จำนวนผู้ติดเชื้อสหรัฐเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

จำนวนผู้ติดเชื้อสหรัฐเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีปรับลงกว่า 40.5 จุด หรือ -3% จากความกังวลของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-10 ระลอก 2

หลังจำนวนผู้ป่วยใหม่ในหลายประเทศมียอดทำ New High ประกอบกับการปรับลดคาดการ์ณ GDP ไทย จาก IMF และกนง. ยังทำให้เกิด Sentiment เชิงลบต่อตลาด ขณะที่วันศุกร์ SET Index รีบาวด์หลังจากที่ปรับตัวร่วงหลายวัน ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,330.34 จุด (+4.46 จุด) Volume 4.7 หมื่นลบ. ต่างชาติ -2,550.92 ลบ. TFEX Net +10,395 สัญญา ตราสารหนี้ +646 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ผลสำรวจม.มิชิแกนชี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขานรับคลายล็อกดาวน์

+สหรัฐเผยดัชนี PCE พื้นฐานขยับขึ้นในเดือนพ.ค. หลังร่วงลงในเดือนเม.ย.

+จีนเผยกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ค. +6% ส่งสัญญาณศก.จีนเริ่มฟื้นตัว

+ แม้สถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลังหลายประเทศคลายล็อคดาวน์แต่ในประเทศไทยไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มในวันหยุดที่ผ่านมา

+ปลายงวด Q2 ลุ้น window dressing และเม็ดเงินกองทุน SSFX หนุนตลาด

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 730.05 จุด -2.84% ทั้งสัปดาห์ -3.31% หลังบางรัฐสั่ง lockdown อีกครั้งเนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้น รัฐเท็กซัสและรัฐฟลอริด้ามีคำสั่งปิดบาร์อีกครั้ง ส่วนรัฐวอชิงตันระงับคลายล็อคเฟส4

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 23 เซนต์ -0.6% ปิดที่ 38.49 ดอลลาร์/บาร์เรล กังวลการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยืดเยื้ออาจทำให้อุปสงค์น้ำมันดิบจะอ่อนแอลง

-ตลาดหุ้นภูมิภาคที่เปิดแล้วเช้านี้อยู่ในแดนลบเฉลี่ย -1.5%

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 2.11 แสนลบ. ค่าเงินบาท 30.86 บาท/US

*จับตาสหรัฐเผยยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนพ.ค. และดัชนีการผลิตเดือนมิ.ย.

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19ในสหรัฐเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้บางรัฐต้อง Lockdown อีกครั้ง ขณะที่ผู้ติดเชื้อทั่วโลกทะลุหลัก 10 ล้านราย คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,307-1,340 จุด

 

หุ้นรายงานพิเศษ

หุ้น Defensive Stock

กลุ่มสื่อสาร ADVANC INTUCH  อัตราปันผล 3.95-4.65%

กลุ่มโรงพยาบาล CHG BCH อัตราปันผล 1.58-2.05%

กลุ่มขนส่ง BEM BTS  อัตราปันผล 1.58-4.29%

กลุ่มสาธารณูปโภค DIF TTW อัตราปันผล 4.44-6.51%

 

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากรัฐออกแพ็กเกจกระตุ้นเที่ยวในประเทศ (ERW CENTEL AOT AAV BA ASAP)
  • หุ้นเข้าคำนวณดัชนี SET50 (BPP TTW) 
  • หุ้น Defensive Stock (ADVANC INTUCH DIF TTW BEM BTS CHG BCH)

หุ้นมีข่าว   

(+) GULF (Bloomberg Consensus 34.70 บาท)  ควักเงินกว่า 7 พันล้านบาท เข้าซื้อหุ้น INTUCH สัดส่วน 4.59% หวังผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง 5-6% หรือรับเงินปันผลปีละ 400 ล้านบาท ยุพาพิน” ส่งสัญญาณเข้าซื้อเพิ่มอีกในอนาคต เล็งปิดดีลซื้อโรงไฟฟ้าปีนี้ 500 เมกะวัตต์ โบรกฯ คาด GULF มีกำไรส่วนเพิ่มจากการลงทุน INTUCH อีก 300 ล้านบาท ในปี 64-65  (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) BGRIM (Bloomberg Consensus 51.81 บาท)  เซ็นสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุ ลุยโรงไฟฟ้าไฮบริด ขนาด 95 เมกะวัตต์ มูลค่า 3.8 พันล้านบาท ป้อนสนามบินอู่ตะเภา เล็งขยายเฟส 2 เพิ่มหลังปี 67ปรียนาถ” แย้มจ่อขอกกพ.นำเข้า LNG เพิ่ม 1 แสนตัน เพื่อใช้ในโรงไฟฟ้าใหม่ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) THCOM (Bloomberg Consensus 3.96 บาท) พุทธิพงษ์” วางกรอบ 2 แนวทางบริหารดาวเทียมไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) หลังสิ้นสุดสัมปทานปี 64 ย้ำตั้งบริษัทร่วมทุน CAT-THCOM เพื่อศึกษาดาวเทียมประเภทวงโคจรต่ำ ไม่เกี่ยวกับไอพีสตาร์ ล่าสุด THCOM แจ้งผนึก CAT จัดตั้งบริษัทร่วมทุน เนชั่น สเปซ แอนด์ เทคโนโลยี” รุกให้บริการธุรกิจดาวเทียมวงโคจรต่ำ (Low Earth Orbit Satellite)  (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+/-) NOK (Bloomberg Consensus - บาท)   นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) NOK วาระพิเศษ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีมติรับทราบการเลิกกิจการ และชำระบัญชีของบริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด โดยมีบริษัท นกมั่งคั่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ NOK เข้าถือหุ้นในสัดส่วน 49.65% ของทุนจดทะเบียน หรือคิดเป็น 1,470 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) JMT (Bloomberg Consensus  22.17 บาท) ชี้จังหวะดีเร่งซื้อหนี้ เตรียมฉีดเงินทุน 4 พันล้านบาท ซื้อหนี้เสียทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกันเข้ามาบริหารเพิ่ม แย้มปัจจุบันเจรจา 4-5 ราย ทยอยได้ข้อสรุปปีนี้ทั้งหมด ลุ้นสถาบันการเงินในประเทศทยอยปล่อยหนี้เสียเพิ่มในไตรมาส 3-4/2563  (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BAY (Bloomberg Consensus  24.10 บาท) ปล่อยสินเชื่อซอฟต์โลนจำนวน 9.3 พันล้านบาท ช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบการมากกว่า 4,500 ราย ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อสนับสนุนมาตรการช่วยเหลือลูกค้าจาก ธปท. (ที่มา ทันหุ้น)

(+) DOD (Bloomberg Consensus -บาท) บิ๊กบอสคนใหม่ DOD "ธนิน ศรีเศรษฐี" เดินหน้าปรับโครงสร้างองค์กร สร้างความคล่องตัว ดันผลงานเติบโตก้าวกระโดด แย้มผลงานไตรมาส 2/2563 น่าพอใจ ระบุลูกค้ารายใหญ่ป้อนออเดอร์ 60% เทรนด์รักสุขภาพกำลังมา ลั่นกำลังการผลิตเหลือเฟือ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BDMS (Bloomberg Consensus 118.36 บาท)  BDMS เตรียมเซ็นสัญญาร่วมมือกับ "ผิงอัน เฮลธ์" วันนี้ (29 มิ.ย.63) เพื่อขยายบริการสุขภาพมาตรฐานระดับโลกแบบครบวงจรสู่ประเทศจีน ขณะที่โบรกประเมินผลงานจะผ่านไตรมาสที่แย่ที่สุดในไตรมาส 2/2563 และมีโอกาสฟื้นตัวได้จากการกลับมาของผู้ป่วยต่างชาติในครึ่งปีหลัง 2563 เคาะเป้าซื้อเป้า 27 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CK STEC UNIQ และ ITD การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
(รฟม.) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์
–มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่มีนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข รองผู้ว่าการด้านวิศวกรรมและก่อสร้าง รฟม. เป็นประธาน เมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน (RFP) และรายละเอียดการประกาศเชิญชวนเอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการฯ (ที่มาข่าวหุ้น)

ความเห็นเรามีมุมมองบวกต่อการเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มและสายสีม่วง ทั้งนี้ บริษัทสนใจเข้าร่วมชิงงาน 1) รถไฟทางคู่เด่นชัย -เชียงของ และขอนแก่น-หนองคาย มูลค่า 3.1 หมื่นล้านบาท 2) รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้และส้มตะวันตกมูลค่ารวม 1.74 แสนล้านบาท 3) งานก่อสร้างโรงพยาบาลจุฬาภรณ์มูลค่า 4 พันล้านบาท และ 4) เขื่อนหลวงพระบางของบริษัท CKP มูลค่างาน 8 หมื่นล้านบาทเพื่อเพิ่ม Backlog อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาใกล้ราคาเหมาะสม Consensusu เราจึงแนะนำให้ "ซื้อเมื่ออ่อนตัว"