แกว่งตัวจากเรื่องเศรษฐกิจสลับกังวลการระบาด ในกรอบ 1320-1348 จุด

ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวขึ้นมากกว่า 2% หลังยอดบ้านรอปิดการขาย (Pending home sales) พ.ค.เพิ่มขึ้น 44.3% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ 15%, ดัชนีภาคการผลิต (PMI) เท็กซัสมิ.ย.เพิ่มขึ้นเป็น 13.6 จาก พ.ค.ที่ -28.0 เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สองต่อเนื่อง ขณะที่ Gilead Sciences ได้รับอนุมัติจากองค์การอาหารและยา (FDA) ให้สามารถจำหน่ายยา Redemsivir เพื่อรักษาอาหารโควิด ซึ่งผู้ป่วยเกินกว่าครึ่งจะมีอาการดีขึ้นหลังได้รับยาเป็นเวลา 5 วัน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในสินทรัพยเสี่ยง

การระบาดระลองสองจะยังมีสร้างความกังวล ตราบใตที่อัตราการเสียชีวิตยังไม่เพิ่ม แม้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะผันผวนจากการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อจากการระบาดระลอกสองที่ขึ้นไปเกินกว่าวันละ 4 หมื่นราย (จากจุดสูงสุดช่วงเม.ย. 3.5-3.9 หมื่นราย) แต่อัตราการเสียชีวิตต่อวัน ลดลงจาก 2.5-2.7 พันราย เหลือเพียงต่ำกว่า 1 พันรายตั้งแต่ 10 มิ.ย. (ล่าสุด 29 มิ.ย.ที่ 346 ราย) ซึ่งแสดงถึงความสามารถในการควบคุมผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งจะช่วยลดความกังวลในการกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติ และทำให้สหรัฐฯ ยังอยู่บนเส้นทางของการเปิดเศรษฐกิจ (reopening economy) แม้ต้องชะลอตามสถานการณ์ระบาดในบางพื้นที่ก็ตาม

คาดครม.อนุมัติตามศบค.เสนอผ่อนคลายเฟส 5 ให้กับกลุ่มกิจการที่มีความเสี่ยงสูง ทั้งโรงเรียน ห้างสรรพสินค้า สถานบริการประเภทผับ บาร์ ร้านอินเตอร์เน็ตจ รวมถึงอาบอบนวด เรามองการกลับมาเปิดธุรกิจดังกล่าวจะช่วยในเรื่องของการจ้างงานในภาคบริการ ซึ่งจะส่งผลบวกกลับมายังความสามารถในการบริโภคที่จะดีขึ้นในช่วงถัดไป ส่งผลบวกต่อกลุ่มค้าปลีก

Theme การลงทุนและกลุ่มที่น่าใจ คาดตลาดช่วงสั้นจะเพิ่มความระมัดระวังและเลือกหุ้นปลอดภัย (defensive) มากขึ้น ระหว่างรอประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการระบาด 1) ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 ออกมาดี ได้แก่ ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์ ได้แก่ SCC, IVL, AJ, PTL, TIP, THRE, STA 2) กลุ่มปลอดภัยหรือรายได้มั่นคง (defensive) ได้แก่ ADVANC, INTUCH, RATCH, SSP, SUPER 3) กลุ่มที่เห็นการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง EASTW, WHAUP, CPF, TU 4) กลุ่มสถาบันการเงินอยู่ใน valuation ต่ำและสะท้อนปัจจัยความกังวลไปพอสมควร BBL, KBANK 5) กลุ่มเดินเรือ PSL

ภาพรวมกลยุทธ์ แกว่งตัวโดยมีโมเมนตัมเก็งกำไรเป็นบวก คงมุมมองครึ่งหลังมิ.ย.-ก.ค. จะเป็นช่วงที่ผันผวนจากการระบาดระลองสอง ยังคงมองการปรับลดลง ในโซน 1300+/- จุด (โดยเฉพาะ 1260-1280 จุด) จะเป็นระดับที่ทำให้ภาพรวมตลาดกลับมาน่าสนใจในเชิงมูลค่า  // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร CPALL, ADVANC, WHAUP* / ขายชอร์ต AOT (เป้า 56 ตัดขาดทุน 62)

แนวรับ 1,306-1,320 จุด / แนวต้าน : 1,339-1,348 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

ยารักษาโควิดพร้อมจำหน่ายเดือนหน้า– Gilead ประกาศราคายา remdesivir ที่ใช้สำหรับรักษาโควิด ที่ 3.12 พันเหรียญฯ ต่อการรักษา 1 ครั้ง ด้านรัฐบาลทำข้อตกลงสั่งซื้อยา remdesivir กว่า 5 แสนขวด ภายใน ก.ย.นี้ ซึ่งคาดเพียงพอต่อการรักษากว่า 232,000 คน

ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน พ.ค.63 - อยู่ที่ 80.31 หดตัว 23.19% จากเดือน พ.ค.62 แต่ขยายตัว 2.86% จากเดือน เม.ย.63 ที่ MPI อยู่ในระดับ 78.08 ส่งสัญญาณดีขึ้นหลังจากผ่านคลายล็อกดาวน์ โดยอุตสาหกรรมอาหาร (ไม่รวมน้ำตาล) และยายังคงขยายตัวต่อเนื่อง

DTC – เตรียมเปิดโรงแรมเพิ่ม 4 แห่ง ก.ค. ได้แก่ D2 เขาใหญ่, D2 อ่าวนาง กระบี่, ดุสิตธานีกระบี่, ปทุมวันปริ้นเซส

ฮ่องกง – สภานิติบัญญัติจีนลงมติให้บังคบใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ในฮ่องกงแล้ววันนี้

ประเด็นติดตาม: 30 มิ.ย. – รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย, US Consumer Confidence เดือน มิ.ย. / 1 ก.ค. – US Manufacturing PMI เดือน มิ.ย. / 2 ก.ค. – FOMC Meeting Minutes

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)