'ดาวโจนส์ ฟิวเจอร์' ฟื้นแล้ว! ขานรับ 'ทรัมป์' ยันข้อตกลงการค้ายังมีผล

เว็บไซต์ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ ฟิวเจอร์ ฟื้นกลับมาอีกครั้ง หลังดิ่ง 398 จุด เช่นเดียวกับดัชนีเอสแอนด์พี 500 ฟิวเจอร์ และดัชนีแนสแด็ก-100 ที่ปรับลดลงในช่วงสั้น ๆ ก่อนหน้านี้

การฟื้นตัวในตลาดหุ้นล่วงหน้าของสหรัฐมีขึ้นไม่นานหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตยืนยันว่า ข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนยังคงมีผลสมบูรณ์ และหวังว่าจีนจะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ให้ไว้

ขณะที่ นายปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาด้านการค้าของทำเนียบขาว ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ข้อตกลงการค้าสหรัฐ-จีน ยังไม่สิ้นสุด และความเห็นของเขาถูกตีความไปไกลจนผิดเพี้ยน ข้อตกลงการค้าที่เขาพูดถึงไม่เกี่ยวกับข้อตกลงการค้า เฟส 1 ซึ่งยังคงมีผลตามเดิม

ก่อนหน้านี้ นายนาวาร์โรให้สัมภาษณ์ในรายการ "เดอะ สตอรี" ของช่องฟอกซ์นิวส์ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ตัดสินใจฉีกข้อตกลงการค้ากับจีนแล้ว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ข่าวกรองมั่นใจมากขึ้นว่า การระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) กำเนิดจากในห้องแล็บเมืองอู่ฮั่น

"มันจบแล้ว นี่เป็นจุดเปลี่ยน" นายนาวาร์โรเผย "พวกเขา (คณะผู้แทนการค้าของจีน) มาที่นี่เมื่อวันที่ 15 ม.ค. เพื่อลงนามข้อตกลงการค้า และนั่นเป็นเวลา 2 เดือนเต็มหลังจากพวกเขารู้ว่าไวรัสแพร่ระบาดออกมาแล้ว"

นายนาวาร์โรเสริมว่า ขณะนั้นเป็นช่วงเวลาที่จีนได้ส่งคนหลายแสนคนเข้ามาในสหรัฐเพื่อแพร่ไวรัส และไม่กี่นาทีหลังจากเครื่องบินของผู้แทนจีนออกจากสนามบินสหรัฐ ก็เริ่มมีข่าวเกี่ยวกับการระบาดนี้

ด้านนักวิเคราะห์มองว่า ถ้อยแถลงของนายนาวาร์โรถือเป็นสัญญาณว่าหลังจากนี้ตลาดหุ้นจะเผชิญทั้งความกังวลเรื่องการค้าและโรคระบาดพร้อมกัน

"ข้อความในวันนี้อาจหมายความว่า ไวรัสและตลาดหุ้นขาลงสามารถเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันได้" นายจิม พอลเซน หัวหน้านักกลยุทธ์ด้านการลงทุนของบริษัทลูทโฮลด์ กรุ๊ป เผยกับซีเอ็นบีซี