'อีริคสัน' ชี้โควิดหนุน '5จี' ขยายตัว 

เธอ คาดว่า ปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตต่อสมาร์ทโฟนหนึ่งเครื่องในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียจะสูงถึง 25 กิกะไบต์ภายในปี 2568 หรือเติบโตเฉลี่ย 33% ต่อปี โดยอัตราการเติบโตเกิดจากพื้นที่ใช้งานและการใช้สัญญาณเครือข่าย 4จี และการใช้สมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงอัตราเฉลี่ยการใช้ดาต้าต่อสมาร์ทโฟน คาดว่าการใช้งานโมบายล์ดาต้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะสูงถึง 25 เอ็กซ์ตราไบต์ต่อเดือน จากปกติที่ 3.2 เอ็กซ์ตราไบต์ต่อเดือน หรือเพิ่มขึ้น 40%

นางนาดีล กล่าวอีกว่า ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เปิดใช้ระบบเครือข่าย 5จี เชิงพาณิชย์เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา มีการประเมินว่าในปี 2568 ระบบเครือข่าย 5จี จะสร้างรายได้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ราว 41,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2568 โดยปริมาณผู้ใช้ 5จี จะเพิ่มเป็น 2,800 ล้านราย โดยสิ้นปีนี้จะมีผู้ใช้ 5จีจำนวน 190 ล้านราย จากที่ปัจจุบันมีผู้ให้บริการมากกว่า 75 โอเปอเรเตอร์ที่เปิดให้บริการ

อย่างไรก็ดี เทคโนโลยี แอลทีอี หรือ 4จีจะยังเป็นเทคโนโลยีหลักในการสื่อสารไปอี 3-4 ปี โดยภายในปี 2565-2568 ผู้ใช้งานเทคโนโลยีจะเริ่มเปลี่ยนจาก 4จี ไปสู่ 5จี จนในปี 2568 การใช้งาน 5จีจะเป็น 50% ของโครงข่ายไร้สายทั่วโลก โดยมีปริมาณการใช้งานข้อมูลต่อเดือน 164 เอ็กซ์ตราไบต์ โครงข่าย 5 จะครอบคลุม 65% ในปี 2568

นอกจากนี้ ผลวิจัยล่าสุดโดยของอีริคสัน คอนซูเมอร์ แล็ป ระบุว่า 83% ของผู้ตอบแบบสำรวจจาก 11 ประเทศ ที่ใช้งานเทคโนโลยีไอซีทีอย่างมีนัยยะสำคัญช่วงล็อคดาวน์ เผยว่าในช่วงล็อคดาวน์ คนเหล่านั้นเปิดใช้บริการเทคโนโลยีไอซีทีมากขึ้น ทั้ง แอพพลิเคชั่นสำหรับการเรียนออนไลน์ แอพพลิเคชั่นดูแลสุขภาพที่ช่วยปรับตัวเข้ากับการใช้นิว นอร์มอลให้มากขึ้น 

"โดยสรุปโควิด-19 ทำให้เราเห็นความสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น เห็นจากการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคจากมาตรการล็อคดาวน์ ทำให้การใช้งานเครือข่ายมือถือและอินเตอร์เน็ตบ้านเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน โดยในย่านที่พักอาศัยมีปริมาณการใช้ดาต้าอินเตอร์เน็ตผ่านเครือข่ายบรอดแบนด์เติบโตราว 20-100%"