‘เงินบาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘แข็งค่า’ ที่ 30.87 บาทต่อดอลลาร์

‘เงินบาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘แข็งค่า’ ที่ 30.87 บาทต่อดอลลาร์

ตลาดการเงินฟื้นตัวแต่ยังเลือกเก็บเงินสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่เงินบาทระยะสั้นแกว่งตัวในกรอบแคบ ยังไม่มีประเด็นใหม่เข้ามาในตลาดจึงไม่สามารถผ่านระดับ 30.90-31.10 บาทต่อดอลลาร์ไปได้ไกล

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 30.87 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 30.90 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ 30.80-31.00 บาทต่อดอลลาร์

ตลาดการเงินฟื้นตัวขึ้นในช่วงคืนที่ผ่านมาจากตัวเลขเศรษฐกิจฝั่งสหรัฐ ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 1.5% พร้อมกันกับEuro Stoxx 600 ที่ฟื้นตัว 0.4% อย่างไรก็ดี บอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10ปี กลับยังอยู่ในระดับต่ำเพียง 0.62% บนความกังวลว่าการระบาดของไวรัสโคโรนาในสหรัฐยังไม่สามารถควบคุมได้

เมื่อมองกลับมาฝั่งตลาดเงิน นักลงทุนบางส่วนจึงเลือกที่จะพักเงินไว้ที่สกุลเงินปลอดภัยก่อน ส่งผลดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นราว 0.2% และกลายเป็นเยนญี่ปุ่น (JPY) ที่อ่อนค่ามากที่สุด 0.5% เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าต้องกังวลกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในฝั่งเอเชียมาก ถ้าการระบาดของไวรัสกลับมาเป็นประเด็นสำคัญ

อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมัน WTI ที่ฟื้นตัว 3.1% ในคืนที่ผ่านมา บวกกับทิศทางการแข็งค่าของทองคำแตะระดับสูงสุดตลอดกาล พร้อมกันกับทองแดงในไตรมาสนี้ที่ฟื้นตัวแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2553  จะเป็นปัจจัยสนับสนุนสกุลเงินตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) และสกุลเงินที่เคลื่อนไหวตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ได้ต่อเนื่องระยะสั้น

ในฝั่งของเงินบาท ระยะสั้นแกว่งตัวในกรอบแคบเนื่องจากแรงกดดันของตลาดทุนที่ปิดรับความเสี่ยงสวนทางกับราคาทองที่สามารถยืนระดับสูงสุดได้แข็งแกร่ง แต่ขณะเดียวกันก็ไม่มีประเด็นใหม่เข้ามาในตลาดจึงไม่สามารถผ่านระดับ30.90-31.10 บาทต่อดอลลาร์ไปได้ไกล ส่วนในระยะถัดไป เชื่อว่าตลาดจะจับตาไปที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยมากที่สุด เพราะสามารถชี้ให้เห็นถึงภาพนโยบายการเงิน และมุมมองของค่าเงินบาทในอนาคตได้