SET Index ปรับลงจนเริ่มเข้าเขตแนวรับทางปัจจัยพื้นฐาน

SET Index ปรับลงจนเริ่มเข้าเขตแนวรับทางปัจจัยพื้นฐาน

ตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯฟื้นตัวจากความเคลื่อนไหวธนาคารกลาง

โดยธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะทำการสนับสนุนสภาพคล่องในสกุลเงินยูโรให้กับธนาคารกลางต่างๆนอกเขตยูโรโซน เพื่อสนับสนุนการรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจกการระบาดของโควิด ขณะที่คณะกรรมการประกันเงินฝากรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (FDIC) ผ่อนคลายกฎเกณฑ์ในการลงทุน (Volcker rule – เกิดขึ้นเพื่อควบคุมความเสี่ยงการลงทุนของสถาบันการเงินหลังการเกิดวิกฤติซับไพรม์) โดยยอมให้ธนาคารสามารถทำการลงทุนได้มากขึ้น และไม่จำเป็นต้องกันสำรองเงินสดสำหรับการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ระหว่างบริษัทในเครือ ส่งผลให้หุ้นสถานบันการเงินและวาณิชธนกิจปรับขึ้น

ตัวเลขการติดเชื้อ, รายงานทางเศรษฐกิจและการปรับประมาณการ จะเป็นปัจจัยที่นักลงทุนติดตาม และทำให้ตลาดผันผวนไปอีกระยะ ตัวเลขการติดเชื้อรายวันของสหรัฐฯ ขึ้นมาทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 4 หมื่นราย ทำให้รัฐเท็กซัสชะลอการผ่อนคลายในระยะต่อไป ซึ่งหากสถานการณ์ระบาดยังเร่งตัว เราอาจเห็นมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นในอีกหลายรัฐ ซึ่งอาจจะส่งผลให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจชะลอกว่าที่ตลาดคาดการณ์ อย่างไรตามผลการดำเนินงานของบจ.ที่ถูกปรับลดประมาณการลงมาตลอดต้นปีจากความกังวลโควิด อาจมีโอกาสถูกปรับเพิ่มประมาณการหากผลประกอบการจริงไม่แย่อย่างที่นักวิเคราะห์กังวล ซึ่งเราเห็นแนวโน้มดังกล่าวเริ่มเกิดขึ้นในบางกลุ่มอาทิ อสังหาริมทรัพย์

ดัชนีปรับลดลงถึงโซนแนวรับทางปัจจัยพื้นฐาน เมื่อ 12 มิ.ย. เราได้ประเมินแนวรับการปรับตัวจากการหมุนกลุ่ม (Rotation) ของเงินลงทุนอยู่ที่ 1260-1316 จุด คิดเป็นระยะ 1/3 ของกรอบการเคลื่อนไหวทางพื้นฐานที่อิงด้วย PER 15-17 เท่า ของกำไรต่อหุ้นปี 2564 (1260-1428 จุด) กลยุทธ์ในเชิงพื้นฐานคือการเข้าซื้อ หรือบริหารความเสี่ยงให้ต้นทุนของการมีหุ้น อยู่ในกรอบล่างของระดับ Valuation range

Theme การลงทุนและกลุ่มที่น่าใจ 1) ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 ออกมาดี ได้แก่ ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์ ได้แก่ SCC, IVL, AJ, PTL, TIP, THRE, STA 2) กลุ่มปลอดภัยหรือรายได้มั่นคง (defensive) ได้แก่ ADVANC, INTUCH, RATCH, SSP, SUPER 3) กลุ่มที่เห็นการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง EASTW, WHAUP, CPF, TU 4) กลุ่มสถาบันการเงินอยู่ใน valuation ต่ำและสะท้อนปัจจัยความกังวลไปพอสมควร BBL, KBANK

ภาพรวมกลยุทธ์ คงมุมมองครึ่งหลังมิ.ย.-ก.ค. จะเป็นช่วงที่ผันผวนจากการระบาดระลองสอง ยังคงมองการปรับลดลง ในโซน 1300+/- จุด จะเป็นระดับที่ทำให้ภาพรวมตลาดกลับมาน่าสนใจในเชิงมูลค่า  // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร BBL, ADVANC, THRE* / ขายชอร์ต AOT (เป้า 56 ตัดขาดทุน 62)

แนวรับ 1,306 จุด / แนวต้าน : 1,353 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

ตลท.เปิดให้ซื้อขาย HYDRO, PACE ชั่วคราว ก่อนแขวน SP ยาว –ระหว่างวันที่ 4 มิ.ย. – 3 ก.ค. 2563 ผ่านบัญชี Cash Balance หลังขึ้น SP ตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค. 2563 และจะขึ้นอีกครั้งในวันที่ 7 ก.ค. 2563 จนกว่าจะส่งงบการเงินครบถ้วน

เปิดเทรด SSI ก่อนเพิกถอน – ตลท.เตรียมเปิดซื้อขายหุ้น SSI เป็นเวลา 7 วัน ก่อนมีผลเพิกถอนออกจากตลาด ระหว่างวันที่ 1-10 ก.ค. 2563 ผ่านการซื้อขายด้วยบัญชี Cash Balance โดยไม่กำหนดราคาซื้อขายสูงสุด ต่ำสุด (Ceiling & Floor)

FED สั่งห้ามแบงค์จ่ายปันผลและซื้อหุ้นคืนในไตรมาส 3 ปีนี้ เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันต่อสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 พร้อมเสริมว่าผลทดสอบ Stress test ของธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐเผยว่ายังมีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง

ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสูงกว่าที่คาด - จำนวน 1.48 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ที่ระดับ 1.35 ล้านราย  และยังคงมีจำนวนมากกว่า 1 ล้านรายติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 14

ประเด็นติดตาม: 30 มิ.ย.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย, US Consumer Confidence เดือน มิ.ย. / 1 ก.ค. – US Manufacturing PMI เดือน มิ.ย. / 2 ก.ค. – FOMC Meeting Minutes

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)