื่องจากพบว่าในช่วง2วันที่ผ่านมานี้ มีเม็ดเงินไหลเข้ากองทุนSSFX เร่งตัวขึ้นมาก โดยเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2563 มียอดซื้อ อยู่ที่ระดับ 6,000 ล้านบาท และเพิ่มมาที่ระดับ 7,000 ล้านบาทในวันที่ 29 มิ.ย.2563

ทั้งนี้ เม็ดเงินไหลเข้ากองทุน SSFX ทั้งระบบที่ระดับ หมื่นล้านบาท ถือว่า เป็นตัวเลขที่น่าพอใจและตามที่คาดไว้ว่า โดยมีเม็ดเงินจะทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แม้ช่วงก่อนหน้านี้หลายคนอาจมองว่า เม็ดเงินไหลเข้าแผ่วลงไป เพราะก็มีนักลงทุนบางคน รอดูว่าจะมีการต่อสิทธิประโยชน์หรือไม่ เมื่อไม่มีการต่อสิทธิและใกล้วันสิ้นสุดการขายแล้วและอาจกลัวตกขบวน จึงเห็นเม็ดเงินไหลเข้ามาในช่วง3 วันสุดท้ายที่ผ่านมานี้

      สำหรับกองทุน SSFX ของ บลจ. กสิกรไทย แม้จะเปิดเสนอขายแค่กองเดียวไม่ได้ออกหลายกองทุนเหมือนบลจ. อื่นๆ ยังพบว่า มีสัดส่วนเม็ดเงินไหลเข้ากองทุน SSFX ติดอันดับ1ใน3 อย่างต่อเนื่อง

“กองทุน SSFX ยังทำหน้าที่ได้ดีมาอย่างต่อเนื่องในสภาพที่ไม่ปกติเช่นนี้ และสามารถช่วยสร้างบรรยากาศการลงทุนที่่ดีให้กับตลาดทุนไทยได้ในระดับหนึ่ง แม้ไม่มีการขยายระยะเพิ่มรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติมแล้วก็ตาม ผู้จัดการกองทุน มุ่งมั่นที่จะบริหารกองทุนSSFXให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง และสร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอให้กับผู้ลงทุน”

ขณะที่กองทุนเพื่อการออมแบบปกติ (SSF) ปัจจุบันเริ่มมีเม็ดเงินไหลเข้ากองทุนบ้างราว 200-300ล้านบาท คาดว่า ยังคงมีเม็ดไหลเข้ากองทุนนี้อย่างต่อเนื่องในปีนี้  ซึ่งจะเป็นตัวช่วยกระตุ้นการออมให้เพิ่มขึ้นมากขึ้น โดยยังมีเวลาพอที่ผู้ลงทุนยังสามารถเข้าลงทุนได้ และกองทุนดังกล่าวนั้นมีการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายสามารถซื้อเพื่อสะสมเงินออมในอนาคตได้ นอกจากนี้ก็ยังสามารถนำมาจัดพอร์ตร่วมกับกองทุนSSFXได้ด้วย

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)  กล่าวว่า ก.ล.ต.ได้ส่งหนังสือไปที่กระทรวงการคลังให้พิจารณาการขยายสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี ของSSFX  ตามที่สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (เฟทโก้) เสนอมาเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับทางกระทรวงการคลังจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะขยายเวลาสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีตามที่หน่วยงานส่งหนังสือไปหรือไม่