กสิกรเขย่าตลาด ‘ฟู้ดเดลิเวอรี่’ เปิดตัวแพลตฟอร์ม ‘อีทเทเบิล’

ตลาด “ฟู้ดดิลิเวอรี่” คึกคักมากขึ้น หลังจาก บริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป(KBTG) บริษัทลูกของธนาคารกสิกรไทย(KBANK)เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ที่ชื่อว่า “อีทเทเบิล”(Eatable) สำหรับร้านอาหารและลูกค้า เพื่อบริการสั่งอาหารออนไลน์รูปแบบใหม่ครบวงจร ทั้งสำหรับการรับประทานในร้านหรือบริการจัดส่ง โดยไม่คิดค่าธรรมเนียม หลังจากก่อนหน้านี้ ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB) เพิ่งเปิดตัวแอพพลิเคชั่น โรบินฮู้ด ให้บริการสั่งอาหารออนไลน์โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมเช่นกัน

นายเรืองโรจน์ พูนผล ประธานบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) กล่าวว่า ​ผลกระทบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ “โควิด-19” ส่งผลกระทบต่อธุรกิจร้านอาหารค่อนข้างมาก โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ธุรกิจอาหารปีนี้ จะมีมูลค่า 3.8 แสนล้านบาท หดตัวลง 10% จากปีที่ผ่านมา เนื่องจากลูกค้าระมัดระวังตัวเองมากขึ้นในการทานข้าวนอกบ้าน ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป โดยหันมาใช้บริการดิลิเวอรี่ในการสั่งอาหารมาทานที่บ้านมากขึ้น

ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้ KBTG ออกแบบและพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ที่ชื่อว่า Eatable สำหรับร้านอาหารและลูกค้า เพื่อบริการสั่งอาหารออนไลน์รูปแบบใหม่ครบวงจร ทั้งสำหรับลูกค้าที่ทานที่ร้านและให้จัดส่ง 

โดยลูกค้าที่ต้องการทานที่ร้านสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดที่ติดอยู่บนโต๊ะหรือเปิดลิงก์ที่ Eatable ทำการสร้างให้ เพื่อสั่งอาหารผ่านเมนูออนไลน์แบบไร้สัมผัส (Contactless)ซึ่งปลอดภัย โดยไม่ต้องรอพนักงานรับออเดอร์ ซึ่งสามารถเลือกทานได้ที่ร้าน และสั่งอาหารล่วงหน้า และสามารถกำหนดเวลาในการรับอาหารได้ ไม่ต้องเสียเวลารอหน้าร้าน

สำหรับลูกค้าดิลิเวอรี่ มีการเปิดกว้างมากขึ้น เลือกให้คนที่ร้านไปส่ง หรือผู้สั่งอาหารเลือกผู้บริการจัดส่งเจ้าที่คุ้มค่าที่สุด และมีการมอบส่วนลดค่าบริการจัดส่งแก่ลูกค้าที่สั่งอาหารโดยตรงกับทางร้านอีกด้วย ด้านผู้ประกอบการสามารถจัดการหน้าร้านออนไลน์ เพื่อโปรโมทร้าน โดยการสร้าง แก้ไข หรือปรับเปลี่ยนข้อมูลเมนูอาหาร ราคา รายละเอียดข้อมูลของร้านได้เองทันทีอย่างอิสระ โดยไม่ต้องรออนุมัติ

ทั้งนี้ คาดว่า Eatable จะสามารถเชื่อมเข้าสู่บริการรับชำระเงินแบบออนไลน์ได้ในเดือนก.ย.นี้  ขณะเดียวกันไม่ใช่ตอบโจทย์ เฉพาะลูกค้าไทยเท่านั้น แต่อนาคต KBTG จะมีการพัฒนาแพลตฟอร์ม โดยจะมีการเปิดตัวมินิโปรแกรมไคไท่เตี่ยนไช่ (Kai Tai Dian Cai) บริการสั่งอาหารสำหรับนักท่องเที่ยวจีนผ่านแอพวีแชท (WeChat) ในช่วงปลายปีนี้ด้วยเช่นกัน หรือคาดว่าจะสามารถเปิดบริการได้ล่วงหน้า 1 เดือนก่อนที่จะมีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างเป็นทางการ

“จากผลกระทบโควิด-19 ทำให้เมื่อธุรกิจอาหารกลับมาเปิดบริการ กว่าจะเห็นการกลับมา reopening ช้ามาก ยังติดลบ 70 % ดังนั้นธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ต้องใช้การช่วยเหลืออย่างหนักหน่วง ดังนั้นจึงมีความคิดที่จะใช้เทคโนโลยี เพื่อเข้ามาช่วยธุรกิจอาหาร เพื่อตอบโจทย์ช่วงโควิด-19และหลังโควิด-19 ดังนั้นแพลตฟอร์มนี้ถือเป็นโจทย์ หรือโลกใหม่ สำหรับธุรกิจร้านอาหารในอนาคต”

อย่างไรก็ตาม การเปิดแพลตฟอร์มดังกล่าว KBTG ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมร้านอาหาร หรือผู้ใช้บริการ เพราะสิ่งที่ KBTG หรือกสิกรทำ จุดประสงค์ คืออยากช่วยร้านค้า ช่วยลูกค้า จึงมีการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ โดยสุดท้าย KBTG หวังว่า เมื่อลูกค้า ร้านค้าใช้บริการแพลตฟอร์มนี้ อนาคตลูกค้าเหล่านี้จะเข้ามาเป็นลูกค้าธนาคาร และใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินของธนาคารเองในที่สุด ดังนั้นจึงไม่ได้ตั้งเป้าหมายการเติบโต หรือยอดการใช้งานผ่านแพลตฟอร์มนี้ เพราะตระหนักดีว่า ความยั่งยืนของธนาคาร คือการช่วยเหลือลูกค้าอย่างใจจริง