'บิทาซซ่า' เปิดแอพใหม่ ชำระเงินด้วย 'คริปโตฯ'

'บิทาซซ่า' เปิดแอพใหม่ ชำระเงินด้วย 'คริปโตฯ'

“บิทาซซ่า” โบรกเกอร์สินทรัพย์ดิจิทัล ปักธงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ล่าสุด เปิดบริการทางเลือกใหม่ ชำระเงินผ่านร้านค้าพันธมิตรกว่า 50 แห่ง นำเงินดิจิทัลมาใช้จ่ายในชีวิตจริงได้ นอกจากเป็นช่องทางระดมทุน หวังบุกเบิกขยายฐานผู้ใช้งานในไทยถึงล้าน

นายกวิน พงษ์พันธ์เดชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทาซซ่า จำกัด ผู้ให้บริการธุรกิจนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Broker) เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายเป็นผู้นำในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีธุรกิจสามส่วนหลัก คือ ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล, วาณิชธนกิจสินทรัพย์ดิจิทัลและแฟลตฟอร์มชำระเงินออนไลย์ด้วยบล็อกเชน

ภายใต้กลยุทธ์ของบริษัท มุ่งการเร่งเทคโนโลยีด้านสินทรัพย์ดิจิทัลให้เป็นที่รู้จัก และรับรู้ในวงกว้างผ่านโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพ ทั้งคุณภาพของสินทรัพย์ดิจิทัลที่นำเสนอต่อลูกค้า, การรักษาความปลอดภัย, ความรวดเร็วและความโปร่งใส รวมถึงสภาพคล่องในการซื้อขาย

โดยล่าสุด บริษัทเตรียมขยายธุรกิจสู่การเป็นผู้ให้บริการชำระเงินด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลกับร้านค้าพันธมิตรกว่า 50 ร้านค้า ในกลุ่มร้านค้าและร้านอาหารที่มีบริการส่งถึงบ้าน กลุ่มท่องเที่ยว เพื่อให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสามารถ ใช้สินทรัพย์ดิจิทัล และเงินทั่วไป (Fiat Currency) ในการแลกเปลี่ยนได้อย่างไร้รอยต่อด้วย เชื่อมั่นว่า การบริการชำระเงินด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลจะเป็นแนวโน้มกระแสหลักได้อย่างแน่นอน

อีกทั้ง ยังมีแผนขยายงานสู่การเป็นวาณิชธนกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัล ด้วยการเชื่อมต่อผู้เสนอขายสินทรัพย์ดิจิทัลต่อนักลงทุนและตลาดทุน โดยบริษัทตั้งอยู่ในศูนย์กลางของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลในภูมิภาคนี้ ที่จะสามารถเป็นสะพานเชื่อมระหว่างผู้ประกอบการสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถระดมทุนระหว่างกันได้

“เราจะมีการให้ผลประโยชน์กับร้านค้าพันธมิตร ที่ใช้บริการแลกเปลี่ยนเงินสินทรัพย์ดิจิทัลกับเงินบาทในช่วง 6 เดือนแรกไม่มีค่าใช้จ่าย และยังสามารถสะสม BTZ โทเคนของเราไว้ สามารถนำมาใช้จ่ายได้เมื่อเรามีการเก็บค่าบริการหลังจากนั้น หรือสะสมเงินดิจิทัลอื่นๆ ไว้ได้ ส่วนลูกค้าที่ซื้อขายเงินดิจิทัลก็ได้รับความสะดวกสบายจากบริการใหม่ๆ ตลอด 24 ชม. โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ที่ลูกค้าต้องอยู่บ้านเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งถ้าใช้โทเคน BTZ จ่ายจะได้ส่วนลดถูกมากเกินครึ่งของค่าธรรมเนียมสกุลเงินดิจิทัละอื่นๆ เริ่มต้นที่ 0.25%”

นายกวิน กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายในระยะ 5 ปีหลังจากนี้ ที่จะเป็นตัวเลือกแรกในระดับภูมิภาคของการระดมทุนซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีฐานลูกค้าผู้ใช้งานเติบโตระดับหลักแสนถึงหลักล้านคน มีส่วนแบ่งการตลาดในไทยสัดส่วน 30-50% และมียอดเทรด 300 ล้านบาทต่อวัน หลังจากเริ่มดำเนินธุรกิจในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมานี้ ปัจจุบันมีฐานลูกค้าราว 10,000 คน และมียอดเทรดสูงสุด 60 ล้านบาทต่อวัน นอกจากนี้ยังหวังว่าจะสร้างตลาดบิทคอยน์ในไทย ให้มีสัดส่วน 1-5% ของโลกจากปัจจุบันเป็นตลาดที่เล็กมาก