การระบาดระลอกสองในหลายประเทศ ทำให้ตลาดกลับมากังวลความเสี่ยงเศรษฐกิจ

การระบาดระลอกสองในหลายประเทศ ทำให้ตลาดกลับมากังวลความเสี่ยงเศรษฐกิจ

IMF ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกลงเหลือ -4.9% จากเดิม -3.0%

ขณะที่ปรับลดการเติบโต GDP โลกปี 2564 เหลือ +5.4% จาก +5.8% จากสถานการณ์โควิดที่กระทบต่อภาคแรงงานมากกว่าคาด โดยประมาณการล่าสุด GDP สหรัฐฯ อยู่ที -8% (จาก -5.9%), ยูโรโซน เป็น -10.2% (จาก -7.5%), จีน +1.0% (จาก +1.2%) ขณะที่ปรับลด GDP ไทยเหลือ -7.7% (จาก -6.7%) ทั้งนี้การปรับลดกประมาณการ GDP ข้างต้นแม้จะอยู่ในความคาดคิดของนักลงทุน แต่ก็กดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์อย่างน้ำมัน

ตลาดกังวลการระบาดระลอกสองและข่าวสหรัฐฯ อาจเก็บภาษีสินค้าจากยุโรป ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันของโลกยังคงปรับเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดเกินกว่า 1.7 แสนราย/วัน (จากไม่เกิน 1 แสนวันในช่วง มี.ค.-เม.ย.) ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายวันในสหรัฐฯ ล่าสุด (24 มิ.ย.) อยู่ที่ 3.9 หมื่นราย ทำสถิติสูงสุดใหม่เหนือตัวเลขเดิมเมื่อ 24 เม.ย. และเพิ่มขึ้นอย่างมากจากต่ำสุดแถวต้นมิ.ย.ที่ 1.9 หมื่นราย ทำให้ตลาดกลับมากังวลการออกมาตรการต่างๆจะกลับมากระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่มีข่าว สหรัฐฯ อาจพิจารณาเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากอังกฤษ, ฝรั่งเศส, สเปน และเยอรมนี มูลค่า 3.1 พันล้านเหรียญฯ

ประมาณการเศรษฐกิจมีความเสี่ยงทางลง หากการระบาดยืดเยื้อ แม้สถานการณ์ระบาดในไทยดีขึ้นอย่างมาก แต่การระบาดระลอกสองที่กำลังเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของโลก จะยังเป็นปัจจัยที่จำกัดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ รวมถึงการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว อีกทั้งเงื่อนไขทางเศรษฐกิจที่แย่ลง อาจทำให้นักท่องเที่ยวลดการใช้จ่าย และเน้นการท่องเที่ยวภายในประเทศมากกว่าเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งจะทำให้กลุ่มท่องเที่ยวและค้าปลีก รวมถึงเศรษฐกิจไทยที่พึ่งพิงการใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ยังคงมีความเสี่ยงทางลง

Theme การลงทุนและกลุ่มที่น่าใจ 1) ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 ออกมาดี ได้แก่ ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์ ได้แก่ SCC, IVL, AJ, PTL, TIP, THRE, STA 2) กลุ่มปลอดภัยหรือรายได้มั่นคง (defensive) ได้แก่ ADVANC, INTUCH, RATCH, SSP, SUPER 3) กลุ่มที่เห็นการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง EASTW, WHAUP, CPF, TU 4) การระบาดระลอกสอง

ภาพรวมกลยุทธ์ คงมุมมองครึ่งหลังมิ.ย.-ก.ค. จะเป็นช่วงที่ผันผวนจากการระบาดระลองสองและผลการดำเนินงานที่อาจผิดคาด กรอบการเคลื่อนไหวทางพื้นฐานที่ 15-17x PER อยู่ที่ 1260-1430 จุด ดังนั้นการปรับลดลง ในโซน 1300+/- จุด จะเป็นระดับที่ทำให้ภาพรวมตลาดกลับมาน่าสนใจในเชิงมูลค่า  // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร  CPF, WHAUP*, THRE* / ขายชอร์ต AOT (เป้า 56 ตัดขาดทุน 62)

แนวรับ 1,300 จุด / แนวต้าน : 1,353 จุด สัดส่วน : เงินสด 70% : พอร์ตหุ้น 30%

 

ประเด็นการลงทุน

ศบค.จ่อคลายล็อกเฟส 5 เตรียมเคาะ 29 มิ.ย. – ศบค.เผยร่างคลายล็อกเฟส 5 ปลดล็อกไม่กำหนดเวลาปิดห้าง พร้อมผ่อนผันเกณฑ์ควบคุมสถานที่บริการอื่นๆ ชง ศคบ. เคาะ 29 มิ.ย. ก่อนเริ่มวันที่ 1 ก.ค.นี้

กนง.คงดอกเบี้ย พร้อมหั่นเป้า GDPกนง.ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามคาดที่ระดับ 0.50% พร้อมปรับลดคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจไทยปี 63 ลงเหลือ -8.1% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ -5.3%, ตัวเลขส่งออกคาด -10.3% ขณะที่ เงินเฟ้อคาด -1.7%

ตลท.เตรียมขยายเวลามาตรการ Short Sell – ตลท.เตรียมประกาศขยายเวลาการใช้หลักเกณฑ์ราคาเสนอขาย Short Sell จากเดิมที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 มิ.ย. จากสถานการณ์ของตลาดหุ้นที่ยังคงผันผวน โดยรายละเอียดดังกล่าวจะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้า

ประเด็นติดตาม: 30 มิ.ย.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย, US Consumer Confidence เดือน มิ.ย. / 1 ก.ค. – US Manufacturing PMI เดือน มิ.ย. / 2 ก.ค. – FOMC Meeting Minutes

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)