‘เดลล์’ ดันสตอเรจชิงไอทีครึ่งปีหลัง

‘เดลล์’ ดันสตอเรจชิงไอทีครึ่งปีหลัง

“เดลล์ อีเอ็มซี” คาดลงทุนไอทีครึ่งปีหลังแนวโน้มขยายตัว วิกฤติโควิดเร่งปฏิกิริยาธุรกิจองค์กรนำเทคโนโลยีมาใช้รับมือการเปลี่ยนแปลง

เปิดตัว “พาวเวอร์ สโตร์” สร้างมิติใหม่โครงสร้างพื้นฐานสตอเรจ มุ่งช่วยลูกค้าเพิ่มความยืดหยุ่น เปิดทางลงทุนตามโจทย์ธุรกิจ

นายนพดล ปัญญาธิปัตย์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย เดลล์ เทคโนโลยีส์ กล่าว ภาพรวมการลงทุนไอทีในประเทศไทยช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง วิกฤติโควิด-19 ผลักดันให้ลูกค้าตื่นตัว มีความต้องการนำเทคโนโลยีมาใช้ขับเคลื่อนธุรกิจ เริ่มมีการจัดการ วางแผนการลงทุนเตรียมความพร้อมสำหรับบริหารธุรกิจในภาวะที่ไม่ปกติ เศรษฐฏิจมีความไม่แน่นอน ขณะเดียวกันรองรับสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป

นอกจากนี้ มองเรื่องการสร้างความต่อเนื่องให้กับธุรกิจ การทำงานระยะไกล เวอร์ชวลเดสก์ท็อปอินฟราสตรักเจอร์ โควิดเป็นทั้งตัวกระตุ้น และทำลายวิธีการทำงานแบบเดิมๆ แต่ทั้งนี้ทุกคนมีโอกาสที่จะสร้างอะไรใหม่ๆ โดยผู้ที่จะไปต่อได้ดีคือรายที่สามารถนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม

สำหรับเดลล์ ผลิตภัณฑ์ไฮไลต์เน้นนำเสนอเทคโนโลยีที่ทันสมัย สถาปัตยกรรมแบบใหม่ ระบบที่มีความสามารถในการปรับตัวได้ มีความชาญฉลาดผสานเข้าไป พร้อมมีเครื่องมือที่จะเข้าไปช่วยบริหารจัดการดาต้าที่เติบโตขึ้นอย่างมหาศาล สำคัญช่วยให้ลูกค้าลงทุนอย่างคุ้มค่า ปูทางสร้างความอยู่รอดใน 3-5 ปีข้างหน้า

“วิกฤติโควิดกำลังผลักดันให้ภาคธุรกิจนำไอทีมาทรานสฟ์ฟอร์มธุรกิจเร็วขึ้นและเป็นรูปธรรมมากขึ้น หลายองค์เข้ามาปรึกษาพร้อมตั้งคำถามว่าเทคโนโลยีใดในองค์กรตนที่เก่าและไม่สามารถตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงในยุคปัจจุบันได้ ด้านเทคโนโลยีที่เลือกลงทุนต้องมีความง่าย ยืดหยุ่น คล่องตัวสูง ตอบโจทย์ธุรกิจยุคนิวนอร์มอลที่อาจไม่มีความแน่นอนในอนาคต สำคัญลดข้อจำกัดของระบบไอทีที่อาจส่งผลต่อการทรานส์ฟอร์มธุรกิจ”

อย่างไรก็ดี ปริมาณดาต้าที่เติบโตแบบก้าวกระโดดได้เพิ่มความท้าทายให้กับฝ่ายไอที ซึ่งต้องบริหารจัดการระบบ ทำให้ง่าย และมีความยืดหยุ่นเพียงพอ ล่าสุด เปิดตัว “เดลล์ อีเอ็มซี พาวเวอร์สโตร์ (Dell EMC PowerStore)” แพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานสตอเรจที่ทันสมัย พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความท้าทายต่างๆ ในยุคข้อมูล เมื่อเทียบกับสตอเรจอาเรย์ในระดับมิดเรนจ์รุ่นก่อนหน้า ให้ความเร็วที่สูงกว่าถึงเจ็ดเท่า พร้อมการตอบสนองที่เพิ่มขึ้นกว่าสามเท่า

ผลสำรวจโดยเดลล์ระบุว่า ปริมาณข้อมูลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจากปี 2559-2562 เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 693% ทั้งมีความท้าทายด้านอื่นๆ จากผลสำรวจที่ระบุว่า 85% ขององค์กรธุรกิจกำลังพยายามนำแอพพลิเคชั่นกว่าครึ่งที่อยู่บนพับบลิคคลาวด์มาบริหารเองที่ไพรเวทคลาวด์ ด้วยมีความกังวลเรื่องความปลอดภัย รวมถึงต้นทุนในการบริหารจัดการ

ดังนั้นเชื่อว่าเดลล์พาวเวอร์สโตร์จะสามารถตอบโจทย์ไอทียุคใหม่ได้ดี ด้วยจุดเด่นด้านการบริหารจัดการดาต้า ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ตั้งแต่ธุรกิจขนาดกลางกระทั่งองค์กรขนาดใหญ่ ลูกค้าสามารถเลือกลงทุนได้ตามงบประมาณ และเพิ่มเติมได้ภายหลังเมื่อมีการขยายธุรกิจ

พร้อมระบุว่า จุดต่างของเดลล์คือความสามารถที่จะทำให้องค์กรทำไอทีทรานส์ฟอร์เมชั่น และบิสิเนสทรานส์ฟอร์เมชั่นได้อย่างราบรื่น โดยมีโจทย์ที่สำคัญคือทำอย่างไรจะทำให้ลูกค้าประสบความสำเร็จในการนำเทคโนโลยีไปปรับใช้