ฺBDMS - ซื้อ

ฺBDMS - ซื้อ

มีโอกาสฟื้นตัวได้ตั้งแต่ 2H63 เป็นต้นไป

Event

แนวโน้มธุรกิจ และปรับประมาณการกำไร

lmpact

จะผ่านไตรมาสที่แย่ที่สุดไปแล้วใน 2Q63

เรามองว่า สถานการณ์ระบาดของ COVID-19 จะส่งผลกระทบกับโรงพยาบาลที่มีรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติสูงในปี 2563 โดยผลกระทบจะรุนแรงที่สุดใน 2Q63 (หนักสุดในเดือนเมษายน) เนื่องจากมีการปิดสนามบินเพื่อคุมโรคระบาด ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยโดยรวมของ BDMS ใน 2Q63 จะลดลงอย่างมาก
YoY จากทั้งผู้ป่วยชาวไทยและต่างชาติ LJ;Oเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน คาดว่าสถานการณ์น่าจะฟื้นตัวขึ้นจากระดับที่แย่ที่สุด เนื่องจากการกลับมาใช้บริการมากขึ้น ภายหลังการระบาดลดลง

มีโอกาสฟื้นตัวได้จากการกลับมาของผู้ป่วยต่างชาติใน 2H63

ยิ่งไปกว่านั้น เราพบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันในหลาย ๆ ประเทศในเอเซียลดลงต่ำกว่า 100 โดยเฉพาะในกลุ่ม CLMV จีน ไต้หวัน ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย ระหว่างเดือนมีนาคม-มิถุนายน ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐ ยุโรป ตะวันออกกลาง อินเดีย และอีกหลายประเทศยังอยู่ในระดับสูง (เกิน 100
รายต่อวัน) ติดต่อกันมาหลายเดือนจากสถานการณ์ล่าสุด เรามองลบน้อยลงกับสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 ในกลุ่มประเทศ CLMV จีน และไทยในช่วง 2H63 ดังนั้น เราคิดว่าธุรกิจหลักของ BDMS น่าจะฟื้นตัวได้จากการที่สถานการณ์ระบาดผ่อนคลายลง เราคิดว่าบางประเทศน่าจะยกเลิกมาตรการควบคุมได้จากสถานการณ์ที่ดีขึ้น ซึ่งรวมถึงการที่ประเทศไทยกลับมาเปิดรับผู้ป่วยต่างชาติอีกครั้งภายใน 4Q63 เราคิดว่า BDMS จะฟื้นตัวได้เร็วกว่าโรงพยาบาลอื่นในระดับเดียวกัน เนื่องจากการกระจายรายได้ที่ดี โดยมีสัดส่วนจากตะวันออกกลาง 8.7% ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติคิดเป็น 29% ของรายได้รวม โดยเป็นรายได้จากผู้ป่วยญี่ปุ่น (2.4%), CLMV (2%) และจีน (1%) ใน 1Q63

ปรับประมาณการกำไรปี FY63-64F

เราปรับสมมติฐานของเราเพื่อสะท้อนแนวโน้มที่ดูเป็นบวกมากขึ้น ทำให้ประมาณการกำไรสุทธิปีFY63F ของเราเพิ่มขึ้น 3.9% เป็น 6.84 พันล้านบาท และปี FY64 F เพิ่มขึ้น 12.3% เป็น 7.96 พันล้านบาท เนื่องจาก i) เราปรับลดสัดส่วน SG&A/ยอดขายปี FY63-64F ลงเหลือ 21.0% (จากเดิมที่ 21.5% และ 21.9%) ii) เราปรับเพิ่มประมาณการรายได้จปี FY64F ขึ้นอีก 5.7% เป็น 8.03 หมื่นล้านบาทสะท้อนถึงการฟื้นตัวของผู้ป่วยต่างชาติและไทย รวมทั้งการควบคุมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 1Q63

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และให้ราคาเป้าหมาย DCF กลางปี 2564 ที่ 27.00 บาท (ใช้ WACC ที่ 8.0% และTG ที่ 2.0%) เราเลือก BDMS เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มโรงพยาบาลในขณะนี้

Risks

การแทรกแซงของทางการ ปัญหาเสถียรภาพการเมืองรอบใหม่ของไทย และเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่