วิษณุ ถกเจโทร เพิ่ม 'สถานกักตัว' แบบทางเลือก ปูทางนักธุรกิจญี่ปุ่นเข้าไทย

วิษณุ ถกเจโทร เพิ่ม 'สถานกักตัว' แบบทางเลือก ปูทางนักธุรกิจญี่ปุ่นเข้าไทย

วิษณุแจงเจโทรไทยพร้อมเพิ่มสถานกักกันตัวทางเลือกเปิดทางภาคธุรกิจญี่ปุ่นเดินทางเข้าประเทศแบบจำกัดจำนวนไม่เกินวันละ100คน เตรียมเสนอรอศบค.ไฟเขียว

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังหารือกับ นายทาเคทานิ อัทสึชิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือเจโทร กรุงเทพ ว่าเจโทรได้แจ้งให้ทราบว่าอยู่ระหว่างการประสานงานและหารือกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงแนวทางที่ประเทศไทยจะพิจารณาผ่อนปรนให้นักธุรกิจญี่ปุ่นที่มีความจำเป็นจะต้องติดต่อธุรกิจหรือเข้ามาเป็นผู้บริหารงานในประเทศไทยให้เดินทางเข้ามาได้ โดยต้องหาข้อสรุปแนวปฏิบัติที่ชัดเจนร่วมกันก่อนเสนอให้กับศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.พิจารณาเพื่อให้มีผลปฎิบัติต่อไป 

ทั้งนี้ทางโจโทรได้แจ้งว่ามีนักธุรกิจญี่ปุ่นที่มีความต้องการที่จะเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยหลายพันคน ซึ่งตนได้แจ้งว่าหากเราเปิดประเทศเมื่อไหร่ก็จะให้นักธุรกิจเข้ามา แต่จำกัดจำนวนวันละไม่เกิน 100 คนและต้องมีแนวงทางปฏิบัติที่ชัดเจน 

ส่วนประเด็นว่าจะมีการกักตัว 14 วันหรือไม่นั้นทางเจโทรแจังว่านักธุรกิจที่จะเข้ามามี 2 ประเภท คือกลุ่มที่เข้ามาเป็นผู้บริหาร หรือเข้ามาทำงานระยะยาวหลายเดือน หรือต้องอยู่เป็นปี โดยกลุ่มนี้พร้อมที่จะกักตัวตามข้อกำหนด 14 วัน ขณะที่อีกกลุ่มที่เดินทางเข้ามาติดต่อธุรกิจในระยะสั้นเพียง 2 - 3 วันนั้นหากมีข้อยกเว้นให้ หรือมีข้อกำหนดที่เป็นหลักปฏิบัติพิเศษก็จะเป็นสิ่งที่น่ายินดีมาก 

นอกจากนี้ ได้หารือถึงความต้องการให้ไทยมีการเพิ่มสถานกักตัวทางเลือก (Alternative State Quarantine) ซึ่งเป็นตัวเลือกในการกักตัวของนักธุรกิจต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันยังมีจำนวนน้อยอยู่คือประมาณ 900 ห้องเท่านั้น ซึ่งทางเจโทรเสนอว่าไทยควรมีการเพิ่มในส่วนนี้เนื่องจากมีความต้องการมากกว่าพันห้อง ซึ่งก็ได้แจ้งให้เจโทรทราบว่าไทยมีความพร้อมที่จะเพิ่มจำนวนได้หากมีความจำเป็น 

ส่วนการเพิ่มเงื่อนไขพิเศษที่จะรองรับนักลงทุนญี่ปุ่นตามที่นายกรัฐมนตรีเคยให้นโยบายว่าจะต้องพิจารณาเป็นพิเศษให้คนที่จะเข้ามาทำงานในประเทศไทย นายวิษณุกล่าวว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยกันเป็นพิเศษในโอกาสนี้แต่ต่อไปญี่ปุ่นอาจไปตั้งวงคุยกับกระทรวงการต่างประเทศอีกครั้ง 

ส่วนการหารือกันในประเด็นอื่นๆนายวิษณุกล่าวว่าเจโทรได้รายงานให้ทราบเกี่ยวกับดัชนีความเชื่อมั่นของนักธุรกิจและนักลงทุนญี่ปุ่นที่ทำธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งเป็นการรายงานตามปกติทุก 6 เดือน ทั้งในส่วนของความเชื่อมั่นในระยะ 6 เดือนที่ผ่านมา และความเชื่อมั่นที่มีในระยะ 6 เดือนข้างหน้า ซึ่งมีแนวโน้มที่ดีแต่รายละเอียดยังเป็นความลับจนกว่าเจโทรจะมีการแถลงข่าว