‘โอสถานุเคราะห์’เฉือนหุ้น ‘โอเอสพี’โกยเงิน3.3พันล.

‘โอสถานุเคราะห์’เฉือนหุ้น  ‘โอเอสพี’โกยเงิน3.3พันล.

ตระกูล “โอสถานุเคราะห์” โยนบิ๊กล็อตหุ้น “โอสถสภา” รวม 3% หรือกว่า 90 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ย 37 บาทให้นักลงทุนสถาบันใน-ต่างประเทศ เผยโกยเงินกว่า 3.3 พันล้าน ขณะสัดส่วนหุ้นลดเหลือ 27.69% ผู้บริหารแจงนำเงินไปทำโครงการด้านศิลปวัฒนธรรม-การศึกษา

วานนี้ (29 มิ.ย.2563) พบความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ปรับตัวลง3.18% มาปิดตลาดที่ระดับ 38.00 บาท หรือลดลง 1.25 บาท มูลค่าซื้อขายรวม 1,152.72 ล้านบาท โดยมีรายการซื้อขายหลักทรัพย์บนกระดานใหญ่ (บิ๊กล็อต) 12 รายการ จำนวน 90.2 ล้านหุ้น มูลค่ารวมกว่า 3,337.86 ล้านบาท ที่ราคาซื้อขายเฉลี่ย 37 บาทต่อหุ้น ซึ่งถือว่าต่ำกว่าราคาบนกระดาน

ด้าน OSP แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าบริษัทได้รับแจ้งจากผู้ถือหุ้นของบริษัทว่าผู้ถือหุ้น 4 คนในกลุ่ม Orizon ได้แก่ 1.Orizon Limited 2.นายเพชร โอสถานุเคราะห์ 3.นายภูรี โอสถานุเคราะห์ และ 4.นายภูรัตน์ โอสถานุเคราะห์ ได้ทำรายการจำหน่ายหุ้นของบริษัทจำนวน 90.11 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 3% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท ให้แก่นักลงทุนสถาบันไทย และนักลงทุนสถาบันต่างประเทศโดยเฉพาะเจาะจง โดยจะทำการซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ วันที่ 29 มิ.ย.นี้ และจะส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นกลุ่ม Orizon ลดลงจากสัดส่วน 30.69% มาอยู่ที่ 27.69% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท

นายเพชร โอสถานุเคราะห์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP เปิดเผยในเอกสารชี้แจงว่า เนื่องด้วยทางครอบครัวของเรามีโครงการต่างๆ ที่ได้ไตร่ตรองมานานแล้ว กล่าวคือโครงการด้านศิลปวัฒนธรรมและด้านการศึกษา จึงต้องใช้งบประมาณสนับสนุนสูงเกินกว่าที่ครอบครัวเราจะทำได้ ดังนั้นเรามีความจำเป็นที่จะต้องทำการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของการลงทุน โดยการขายหุ้นบางส่วนในบริษัท ซึ่งจะทำให้สัดส่วนของหุ้นที่ถือโดยกลุ่มครอบครัวของผมและ Orizon Group เปลี่ยนจาก 30.69% เป็น 27.69%

“อย่างไรก็ตามครอบครัวเรายังมีความเชื่อมั่นในบริษัทอย่างสูง และพร้อมที่จะยืนหยัดเป็นผู้ถือหุ้นหลักกลุ่มหนึ่งของบริษัทต่อไปอีกยาวนาน การขายหุ้นบางส่วนในครั้งนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทแต่อย่างใด และเราพร้อมที่จะสนับสนุนบริษัทให้มีความเจริญก้าวหน้าต่อไปอีกยาวนาน”

นางสาวนฤมล เอกสมุทร นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง กล่าวว่ากรณีการขายหุ้น OSP จำนวน 90 ล้านหุ้น ที่ราคาช่วง 36.25-37.00 บาท ซึ่งคิดเป็นส่วนลดจากราคาปิดล่าสุด 5-7% นั้น มองว่าเป็นผลกระทบต่อราคาหุ้นในระยะสั้นแน่นอน เพราะด้วยธรรมชาติของนักลงทุนมักไม่ชอบเจ้าของหรือผู้บริหารขายหุ้น อย่างไรก็ตาม มองว่าราคาหุ้นจะพอยืนได้แถวระดับ 36 บาท เนื่องจากใกล้เคียงราคาขายบิ๊กล็อตและคิดเป็นพีอีที่ระดับ 27.7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 28 เท่าเล็กน้อย