'พรินซิเพิล' ชูหุ้นปันผล หลบภัยช่วงวิกฤติโควิด

'พรินซิเพิล' ชูหุ้นปันผล หลบภัยช่วงวิกฤติโควิด

บลจ.พรินซิเพิล ยืนยันหุ้นปันผลยังน่าสนใจ แม้กลุ่มแบงก์โดนเทขายหนักจากมาตรการแบงก์ชาติ เผยหุ้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน-สาธารณูปโภคยังปันผลงาม มั่นใจเป็นทางรอดช่วงวิกฤติโควิด

นายวิน พรหมแพทย์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า ผู้จัดการกองทุนยังคงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นปันผลในขณะนี้ โดยเฉพาะในช่วงดอกเบี้ยต่ำ และเมื่อหุ้นกลุ่มแบงก์ปรับตัวลดลงยิ่งสะท้อนถึงความต้องการของผู้ลงทุนได้ชัดเจนว่า ลงทุนเพราะต้องการปันผลเป็นหลัก

ดังนั้น ขณะนี้ผู้จัดการกองทุน ยังคงแนะนำการลงทุนในลักษณะเช่นนี้อยู่ โดยจะเห็นว่าในช่วงที่ผ่านมามีกลุ่มหุ้นปันผลหลายตัวที่จ่ายปันผลได้ดีและอยู่รอดพ้นในช่วงวิกฤติโควิด-19มาได้ อย่างเช่น กลุ่มโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค ไม่ว่าจะเป็น ไฟฟ้า ประปา

นายวิน กล่าวว่า ระยะยาวคาดว่าตลาดหุ้นยังมีโอกาสปรับฐานลงได้อีก ตอนนี้มองเป็นจังหวะที่กลับมาพิจารณาการลงทุนในกลุ่มหุ้นปันผลอีกรอบได้ เพราะหุ้นปันผล เป็นกลุ่มหุ้นที่มีความต้านทานต่อตลาด แม้ว่าในช่วงตลาดปรับตัวขึ้นอาจจะขึ้นช้ากว่าตลาด แต่เมื่อตลาดปรับตัวลงก็ปรับตัวลงน้อยกว่าตลาด ทำให้ยังสามารถสร้างผลตอบแทนเพิ่มได้

อย่างไรก็ตามการลงทุนกองทุนหุ้นปันผล มองว่า ยังคงเหมาะกับผู้ลงทุนที่ไม่ชอบความหวือหวามากเกินไป และสามารถได้รับปันผลมาช่วยในช่วงที่ดอกเบี้ยต่ำ

ดังนั้นบริษัทยังคงแนะนำ “กองทุนเปิดพรินชิเพิล ไทย ไดนามิก อินคัม อิควิตี้(PRINCIPAL -TDIF)” และอีกรูปแบบที่เป็น กองทุนเปิดพรินซิเพิล ไทย ไดนามิก อินคัม อิควิตี้ ชนิดเพื่อการออม หรือ (PRINCIPAL-TDIF-SSF) นับว่า เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี

สำหรับ กองทุนเปิดพรินซิเพิล ไทย ไดนามิก อินคัม อิควิตี้ (PRINCIPAL-TDIF) ลงทุนหุ้นไทยที่มีอัตราเงินปันผลสูง เช่น กลุ่มสาธารณูปโภค บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตน้ำประปาเอกชนรายใหญ่ที่สุดของประเทศ , บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทชั้นนำด้านพลังงาน และระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยในช่วงภาวะหุ้นผันผวน การเน้นลงทุนในหุ้นที่จ่ายเงินปันผลดี จะลดความผันผวนของราคาได้

โดยกองทุน PRINCIPAL-TDIF สามารถสร้างผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน( 22 มิ.ย.2563) เท่ากับ -11.26 % ยังสูงกว่า เทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน SET Index เท่ากับ -14.41% สะท้อนว่ากองทุนยังสามารถทำผลตอบแทนสูงกว่า 3.15%

ขณะเดียวกันกองทุนสามารถจ่ายปันผลแล้ว 2 ครั้ง รวม 1.71 บาท หรือจ่ายปันผลเฉลี่ยปีละ 5% ยังสูงกว่าตลาดจ่ายปันผลที่เฉลี่ยปีละ 3% สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าตลาดอย่างต่อเนื่องและดีกว่าคู่แข่งด้วย

“กองทุน PRINCIPAL-TDIF จะเน้นลงทุนในหุ้นปันผลสูง แต่ไม่ใช่จะลงทุนทุกตัวที่ปันผลสูงแต่ปันผลสูง แต่ไม่ใช่จะลงทุนทุกตัวที่ปันผลสูงแต่ประการใด แต่ต้องเป็นหุ้นที่มีกระแสเงินสดชัดเจนว่าสามารถจ่ายปันผลได้ต่อเนื่องในอนาคตด้วย”