ลุ้นต่ออายุ 'ผบ.ทบ.' เอาจริง หรือ เกมค้ำบารมี

ลุ้นต่ออายุ 'ผบ.ทบ.' เอาจริง หรือ เกมค้ำบารมี

"ไม่รู้ ผบ.ทบ. จะได้เกษียณหรือไม่" จุดเปิดเรื่องจาก "นายพล" คนหนึ่ง จนกระแสจุดติด กลายเป็นเรื่องแอบฮือฮาในกองทัพบก

 เป็นช่วงเวลาที่มี “เซอร์ไพรส์” กันเป็นว่าเล่น เมื่อจู่ๆ มีปฏิบัติการทหารสังกัดกองทัพภาคที่ 3 สนธิกำลังร่วมกับตำรวจตระเวนชายแดนจับกุมอาวุธสงครามล็อตใหญ่ แถวตะเข็บชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก มีการระบุว่า เพื่อเตรียมสร้างสถานการณ์ทางการเมือง ก่อนครบรอบ 88 ปี วันเปลี่ยนแปลงการปกครอง “24 มิ.ย.2475” แค่เพียงวันเดียว

ท่ามกลางข้อกังขาว่า “เรื่องจริง” หรือ “จัดฉาก” เพราะในห้วงการแพร่ระบาดโควิด-19 และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ยังไม่หมดอายุ ต่างก็รู้กันดีว่า เจ้าหน้าที่จะเข้มงวดเป็นพิเศษ โดยเฉพาะช่องทางเข้า-ออก ตามแนวชายแดน ทั้งเส้นทางปกติ และเส้นทางธรรมชาติ เพื่อป้องกันแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองซึ่งเกรงว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนทำให้เกิดการแพร่ระบาดรอบสอง 

แต่ก็ยังมีคนใจกล้าทำผิดกฎหมาย อีกทั้งยังไม่รู้แหล่งที่มาของอาวุธสงครามกองมหึมา

ที่เซอร์ไพรส์ไปกว่านั้น คำสั่ง บิ๊กแดงพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้จัดพิธีรำลึก พล.อ.พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดชและ พ.อ.พระยาศรีสิทธิสงครามเป็นครั้งแรก พร้อมแจกจ่ายเอกสารของกองทัพบกที่มีเนื้อหายกย่องบุคคลทั้งสองท่าน เป็นทหารประชาธิปไตย จงรักภักดีต่อสถาบัน ครั้งเคยต่อกรกับ “คณะราษฎร” ที่ทำ ‘รัฐประหาร’ ล้มล้าง ‘ราชบัลลังก์’

แต่ที่เรียกความสนใจจากคนในกองทัพ มากกว่าเหตุการณ์เกี่ยวโยงกับวันครบรอบ “24 มิถุนายน 2475” คือข่าวการต่ออายุราชการของ บิ๊กแดง”! ทำเอากำลังพลเช็คกันให้วุ่นว่า ข้อเท็จจริงเป็นประการใด ในสถานการณ์การเมืองที่พลิกผันได้ตลอดเวลา 

เรื่องนี้สำคัญอย่างยิ่ง หากเป็นจริงย่อมจะส่งผลต่อการปรับย้ายนายทหารประจำปี 2563 ที่จะกลายเป็นทางตันทำให้หลายๆ ตำแหน่งขยับขึ้นไม่ได้

ทว่า คงต้องฟังหูไว้หู แม้จะเป็นเรื่องซุบซิบ ซีฟข่าวกันเป็นการภายใน “กองทัพบก” มาร่วม 2 สัปดาห์แล้ว โดยเริ่มจากทหารยศ นายพลคนหนึ่ง ได้เปรยออกมาว่า ไม่รู้ ผบ.ทบ.จะได้เกษียณหรือไม่ จากนั้นจึงมีการพูดกันปากต่อปาก จนขยายวงไปยังหน่วยทหารในต่างจังหวัด

จะว่าไปแล้ว การต่ออายุราชการบิ๊กกองทัพ ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เคยเกิดขึ้นตั้งแต่สมัย “จอมพลถนอม กิตติขจร” และ “จอมพลประภาส จารุเสถียร” ที่พร้อมใจกันยึดเก้า “ผู้บัญชาการทหารสูงสุด” และ “ผู้บัญชาการทหารบก” คนละเกือบ 10 ปี จนก่อให้เกิดปัญหาภายในกองทัพมากมาย 

มิหนำซ้ำบุคคลทั้งสองยังมีส่วนเกี่ยวพันกับเหตุการณ์สำคัญทางการเมือง ทั้ง 24 มิถุนายน 2575 และ 14 ตุลา 2519

ขณะเดียวกัน มีข้อมูลอีกด้านที่ “แย้ง” กับข่าวต่ออายุราชการ ผบ.ทบ. เพราะ “บิ๊กแดง” ได้พูดในที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ชัดถ้อยชัดคำว่า “เหลือเวลา 2 เดือนกว่า ก่อนจะเกษียณอายุราชการ” 

อีกทั้งในการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วย มักจะหนีบ บิ๊กบี้พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. เต็งหนึ่งแคนดิเดต ผบ.ทบ. ไปแนะนำตัวด้วยเสมอ

จึงมีการวิเคราะห์กันว่า เรื่องนี้น่าจะเล็ดลอดมาจากทหารประจำ ในสำนักงาน “บิ๊กแดง” ที่หวังดี คงความสำคัญให้ “นาย” เพราะเป็นสัจธรรมที่ ผบ.ทบ. ทุกคนต้องประสบ เมื่อใกล้ถึงวาระเกษียณอายุราชการ จากที่เคยมีคนล้อมหน้าล้อมหลัง จะเหลือคนใกล้ชิดเพียงไม่กี่คน ในขณะที่คำสั่งก็เริ่มไม่ศักดิ์สิทธิ์ เพราะ “สปอตไลท์” เริ่มจับไปยัง ‘ว่าที่ ผบ.ทบ.’ คนใหม่

ในสถานการณ์ ‘ลมเพลมพัด’ ในการเมืองไทย “กองทัพ” ถือเป็นสถาบันหลัก ที่พิทักษ์ ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมถึงเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนการทำงานของ“รัฐบาล” 

ฉะนั้น คงต้องวัดใจ ผู้มีอำนาจในอีก 2 เดือนข้างหน้าว่า...การต่ออายุราชการ บิ๊กแดงจะเป็นเรื่องเอาจริงหรือ แค่เกมสร้างข่าว เพื่อค้ำบารมีให้ นายก่อนหมดอำนาจในกองทัพอย่างเป็นทางการ